เปิดตัว SRAM Force eTap AXS: ชุดขับ 12 Speed ไร้สายในราคาที่ไม่ไกลเกินเอื้อม

วันนี้ SRAM เปิดตัวชุดขับเคลื่อนจักรยานเสือหมอบแบบไร้สาย 12 speed ในรุ่น Force eTap AXS ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับรุ่นท็อป SRAM Red eTap AXS ทั้งหมด

ก็เป็นไปตามคำเรียกร้องของแฟนๆ SRAM ครับที่อยากให้ทาง SRAM ผลิตชุดขับไฟฟ้าไร้สาย eTap ในซีรีย์ Force ที่ราคาประหยัดกว่า Red เกือบสองเท่า และเปิดราคาพร้อมชนคู่แข่งเบอร์หนึ่งอย่าง Shimano Ultegra Di2

รายละเอียดเป็นยังไงลองมาดูกัน

 

ทำไมต้องไร้สาย?

อย่างที่เราทราบกันชุดขับเคลื่อนในซีรีย์ ​eTap AXS ทั้งรุ่น RED และ Force เป็นชุดขับที่ไม่จำเป็นต้องใช้สายไฟเชื่อมโยงระบบระหว่างตีนผี สับจาน และชิฟเตอร์เหมือนชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าอื่นๆ (แต่สายเบรกยังต้องมี)

SRAM พัฒนาแพลอตฟอร์ม AXS หรือระบบที่ทำให้อุปกรณ์ไร้สายสื่อสารกันได้ โดยผู้ใช้สามารถควบคุม ตั้งค่า และอัปเดตเฟิร์มแวร์ผ่านโปรแกรม AXS App ในสมาร์ทโฟนได้ด้วยตัวเอง เราเลือกได้ว่าอยากให้ปุ่มชิฟเตอร์ ปุ่ม Blip (เหมือน satellite shifter ของ Shimano) ทำงานยังไง ถ้าอยากจะเปลี่ยนโลจิคการเปลี่ยนเกียร์ของชิฟเตอร์ก็ปรับได้ตามต้องการครับ

ในกรณีที่ผู้ใช้เปลี่ยนเฟืองหรือจานหน้า ก็สามารถใช้แอปจูนเกียร์ให้ได้เลยอัตโนมัติ โดยเลือกขนาดของจานหน้าและเฟืองในแอป จากนั้นแอปจะจูนเกียร์ให้เอง ผู้ใช้สามารถดูรายละเอียดอุปกรณ์แต่ละตัวในแอปได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นสถานะแบตเตอรี อายุการใช้งานของอุปกรณ์ที่สึกหรอได้อย่างโซ่และเฟืองเป็นต้น

และอย่างที่เห็นในรูปข้างบน SRAM AXS มากับโหมดการเปลี่ยนเกียร์ “กึ่งออโต้” สองรูปแบบ แบบแรกคือ Sequential ผู้ใช้เลือกเปลี่ยนเกียร์แค่ “หนักขึ้น” หรือ “เบาลง” แล้วระบบจะเปลี่ยนเกียร์หน้าให้เองตามรอบขาและอัตราทดที่เหมาะสมกับเส้นทางที่สุด

แบบที่สองเรียกโหมด Compensating เวลาเราเปลี่ยนเกียร์หน้าแล้วระบบจะเพิ่มหรือลดเกียร์หลังให้สอดคล้องกับรอบขาปัจจุบันเราที่สุด (ปกติเวลาเราสับจานหน้าเราต้องทดเกียร์หลัง 1-2 เกียร์เสมอเพื่อคงรอบขา)​

 

เกียร์ 12 Speed

อีกหนึ่งจุดเด่นของชุดเกียร์ SRAM AXS ทั้ง Force และ RED ก็คือเป็นชุดขับเคลื่อน 12 Speed เต็มตัว โดยเพิ่มเฟืองขนาดเล็กสุดขึ้นมาหนึ่งเฟืองในขนาด 10t ประโยชน์คือมีระยะเกียร์ให้ใช้มากขึ้น ปั่นได้หลากหลายเส้นทางมากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนจานหน้าหรือเฟืองหลังบ่อยๆ ครับ

อย่างไรก็ดีชุดขับ 12 Speed ของ SRAM ไม่สามารถใช้งานร่วมกับ SRAM 11 Speed ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น eTap หรือชุดขับ mechanical ธรรมดา นั่นก็เพราะดีไซน์โซ่ เฟือง และจานในซีรีย์ eTap AXS ใช้เปลี่ยนขนาดใหม่หมด

SRAM Force eTap AXS มีเฟืองหลังให้เลือกเป็นขนาดเดียวกับ RED AXS นั่นคือมีแค่ 3 ขนาด 10-26t, 10-28t, และ 10-33t แต่ถึงจะมีแค่สามขนาด SRAM ก็เคลมว่ามีระยะอัตราทดกว้างกว่าเฟือง 11 speed ทั่วๆ ไปตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ

