คนที่เคยปั่น

“คันนี้ซื้อมาเท่าไรหนุ่ม?” 

ผมหันไปหาต้นเสียง พี่วินมอไซค์นั่งลงอยู่โต๊ะข้างๆ มองจักรยานสีดำด้วยความสนอกสนใจ

“20,000 ครับพี่” (ขอโทษนะพี่ ผมบอกราคาเต็มไม่ได้จริงๆ -/-)

ผมกำลังนั่งกินกระเพาะปลาอยู่ในซอยประดิพัทธ์….

“เนี่ยผมก็มีอยู่คันนึงเหมือนกัน มีเกียร์ด้วยนะ 6 สปีดเลย เก็บตังค์ซื้อแทบตาย” 

“แล้วพี่ไม่ปั่นแล้วหรือครับ?” 

“มันหายไปไหนแล้วไม่รู้น่ะสิ…จอดไว้ข้างบ้าน สงสัยเด็กมันเอาไปขี่ซะแล้ว” 

“ปั่นมาตั้งกะสมัยนู้นที่เขาฮิต BMX กัน สมัยนั้นคันละ 2,000 บาท เงินสองพันนี่ก็แพงมากแล้วนะเฮีย (พี่วินหันไปมองเฮียเจ้าของร้านรังนก น้องชายเฮียกระเพาะปลา)”

“เงิน 100 บาทอยู่ได้ทั้งอาทิตย์” เฮียรังนกตอบยิ้มๆ 

“ทำงานได้เงินวันละ 100 แล้วก็ขึ้นไป 150…300…400 แล้วก็ลาออกเลย ไปเปิดของตัวเองดีกว่า มันต้องเก็บเงินแต่งเมีย”

“ค่าเช่าบ้านเดือนละ 8,000 ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น”

“สมัยนั้นก็แพงน่าดูนะครับ” ผมถาม

“แพง แต่งานได้กำไรดี ได้กำไรเดือนละ 40,000 สักพักก็ขึ้นไปเป็นเดือนละแสน ทำได้สักพักก็ถอย อิซูซุปิ๊กอัพ มีแค็บ เงินสดเลยนะ” 

“งานดีนะพี่ ทำไรอะครับ”

“เปิดร้านซ่อมแอร์”

 

“รถใหม่ขี่ได้แค่ห้าเดือนเท่านั้นแหละ ไม่เหลืออะไรเลย” 

“ทำไมหละครับ? เกิดอะไรขึ้น” ผมสงสัย

“ไฟไหม้บ้าน น้องชายมันโยนก้นบุหรี่ไปลงซากเตียง ชั้นบนไหม้หมดทุกอย่าง” 

“มีรถก็ต้องขาย อุปกรณ์ร้านซ่อมแอร์ อย่างดี ขายทิ้งหมด ขายกิจการ ยังแทบจะไม่พอมาจ่ายเจ้าของบ้าน” 

“แล้วมันไม่มีประกันอัคคีภัยหรือครับ” 

“สมัยนั้นไม่มีหรอกไอ้หนุ่ม ไม่ติดคุกก็ดีแล้ว” 

 

“ยังอยากปั่นอยู่ไหมครับ?” 

“อายุจะ 50 แล้ว เข่าไม่ค่อยดีน่ะ ก็อยากปั่นนะ มันได้เหงื่อดี สมัยก่อนปั่นจนแข็งแรง ปั่นทีละหลายๆ กิโลเลย”

“กลัวขี่แล้วเข่ามันจะหลุดอีก” 

“มันไม่หลุดร้อก ขี่จักรยานดีจะตาย” เฮียรังนกแย้ง

“แล้วเราไม่ไปปั่นกับเขาเหรอ?”

“ผมชอบปั่นคนเดียวครับ”

“ทุกเดือนเส้นนี้เขาจะมาปั่นกันตอนกลางคืนนะ มาเป็นร้อยคัน” 

“เยอะดีจังครับ” 

“เขาปั่นไปแล้วก็ปั่นกลับนี่แหละ บางทีก็แวะกินข้าวในซอย” (ประดิพัทธ์)

พี่วินมอเตอร์ไซค์ลุกขึ้นจุดบุหรี่ กระโดดคร่อมมอเตอร์ไซค์คันเก่งแล้วเลื่อนตัวไปข้างๆ จักรยานของผม เอื้อมมือจับท่อนอนแล้วยกขึ้นทั้งคันเบาๆ พร้อมกับสีหน้าประทับใจ

“มันเบาดีเนอะจักรยานสมัยนี้” 

ผมยิ้ม “ครับพี่ ของผมนี่ถือว่าหนักนะครับ”

พี่มอเตอร์ไซค์บึ่งออกไป โทรศัพท์ผมดังขึ้นพอดี

“วันหลังมาแถวนี้แวะมากินอีกนะ ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นแวะมา” เฮียรังนกยิ้ม ผมพยักหน้าเบาๆ

 

จักรยานที่จอดพิงรถเข็นกระเพาะปลาเป็นจุดเริ่มต้นของบทสนทนาวันนี้ ถ้าผมมานั่งกินข้าวเย็นคนเดียว ไม่ได้เอาจักรยานมาด้วย เราจะได้คุยกันแบบวันนี้ไหม ก็คงไม่ ผมไม่ใช่คนพูดเก่ง และไม่ใช่คนที่เริ่มบทสนทนา แต่รู้สึกดีทุกครั้งที่จักรยานช่วยทำลายกำแพงความเป็นอื่น ถึงแม้เราจะไม่เคยรู้จักกันเลยก็ตาม

บางทีความสุขของการได้ปั่นจักรยาน อาจจะไม่ต้องมีอะไรมากมายก็ได้ครับ

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *