เมื่อวานนี้ทาง SCB และการท่าอากาศยานได้เชิญสื่อมวลชนมากมายไป “ทดลอง” ปั่นเส้นทางปั่น Sky Lane ที่จะเปิดใช้งานจริงในวันเสาร์ที่ 26 ธันวาคมนี้ Ducking Tiger ก็ได้มีโอกาสไปลองปั่นด้วยเช่นกันเราเลยเก็บข้อมูลต่างๆ มาฝากสำหรับท่านที่สนใจอยากไปลองปั่นจริงครับ
เวลาเปิดทำการของ Sky Lane คือ 6:00-18:00 ทุกวันในช่วงแรก และในเฟสต่อไป จะมีการเปิดถึงช่วงกลางคืน (แต่ทางผู้ดูแลยังไม่ได้บอกว่าจะเปิดตอนกลางคืนเมื่อไร)
ขอเล่าเรื่องด้วยภาพ เพราะอดีต “สนามเขียว” นี้เปลี่ยนไปเยอะจนจำแทบไม่ได้เลย
นี่เป็นมุมจากทางเข้าสนามจากลานจอดรถครับ มีการปรับสภาพลานจอดรถใหม่ ปูถนนลาดยางและแบ่งล็อกเป็นสัดส่วนพร้อมมีเสาไฟให้ความสว่างตลอดทั้งเส้น
ลานจอดรถมีป้ายแบ่งโซนไว้ชัดเจน กันหลงว่าเราจอดไว้ตรงไหนครับ
อีกหนึ่งภาพบริเวณทางเข้า อาคารสีขาวติดไฟสว่างนั่นคือห้องน้ำครับ ใหญ่โตอลังการ และสะอาดมาก มีพนักงานคอยทำความสะอาดตลอด (และหวังว่าจะสะอาดอย่างนี้ไปตลอดนะครับ)
รอบทดลองสนามสำหรับสื่อมวลชนเมื่อวานนี้มีคนมาร่วมงานหลายร้อยคน (สงสัยจะเชิญทั้งประเทศ) แต่ตัวทางเข้าสนามและลานกิจกรรมด้านหน้าก็มีขนาดใหญ่โอ่โถง รองรับคนได้เป็นจำนวนมาก ที่เห็นด้านหลังคือบริเวณเกททางเข้าสนามครับ
ก่อนจะเข้าสนามได้เราก็ต้องลงทะเบียนรับสายรัดข้อมือ “Snap” เสียก่อน เจ้า SNAP นี้จะใช้เป็นบัตรผ่านในการเข้าและออกสนามของเรา ต้องลงทะเบียนกับตู้แจก SNAP ซึ่งต้องใช้บัตรประชาชนด้วย เพราะมันจะเก็บข้อมูลของเราไว้ ขั้นตอนการลงทะเบียนก็ง่ายๆ แค่ สัมผัสที่จอตู้ SNAP เพื่อขอสายรัด สอดบัตรประชาชนเข้าไปให้เครื่องอ่าน แล้วกดลงทะเบียน เครื่องก็จะยืนยันข้อมูลของเรา
เดี๋ยวๆ…
ลงทะเบียนเรียบร้อย ตู้มันก็จะแจกสายรัดออกมาหนึ่งชิ้น สายรัดนี้ของใครของมันนะครับ ใช้แทนกันไม่ได้
หน้าตา SNAP ก็เป็นเช่นนี้ ตัวสายรัดสีฟ้าๆ ลักษณะเหมือนสายนาฬิกา ฟีลลิ่งการใส่นุ่มสบายไม่ระคายเคือง แต่สายรัดไม่สติฟเท่าไร (เดี๋ยวๆ นี้ไม่ใช่รีวิวจักรยาน!) เอาเป็นว่ามันไม่กวนใจเวลาปั่นครับ แต่ต้องเก็บรักษาให้ดีนะ เป็นสมบัติอีกชิ้นที่คุณต้องพกมาใช้ทุกครั้งเวลามาปั่น
นี่คือประตูทางเข้า เวลาจะเข้าออกสนามคุณก็ต้องเอาเจ้า SNAP แตะกับเกทประตูเพื่อให้มันเปิดออกครับ มันไม่ได้เปิดปิดไวเหมือนประตูรถไฟฟ้า BTS ไม่ต้องกลัวโดนหนีบครับ ต้องแตะทั้งเวลาเข้าและออกนะ อ้อ ทางเข้าและทางออกไม่ได้ใช้ทางเดียวกันแล้วนะครับ มันจะอยู่ข้างๆ กัน เข้าทางนึง ออกทางนึง ก็จะไม่มีปัญหาคนมาออกัน จราจรติดขัดเหมือนสมัยก่อนละ ปลอดภัยกว่าด้วย
เวลาแตะเราก็ทำแบบนี้
มาดูในส่วนของสนามกันบ้างดีกว่า อันดับแรก เส้นทางนั้นย้อนศรจากทิศทางเดิมหมดนะครับ เข้ามาปุ๊บสิ่งที่สะดุดตาเลยก็คือพื้นถนนซึ่งเปลี่ยนเป็นสีฟ้าที่สว่างกระแทกตาดี แต่ก็ไม่แสบตาครับ สีชัดเจนดี
