เช็คสเป็ค: Specialized S-Works Roubaix โบเน็นและซากาน

ซีรีย์พรีวิว Paris-Roubaix 2017

ทอม โบเน็น (Quickstep Floors) จะลงแข่ง Paris-Roubaix เป็นสนามสุดท้ายในชีวิตการเป็นโปรของเขา และเป็นครั้งที่ 14 ที่จะลงแข่งรายการนี้ ถ้าชนะ เขาจะเป็นชายคนแรกที่พิชิตรายการนี้ได้ 5 สมัย

แน่นอนว่าเป็นถึงหัวหน้าทีมที่ทุกคนฝากความหวัง โบเน็นต้องมีอาวุธลับครับ ปีนี้เขาจะลงแข่งกับจักรยาน Specialized S-Works Roubaix รุ่นใหม่ที่โมดิฟายสำหรับเขาเป็นพิเศษ สเป็คจะเป็นยังไงไปดูกัน

1. จักรยานมีโช๊ค

เฟรม S-Works Roubaix รุ่นใหม่เปิดตัวเมื่อกลางปีที่แล้ว จุดเด่นคือมีโช้คบริเวณคอรถ ที่ Specialized เรียกว่า FutureShock

Specialized วางตำแหน่งโช๊ค FutureShock ไว้ด้านบนของท่อคอ (headtube) เพื่อให้การซับแรงสะเทือนนั้นผ่านตัวผู้ปั่น ไม่ได้ผ่านตัวจักรยานเหมือนในโช๊คของจักรยานเสือภูเขา เช่นนั้นแล้วเวลาเจอเส้นทางสะเทือน ทิศทางการถ่ายแรงจะอยู่ในรูปแบบที่ตัวจักรยานจะเคลื่อนไหว (แนวตั้ง) เข้าหาตัวผู้ปั่น และเมื่อช่วงหน้ารถไม่มีการยุบตัวเหมือนโช๊คทั่วไปก็หมายความว่าระยะฐานล้อของจักรยานก็ไม่เปลี่ยนแปลงตามการให้ตัวของโช๊ค ทำให้การบังคับควบคุมคาดเดาได้ง่ายและไม่สูญเสียพลังในการบังคับและปั่นมากเท่าการใช้โช๊คในรูปแบบมาตรฐาน

ตัวโช๊คเอง (ดูการทำงานจากวิดีโอข้างบน) เป็นระบบ Catridge ที่ติดตั้งไว้ในซาง และให้ตัวได้ 20mm ระบบทำงานโดยสปริงสามตัว สปริงด้านบนสุดสามารถปรับระดับการยุบได้สามระดับตามสภาพเส้นทางและความชอบของเจ้าของรถ

แต่รถของโบเน็นนั้นพิเศษกว่า เพราะ Specialized ใช้สปริงที่ให้ฟีลลิ่งการยุบตัวสมูทกว่าโมเดลที่มีขายในตลาดทั่วไปและท่อคอมีระยะ stack ต่ำกว่าด้วย

โบเน็นกล่าวว่าเวลาขี่จักรยานที่ไม่มีโช๊คบนถนนหิน เขาจะใช้เทคนิคการยกหน้ารถเบาๆ เพื่อให้ล้อหน้าลงบนตำแหน่งที่เขาต้องการบนถนน (ทำได้ยังไง!) แต่เวลาขี่รถที่มีโช๊คเขาไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคนี้แล้ว นั่งปั่นรูดไปได้เลยโดยไม่ต้องเปลืองแรงหรือกลัวลื่นเสียจังหวะ ซึ่งทำให้ปั่นได้เร็วกว่าเดิม

2. ริมเบรค ไม่ใช่ดิสก์เบรค

ถึง Specialized Roubaix ที่มีวางจำหน่ายทั่วไปนั้นจะมากับดิสก์เบรคเพียงอย่างเดียว แต่ Specialized ทำเวอร์ชันพิเศษ ใช้ริมเบรค Direct Mount ธรรมดาให้โบเน็น ด้วยเหตุผลที่ว่า ดิสก์เบรคยังไม่เป็นที่ใช้งานอย่างแพร่หลาย และการเซอร์วิสรถระหว่างปั่นก็น่าจะทำได้ยากถ้าเซอร์วิสกลางของสนามแข่งยังไม่มีดิสก์เบรคมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งอาจจะทำให้นักปั่นพลาดจังหวะสำคัญได้

