ในครั้งก่อนผมได้เคยเกริ่นถึงการแข่งขันเสือหมอบอย่างคร่าวๆ ไปแล้วใน Pro Cycling 101 วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับรายการแข่ง Classic ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในวันเสาร์ที่จะถึงนี้แล้วครับ
Spring Classic – ความเป็นมา
การแข่งขันเสือหมอบมีรากมาจากทางยุโรปตะวันตก รายการแข่งหลายๆ รายการจัดมาแล้วร่วมหนึ่งร้อยปี แต่ด้วยความที่การแข่งจักรยานไม่ได้เป็นกีฬายอดนิยมอย่างฟุตบอล เทนนิส บาสเก็ตบอล และไม่มีรากฐานในประเทศแถบเอเชียสื่อต่างๆ ก็ไม่ได้สนใจที่จะรายงาน ทำให้เราพลาดการแข่งดีๆ ไปหลายรายการครับ
กีฬาเสือหมอบจะแข่งกันเป็นสนามๆ ไป ไม่ได้มีลีกเหมือนกีฬาอื่นๆ แต่ละสนามก็จะมีประวัติศาสตร์การแข่งไม่เหมือนกัน ถึงแม้รายการแข่งที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่จะจัดในช่วงที่อากาศดีเช่น Giro d’ Italia ในเดือนเมษายน และ Tour de France ในกรกฏาคม ในช่วงต้นปีที่อากาศยังหนาวเย็นในยุโรปก็มีอีกหลายๆ สนามที่น่าติดตาม มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเป็นสนามที่สร้างชื่อเสียงเกียรติยศให้นักปั่นมานักต่อนักแล้ว สนามแข่งในช่วงต้นปีจากเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงปลายมีนาคมพวกนี้ รวมกันเรียกว่ารายการ Spring Classics ครับ
เสน่ห์ของรายการ Classic ที่แข่งกันวันเดียวมันอยู่ที่ความคาดหวังและความจริงจังของนักปั่น การแข่งวันเดียว แข่งแล้วจบเลย รู้ผลแพ้ชนะทันทีว่าใครเจ๋งกว่าใคร ถ้าแพ้ก็ต้องกลับไปซ้อมใหม่แล้วมาแข่งอีกทีปีหน้า นักปั่นแต่ละคนเก็บตัวซ้อมเป็นปี เมื่อเข้าแข่งรายการวันเดียวก็ต่างทุ่มสุดตัว พยายามเอาให้ชนะในวันนั้นเลยเพราะโอกาสมันมีแค่หนเดียว ต่างกับรายการเสตจเรซที่แข่งหลายๆ วัน ถ้าวันแรกหรือวันที่สองฟอร์มไม่ออก เดี๋ยวลองใหม่วันที่สาม หรือาทิตย์หน้าก็ได้ ระดับความเข้มข้นและไคลแมกซ์ของการแข่งจึงต่างกันครับ
ทำไมถึงเรียกว่า Spring Classic?
มนุษย์เราเป็นเผ่าพันธ์ที่ประหลาดนะครับ ในสมัยกรุงโรมเรามีเวที Gladiator ให้คนประลองเข่นฆ่ากันเพื่อโชว์ว่าใครจะเป็นยอดมนุษย์ในโคลีเซียม แต่เมื่อเราเริ่มพัฒนาต่อมจริยธรรม เราก็ล้มเลิกการแข่งขันป่าเถื่อนไป แต่อย่างว่านิสัยรักการแข่งขันมันเป็นธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต มนุษย์เลยสร้างกีฬาต่างๆ ขึ้นมาเพื่อโชว์ศักยภาพตัวเอง…
การแข่งขันจักรยานก็เช่นเดียวกัน ว่ากันว่าการแข่งเสือหมอบเป็นหนึ่งในกีฬาที่โหดหินที่สุดในโลก ผู้จัดแข่ง Tour de France สร้างการแข่งที่หวือหวา โอเว่อร์ ปั่นกันสามอาทิตย์ระยะทางหลายพันกิโลเมตร ก็เพื่อทำให้คนสนใจซื้อหนังสือพิมพ์ของผู้จัดเท่านั้น หวังฟันกำไร แต่ไม่ได้คิดว่าคนเข้าแข่งเขาจะปั่นกันจนจบหรือเปล่า ในขณะที่รายการ Spring Classic ก็มีทั้งสนามแข่งวันเดียวแบบโหดๆ ระยะทางยาวเกือบ 300 กิโลเมตร ปั่นกันบนถนนก้อนอิฐตัวหนอน ถนนขรุขระ ในสภาพอากาศหนาวเหน็บ จนถึงการแข่งแบบเสตจเรซ แข่งขันหลายวัน วัดกันว่าใครจะเป็นยอดมนุษย์ตัวจริงที่เอาชนะอุปสรรคและความยากลำบากทั้งปวงได้
เราเรียกนักปั่นที่หวังชิงแชมป์รายการคลาสสิคว่า “Strong men” ครับ พวกนี้ปั่นได้อึดและมีแรงใจดีไม่ย่อท้อต่อระยะทางและสภาพอากาศ ยกตัวอย่างเช่น Tom Boonen, Fabian Cancellara, Juan Antonio Flescha, Johan Van Summeren, Thor Husshovd, Eddy Mercx, Fausto Coppi, Rick Van Looy เป็นต้น รายการคลาสสิคส่วนใหญ่จัดมานานหลายทศวรรษ บางรายการจัดมาแล้วเกินหนึ่งร้อยปี เลยเป็นที่มาของคำว่า “Classic” ผู้ชนะรายการคลาสสิคจึงมีเกียรติยศชื่อเสียงไม่แพ้ผู้ชนะรายการอย่าง Giro d’ Italia หรือ Tour de France เลยครับ
สนามแข่งคลาสสิคส่วนใหญ่จะอยู่ในประเทศที่มีการแข่งมายาวนานอย่างเบลเยียม อิตาลี เนเธอร์แลนด์และฝรั่งเศสครับ
Highlight การแข่ง Paris-Roubaix 2012
Cobbled Classics

รายการคลาสสิคสามารถแบ่งตามสภาพสนามได้สองแบบหลักๆ คือจำพวก Cobbled Classic หรือสนามที่แข่งกันบนทางอิฐตัวหนอน ซึ่งเป็นถนนที่สร้างไว้หลายร้อยปีก่อนเส้นทางส่วนใหญ่จะเป็นทางราบระยะไกล อาจจะมีเนินชันบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีถึงระดับภูเขา เอาชนะกันที่ไหวพริบ กลยุทธ์ทีม และความอึดของนักปั่น สนาม Cobbled Classics ก็เช่น Omloop, Kuurne Brussel Kuurne, E3 Harelbeke, Gent-Wevelgem, Tour of Flanders, และ Paris Roubaix ส่วนใหญ่จัดอยู่ในเบลเยี่ยมทั้งหมด ยกเว้น Paris-Roubaix จัดในฝรั่งเศส
Ardennes Classics

ส่วนสนาม classic อีกแบบ เรียกว่า Ardennes Classics ต่างกับรายการ Cobbled Classics ตรงที่สภาพสนามจะมีเนินและภูเขาเตี้ยๆ ค่อนข้างเยอะ จัดแข่งในบริเวณชายเขา Ardennes ในประเทศเบลเยี่ยม นักปั่นที่จะชนะรายการแบบนี้ได้ต้องเป็นพวกที่สามารถปั่นระเบิดพลังขึ้นเนินเตี้ยๆ ได้ดี เช่น Phillipe Gilbert, Joaquim Rodriguez, Peter Sagan, Alejandro Valverde สำหรับ Ardennes Classic มีแค่สามสนาม จัดแข่งในช่วงเวลาใกล้ๆ กัน มี Amstel Gold Race, Fleche Wallone, และ Liege-Bastonge-Liege นักปั่นที่เคยครองแชมป์ก็เช่น Gilbert, Davide Rebellin, Danilo Di Lica, Michele Bartolo, Eddy Merckx, Bernard Hinault เป็นต้น ทั้งสามรายการจัดในประเทศเบลเยี่ยมครับ