เฟือง 12 Speed ของ SRAM ก็ไล่สเต็ปเกียร์ได้เนียนกว่า สำหรับเฟือง 10-26t และ 10-28t เรียงเกียร์ละเอียดแบบข้ามทีละฟันถึง 7 เกียร์ติดกัน ช่วยให้รอบขาไม่กระโดดมากนักเวลาเปลี่ยนเกียร์

เฟือง Force น้ำหนักมากกว่าเฟือง RED และไม่ได้ผลิตจากอลูมิเนียมชิ้นเดียว แต่ก็มีราคาถูกกว่าเช่นกัน ใช้ได้กับโม่ XDR เท่านั้น

 

ชิฟเตอร์

ชิฟเตอร์ Force eTap AXS ก็ถอดมาจากดีไซน์เดียวกับ RED เช่นกัน วัสดุมือเบรกทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่น้ำหนักมากกว่าใน RED  มีให้เลือกทั้งแบบระบบดิสก์เบรกไฮดรอลิกและแบบริมเบรก (ภาพข้างล่าง)

ในเวอร์ชันริมเบรก ตัวฮู้ดจะมีขนาดเล็กกว่าดูคล้ายกับชิฟเตอร์ SRAM Red eTap 11 Speed แต่ปรับยางหุ้มฮู้ดและผิวสัมผัสบริเวณปุ่มเปลี่ยนเกียร์ให้มีพื้นผิวใหม่ที่ให้ฟีดแบคการกดดีกว่าเดิม

จุดต่างสำคัญระหว่างชิฟเตอร์ Force และ RED คือชิฟเตอร์ Force รองรับปุ่ม Blip แค่ข้างละชิ้น เทียบกับใน Red ที่รองรับสองชิ้น

 

 

ชุดจาน

ขาจาน Force ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์เช่นกัน น้ำหนักมากกว่าขาจาน RED เพราะวัสดุชั้นในทำจากแกนอลูมิเนียม แต่ใน RED เป็นฟูลคาร์บอน 100%

ขาจานออกแบบมาให้ใช้กับกะโหลก DUB ของ SRAM เท่านั้น

ส่วนใบจาน Force จะต่างจาก RED ตรงที่ไม่ได้ทำจากอลูมิเนียมชิ้นเดียว

ชุดจานมีให้เลือกหลายคอมโบ

2X – 48/35t และ 46/33t
1x – 48 Aero (ใบตัน), 46t, 44t, 42t, 40t, 38t และ 36t

 

พาวเวอร์มิเตอร์

ชุดขับ Force AXS ก็มีออปชันพาวเวอร์มิเตอร์ให้เลือกเหมือนใน RED เช่นกัน พาวเวอร์มิเตอร์ใน Force จะเป็นแบบสไปเดอร์ที่ใช้ติดตั้งบนใบจาน ต่างจาก RED ที่รวมพาวเวอร์มิเตอร์ไว้บนชุดใบจานเลย (ถ้าใบจานสึกก็ต้องเปลี่ยนพาวเวอร์มิเตอร์ตัวนั้นทิ้งไปด้วยถึงพาวเวอร์จะยังใช้งานได้ดีก็ตาม)

พาวเวอร์มิเตอร์ Force ใช้เทคโนโลยีเดียวกับ RED ซึ่งก็คือ Quarq DZero นั่นเอง วัดพลังขาจากทั้งสองข้าง เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth BLE และ ANT+ เคลมค่าความแม่นยำ +/-1.5% พร้อม temperature compensation ใช้แบตเตอรี CR2032 และผู้ใช้เปลี่ยนแบตได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือช่วย อายุการใช้งานแบตหนึ่งก้อนประมาณ 200 ชั่วโมง

ถ้าผู้ใช้ซื้อชุดจาน Force แบบไม่มีพาวเวอร์มิเตอร์ก็สามารถซื้อสไปเดอร์พาวเวอร์มาอัปเกรดทีหลังได้ ชุดจานที่รองรับการอัปเกรดมีดังนี้

RED 1x: 36-46T
Force 1x: 36-46T
Force 2x: 46/33T และ 43/58T

 

ตีนผี

ตีนผี Force eTap AXS ยกเทคโนโลยี RED มาทั้งหมด ทั้งลูกรอกตีนผีที่ขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่ม efficiency และระบบซับแรงสะเทือนกันโซ่กระพือ Orbit ที่ทำงานแทนระบบคลัทช์แต่น้ำหนักเบากว่า

จุดที่ต่างจาก RED คือกรงตีนผีทำจากคอมโพสิท ไม่ได้ใช้ฟูลคาร์บอน และส่วนที่เป็นน็อตโลหะก็ใช้เหล็กแทนไทเทเนียม น้ำหนักจึงมากกว่า

ระบบ Orbit ใช้ของเหลวเป็นตัวซับแรงสะเทือนในระบบขับเคลื่อน ช่วยรักษาความตึงโซ่ แต่ก็ทำให้หนักกว่าตีนผีทั่วไปด้วยเช่นกัน

ตีนผี Force มีขนาดเดียว ใช้ได้กับใบจานและเฟือง Road 12 Speed  จาก SRAM ทุกขนาด (ทั้ง Force และ RED ใช้ผสมกันได้)