และที่สำคัญ การเปลี่ยนล้อมริมเบรคทำได้เร็วกว่าดิสก์มาก Specialized กล่าวว่าจะทำเวอร์ชันนนี้ขายด้วยในปริมาณที่น้อย (เหมือนที่ Trek ขาย Domane Koppenberg Edition ที่ทำให้ทีมใช้แข่ง แต่ทำในเฉพาะไซส์ที่โปรขี่จริง คนเอเชียไซส์มินิก็อดครับ )

3. เกียร์ใหญ่อุ่นใจกว่า

โบเน็นใช้จานหน้า 53-44t และใช้เฟืองหลัง 11-28t เพราะสนามนี้แทบไม่มีเนินเลยแม้แต่นิดเดียวและมีลมส่งหลายช่วง (ปีที่แล้วนักปั่นทำความเร็วกว่า 43 กิโลเมตรต่อชั่วโม
ตลอดระยะเวลา 5:51 ชั่วโมงในการแข่งขัน!)

4. ยางพิเศษ ไม่มีขายทั่วไป

ทีม Quickstep ใช้ยาง Specialized S-Works Turbo Tubular ‘Hell of the North’ 28mm ซึ่งไม่มีวางขายทั่วไป ตัว casing ของยางทำโดย FMB แต่ใช้ tread cap (หน้ายางสีดำ) Gripton ของ Specialized เอง ซึ่งแพทเทิร์นยางจะดูคล้ายๆ กับหน้ายาง Specialized S-Works Turbo Cotton ส่วนล้อเป็น Roval CLX 50 ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้

5. Finishing

เบาะ Specialized Romin

สลักชื่อทอม โบเน็น

ผ้าพันแฮนด์สองชั้น พันจนถึงหัวสเต็ม (โบเน็นเป็นนักปั่นไม่กี่คนในเปโลตองที่ไม่ใส่ถุงมือแข่ง Roubaix ) แฮนด์ FSA Compact กว้าง 40mm และสเต็มยาว 145mm

เฟรมสีขาวตัดไฮไลท์ทอง

ปีเตอร์ ซากาน Specialized S-Works Roubaix

สำหรับแชมป์โลก ปีเตอร์ ซากาน (Bora-Hansgrohe) ก็จะใช้ Specialized S-Works Roubaix เช่นกัน และเช่นเดียวกับทอม รถของซากานจะใช้ริมเบรค direct mount แทนดิสก์เบรคครับ
ซากานใช้สเต็ม Zipp Sprint (แต่ทีมไม่ใด้ใช้คอมโพเนนท์ของ Zipp เลยต้องปิดโลโก้ไว้)
ซากานใช้แฮนด์อลูมิเนียม พันด้วยผ้าพันแฮนด์ SuperCaz ชั้นเดียว
ประโยชน์อีกข้อของเบรค Direct Mount คือเบรคจะ “ตรง” (Centered) ตลอดเวลา ไม่บิดเบี้ยวไปมาเหมือนเบรคที่ยึดด้วยจุดหมุนเดียว ป้องกันเบรคสีขอบล้อในสนามที่สะเทือนและล้อมีโอกาสคดดุ้งสูง
ล้อ Roval CLX 50 และยาง Specialized S-Works Turbo Tubular เหมือนโบเน็น
พาวเวอร์มิเตอร์เป็น 4iiii dual side ติดกับขาจาน Dura-Ace 9000 (53-44t)
ซากานใช้กรุ๊ป Dura-Ace 9000 ไม่ใช้ Di2 เหมือนสนามอื่นๆ อาจจะเพราะกลัวอุปกรณ์มีปัญหาระหว่างทางแล้วจัดการเองไม่ได้ เช่นเกียร์ค้างหรือรวน