คุณอาจจะเห็นเสาไฟข้างซ้ายมือ เป็นเสาไฟพลังงานแสงอาทิตย์ที่เปิดปิดตามระดับความสว่างของวัน ตกเย็นมันก็จะสว่างสวยงาม อยู่เรียงกันทุกๆ ราว 10 เมตรตลอดเส้นทาง 23.5 กิโลเมตร ไม่ต้องกลัวว่าจะปั่นแล้วมืดเลยครับ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเสานี่มันอยู่ใกล้ขอบถนน เพราะงั้นถ้าหากมีอุบัติเหตุ ชนกระแทกกันหรือหักหลบกะทันหัน ถ้าไปโดนเสาไฟนี่เจ็บหนักแน่นอน ก็ต้องระวังกันด้วย
แล้วสภาพพื้นถนนเป็นยังไง? คำตอบคือ มันเรียบมาก…. เรียบกว่าเดิมเยอะครับไม่กะเทือนเป็นลูกๆ เม็ดๆ แล้ว ถึงจะเรียบลื่น แต่ก็ไม่ลื่นแบบไถลสไลด์เหมือนคอนกรีตขัดมันนะครับ วางใจได้ ก็คุ้มกับที่อัดพื้นถนนและทำผิวใหม่ ปั่นกันได้ซิ่งแน่นอน อย่างไรก็ดี ความกว้างถนนไม่ได้กว้างขึ้น แค่เพิ่มไหล่ทาง (สีดำๆ ที่เห็นในรูปข้างบน) ออกทั้งสองข้าง เวลาแซงหรือจำเป็นต้องลงจอดข้างทางก็จะปลอดภัยต่อคนที่ตามมาข้างหลังครับ
ถึงจะซิ่งกันแค่ไหนเขาก็มีป้ายจำกัดความเร็วด้วยนะ… 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงครับ…
ตึกที่เห็นนี่คือห้องน้ำซึ่งสร้างมาเพิ่มเติมกระจายตามจุดต่างๆ รอบสนาม จำไม่ได้ชัดว่ามีกี่อาคาร รู้สึกจะ 4 หลังนะครับ ถ้าปวดห้องน้ำก็ไม่ต้องห่วงมาก ห้องน้ำสะอาดมาตรฐานดี และมีราวแขวนจักรยาน “อย่างดี” (ใช้วัสดุดีทีเดียว) อยู่ด้านข้างห้องน้ำ จะได้ไม่ต้องเอาไปพิงตึกหรือจอดวางกับพื้นกันครับ หน้าห้องน้ำมีบาริเออร์สีส้มสว่างชัดเจน
ดู texture พื้นกันชัดๆ ปั่นดีหายห่วงครับ
สรุป
ภาพจากการรีวิวลองปั่น Sky Lane ก็หมดลงเท่านี้ โดยรวมแล้วก็จัดว่าคุ้มค่ากับการรอคอยสำหรับคนที่ชอบไปใช้บริการสนามเขียวในอดีต ถนนดีขึ้น มีไหล่ทางให้หลบกัน มีไฟส่องสว่าง มีห้องน้ำใหม่ มีระบบการเข้าออกที่รัดกุมและปลอดภัย ที่จอดรถจำนวนมากมายมหาศาลเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมลานกิจกรรมใหญ่ๆ ที่หากมีใครมาจัด event อะไรก็คงสะดวกสบายดีครับ
ตอนนี้ยังไม่มีอาคารอเนกประสงค์ที่จะมีร้านค้าจักรยาน ห้องน้ำ ร้านอาหาร club house ใหญ่ๆ แต่คาดว่าคงเร่งสร้างกันหลังจากนี้ ขั้นในการพัฒนาสนามระหว่าง SCB และ AOT ก็เป็นการปรับปรุงลู่ปั่นอย่างที่เรารีวิวกันไปและอนาคตคงมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่านี้
ความรู้สึกที่ได้ไปลองคือนี่มันสนามกีฬาระดับมาตรฐานโลกแล้ว ทุกอย่างจัดการดีหมด ที่ต้องระวังก็เรื่องเสาไฟอย่างที่บอกครับ มันอยู่ใกล้ถนนมาก ถ้าเฉี่ยวชนไปกระแทกคงเจ็บไม่น้อย เวลาจะแซงกันก็เบาๆ ระวังกันหน่อยก็ดีครับ ยิ่งสนามมันลื่นปั่นได้ไวด้วยแล้วจะพลาดเอาได้
อันนี้เป็นวิดีโอแนะนำสนามของทาง Sky Lane
ยังไงก็ลองมาใช้บริการกันได้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคมนี้เป็นต้นไปครับ สำหรับคนที่ไม่เคยมา พิกัดสนาม Sky Lane จะอยู่ในบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เส้นทางก็ตามแผนที่นี้เลยครับ
ปล. ลมยังแรงเหมือนเดิมครับ!
* * *