สับจานหน้าทำงานเหมือนในรุ่น RED ใช้กรงสับจานแบบ YAW (ไม่ต้องทริม) กรงสับจานทำจากเหล็ก เทียบกับอลูมิเนียมที่เบากว่าใน RED

 

โซ่

โซ่ Force ใหม่เป็นดีไซน์ Flattop ขอบโซ่ด้านนอกแบนราบเรียบ SRAM เคลมว่าดีไซน์ Flattop ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของหมุดและข้อต่อโซ่ถึงแม้ว่าความกว้างโซ่จะแคบลง (เพื่อให้รองรับเฟือง 12 speed) ก็ตาม   ที่เพลตโซ่ดา้นในมีการเคลือบ Hard Chrome เพื่อลดทอนการสึกหรอ

โซ่แบบใหม่ใช้กับชุดเกียร์ 11 Speed รุ่นก่อนไม่ได้ ใช้กับ SRAM 12 Speed (Road) เท่านั้น ถ้าต้องการใช้ตัวปลดโซ่ไว ต้องซื้อ Flattop PowerLock ต่างหาก

 

เบรก

เบรกในซีรีย์ Force มีให้เลือกทั้งแบบริมเบรกและดิสก์เบรก สำหรับริมเบรกปรับดีไซน์ใหม่ให้รองรับการใช้งานยางหน้ากว้าง 28c และก้ามเบรกเป็นดีไซน์ dual pivot เพิ่มแรงเบรกและช่วยให้การเลียเบรกละเอียดขึ้น

ชุดริมเบรกมากับผ้าเบรกจาก SwissStop Platinum Flash Pro สำหรับล้อคาร์บอน และ BHP Pad สำหรับล้ออลูมิเนียม

ส่วนเวอร์ชันดิสก์เบรกไฮดรอลิกใช้ใบโรเตอร์ CenterLine XR รุ่นเดียวกับที่ใช้ใน SRAM RED eTap AXS มีให้เลือกทั้งแบบ 6-Bolt และ CenterLock มีสองขนาดคือ 140mm และ 160mm

 

ตัวเลือก SRAM Force eTap AXS

ผู้ใช้เลือกซื้อได้หลายรุ่น เช่น

ริมเบรก + จานหน้า 2X

ดิสก์เบรก + จานหน้า 2x

ดิสก์เบรก + จานหน้า 1X

ดิสก์เบรก + จานหน้า 1x + Tri set up (สำหรับรถไตรและไทม์ไทรอัล)

 

ราคาและน้ำหนัก

ตอนนี้เรามีแค่ราคา USD ครับ รวมๆ แล้วราคาตั้งจะแพงกว่า Shimano Ultegra Di2 8070

ราขายไทยจะเป็นยังไงก็ต้องรอตัวแทนจำหน่ายทั้งสองราย (Sport Bicycle และ WorldBike) เปิดตัวอีกที

วางจำหน่ายแล้วในต่างประเทศ ทั้งแบบกรุ๊ปเซ็ตและมากับคอมพลีทไบค์บางรุ่น

สรุป

ถ้าจะให้สรุปชุดขับ SRAM Force eTap AXS สั้นๆ มันก็คือ RED eTap AXS ที่น้ำหนักมากกว่า และราคาถูกกว่าเกือบสองเท่า และน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่สนใจชุดขับจากค่าย SRAM ที่เป็นแบบไร้สายครับ โดยเฉพาะคนที่อยากประกอบรถไตรหรือ Time Trial ชุดเกียร์ไร้สายก็ช่วยให้การประกอบเซ็ตรถ และการเดินทางกับรถสะดวกกว่าชุดเกียร์มีสายพอสมควร ออปชันต่างๆ ในชุด Force นี้ก็มีให้เลือกพอกับการใช้งานเกือบทุกรูปแบบ และตัดปัญหาพาวเวอร์มิเตอร์ราคาแพงในเวอร์ชัน RED ไปแล้ว

อย่างไรก็ดี ข้อจำกัดหลักๆ ของชุดขับ 12 Speed ตอนนี้ไม่ว่าจากค่ายไหนก็ตามคือ หาอะไหล่สำรองยาก มีราคาสูงกว่าชุดขับ 11 speed ที่แพร่หลายในตลาด และทำงานข้ามค่ายไม่ได้เหมือนชุดขับ 11 speed คนที่มีล้อหรือจักรยานหลายคันก็อาจจะต้องคิดหนักนิดนึงถ้าเปลี่ยนล้อหรือเฟืองสลับกันบ่อยๆ

ตัวเลือกที่น่าสนใจที่หลายคนอาจจะมองข้ามตอนนี้กลับเป็นชุดขับ Red eTap 11 Speed ที่ราคาตกลงเยอะ แต่ยังใช้งานได้ดี และน้ำหนักเบาครับ ปัญหาคือถ้าคิดจะอัปเกรดอะไรในอนาคตจะใช้กับอะไหล่ 12 speed ของ SRAM ไม่ได้เลย

DT คงได้ชุดขับ Force eTap AXS มาทดสอบเร็วๆ นี้ แล้วจะมาอัปเดตการใช้งานอีกทีครับ

Via: SRAM.com

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *