แอบให้นักปั่นอาชีพทดสอบกันมานานกว่าสองปีเต็มกับชุดขับเคลื่อนจักรยานเสือหมอบไร้สายจากค่าย SRAM และแล้วก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Eurobike ปีนี้ครับ ถือเป็นจุดเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีชุดขับเคลื่อนเลยก็ว่าได้เพราะนี่เป็นครั้งแรกของโลกที่เราได้เห็นชุดเกียร์ที่ทำงานผ่านระบบไร้สาย 100% วันนี้เราจะมาดูการทำงาน สเป็ค น้ำหนักของชุดขับ Sram Red eTap พร้อมวิดีโอ First Ride จากสื่อต่างประเทศหลายเจ้าครับ
ลาก่อน Double Tap, ยินดีต้อนรับ eTap
กรุ๊ปเซ็ต Red eTap นั้นมีชิ้นส่วนใหม่แค่ 4 ชิ้นเท่านั้น คือ มือเกียร์ทั้งสองข้าง สับจานหน้า ตีนผี และตัวชาร์จแบตเตอรี่ ชิ้นส่วนที่เหลือเช่นเบรค โซ่ เฟือง และขาจานนั้นยกมาจากชุด Sram Red 22 ทั้งหมด ครับ และมีออปชันเสริมเป็น Remote Shifter หรือชุดควบคุมชุดเกียร์ต่างหาก ทั้งระบบนี้ไม่มี Junction Box เหมือนเกียร์ไฟฟ้า Shimano Di2 (เพราะงั้นแล้วตัว Junction Box ที่เราเห็นในช็อตแอบถ่ายเมื่อปีก่อนเป็นของปลอมนั่นเอง)
แหล่งพลังงาน
เมื่อเป็นระบบเกียร์ไฟฟ้าไร้สาย แน่นอนว่าต้องมีแหล่งพลังงาน SRAMใช้แบตเตอรี่ 2 แบบตามนี้ครับ
- ตีนผีและสับจานหน้า: ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ใช้งานได้ 1000 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- มือเกียร์: แต่ละข้างใช้แบตกลม CR2032 และใช้งานได้ 2 ปีเต็มต่อการปั่นประมาณ 240 กิโลเมตรต่อหนึ่งสัปดาห์
ในทุกๆ ชิ้นส่วนที่ใช้แบตเตอรี่จะมีหลอดไฟ LED บอกสถานะแบตเตอรี่ — ไฟเขียวเมื่อแบตเต็ม, ไฟกระพริบแดงถี่เมื่อแบตใช้งานได้อีก 15 ชั่วโมง, ไฟแช่นิ่งสีแดงเมื่อใช้งานได้อีก 5 ชั่วโมง ถ้าแบตหมดกลางคัน ตีนผีจะเป็นตัวแรกที่หยุดทำงานซึ่งหมายความว่าคุณยังปรับจานหน้าให้พอดีกับการปั่นกลับบ้าน ส่วนแบตเตอรี่สำหรับมือเกียร์นั้นหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อ
ทั้งระบบไม่มีปุ่ม เปิด/ปิด แต่จะมีเซนเซอร์จับความเร็ว (accelerometer) ภายในชุดเกียร์ซึ่งจะจับได้ว่าจักรยานจอดอยู่หรือใช้งานอยู่ ถ้าไม่มีการเคลื่อนไหว ระบบจะเข้าโหมด sleep แต่นั่นหมายความว่าถ้าคุณขนจักรยานด้วยยานพาหนะอื่นๆ ระบบก็จะเปิดอัตโนมัติ SRAM แนะนำให้ถอดแบตเตอรี่ออกในกรณีแบบนนี้
มือเกียร์
มือเกียร์ทั้งสองข้างยังคงใช้รูปทรงเดิมของ SRAM เช่นเดียวกับระบบ DoubleTap มือเกียร์แต่ละข้างทำจากคาร์บอนไฟเบอร์และมีปุ่มเปลี่ยนเกียร์แค่หนึ่งชิ้น บริเวณฮู้ดลดขนาดลงเล็กน้อยเพราะไม่ต้องบรรจุกลไกการเปลี่ยนเกียร์ แต่ก็ทำให้มีน้ำหนักเบาขึ้น
ระบบ eTap ทำงานยังไง?
SRAM กล่าวว่าทีมงานชื่นชอบระบบการเปลี่ยนเกียร์ (Paddle Shifter) ในรถสูตร 1 ที่อยู่หลังพวงมาลัย ทำให้ทีมงานคิดค้นตรรกะการเปลี่ยนเกียร์ใหม่ทั้งหมด และเชื่อว่าใช้งานง่ายกว่าตรรกะการเปลี่ยนเกียร์ที่ใช้ในระบบปัจจุบันทั้งหมดที่มือเกียร์ขวาเปลี่ยนเกียร์หลัง / มือเกียร์ซ้ายเปลี่ยนเกียร์หน้า (ระบบ Di2 ของ Shimano ก็ใช้ตรรกะการเปลี่ยนเกียร์แบบจักรกล เพียงแค่เปลี่ยนระบบการทำงานเป็นไฟฟ้า) วิธีการใช้งาน eTap พอจะสรุปได้ง่ายๆ ตามนี้
- แตะปุ่ม Shifter ด้านขวาเพื่อเปลี่ยนเฟืองหลังเป็นเกียร์หนัก / แตะปุ่ม Shifter ด้านซ้ายเพื่อเปลี่ยนเฟืองหลังเป็นเกียร์เบา
- แตะปุ่ม Shifter ค้างเพื่อเปลี่ยนเฟืองหลังต่อเนื่อง (รูดเกียร์) PelotonMagazine รายงานว่าใช้เวลาประมาณ 2.9 วินาทีในการรูดเกียร์จากเฟือง 28t ไป 11t
- แตะปุ่ม Shifter ทั้งซ้ายและขวาพร้อมกันเพื่อสับจานหน้า
จูนเกียร์ยังไง?
ชุดเกียร์ Sram Red eTap ไม่จำเป็นต้องพึ่ง adjustment mode เหมือนระบบ Shimano Di2 คุณสามารถจูนเกียร์ได้ง่ายๆ ด้วยการแตะปุ่ม function ที่อยู่ในมือเกียร์ พร้อมๆ กับกดเปลี่ยนเกียร์ ซึ่งจะเลื่อนตำแหน่ง ตีนผี/ สับจาน (ขึ้นอยู่กับมือเกียร์ข้างที่กด) ทีละ .2 มิลลิเมตร
ตีนผี / สับจาน
ตีนผีและสับจาน Sram Red eTap บรรจุสมองจักรกลที่ใช้ควบคุมการทำงานของระบบทั้งหมด ทั้งสับจานหน้าและตีนผีหน้าตาแทบจะเหมือน Sram Red 22 จุดหมุนใช้ลูกปืนเซรามิก และทำจากอลูมินัมผสมคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมไฟ LED แสดงสถานะแบตเตอรี่
สับจานหน้าทำงานเหมือน สับจาน Sram Red22 Yaw (ไม่ต้อง Trim เหมือน Shimano) ซึ่ง Sram อ้างว่าทำให้ผู้ใช้ใช้เกียร์ได้ทั้ง 22 เกียร์โดยไม่เจอปัญหาโซ่สีสับจาน ตัวสับจานมีไฟแสดงสถานะและมีปุ่ม function สำหรับการจูนเกียร์เหมือนตีนผี
Satellite shifters
ระบบ Sram Red eTap รองรับ Satellite Shifter หรือรีโมตเปลี่ยนเกียร์ถึง 4 ชิ้น ซึ่งคุณจะเลือกวางไว้ตรงไหนของตัวจักรยานก็ได้ สำหรับชุดเกียร์ Red eTap Aero สำหรับจักรยาน TT ตัวรีโมตจะเชื่อมต่อกับ control unit ที่เรียกว่า Blipbox (junction box) ซึ่งจะทำหน้าที่ส่งสัญญาณการทำงานไร้สายไปยังตีนผีและสับจานหน้า
พูดง่ายๆ ถ้าต้องการใช้รีโมตเกียร์ ระบบจะไม่ไร้สาย 100% นั่นเองครับ SRAM ตั้งใจทำ Blipbox สำหรับจักรยาน Time Trial เพราะนักปั่นจะได้เปลี่ยนเกียร์ได้สะดวกทั้งบนแอโรบาร์และบนแฮนด์ธรรมดา เพราะงั้นสำหรับคนใช้เสือหมอบ หากอยากติด Sprint Shifter ก็จำใจต้องมีสายไฟในระบบครับ
เทคโนโลยีไร้สาย AIREA
ระบบไร้สายนั้นไม่ได้ปลอดภัย 100% และหากมีสัญญาณรบกวน หรือมีใครตั้งใจจะแฮคระบบชุดเกียร์ก็อาจจะทำงานได้ไม่สมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นเรื่องน่ากังวลเวลาที่ใช้แข่งขัน SRAM พบว่า protocol ไร้สายที่มีอยู่นั้นไม่ดีพอ ทั้ง Bluetooth, ANT+, และ WiFi จนวิศวกรสรุปว่าต้องสร้าง Protocol ไร้สายใหม่ขึ้นมาเองทั้งหมดเพื่อใช้ระบบนี้ โจทย์สำคัญคือมันต้องใช้พลังงานน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ต้องทำงานได้เที่ยงตรงพร้อมๆ กับระบบ eTap ที่อยู่ใกล้เคียง (เช่นในกลุ่มเปโลตองที่อาจจะใช้กรุ๊ปไร้สายพร้อมๆ กัน) และต้องส่งสัญญาณได้ 2 ทางพร้อมกัน (สำหรับจานหน้าและตีนผี)
ผลลัพธ์ก็คือ protocol ไร้สายรูปแบบใหม่ที่ใช้ได้เฉพาะกับอุปกรณ์ของ SRAM เท่านั้น เข้าระบบความปลอดภัยด้วย AES 128bit encryption ที่ใช้ระบบ rolling codes (omg!) และทำงานได้แม้ตัวอุปกรณ์จะอยู่ห่างกันถึง 100 เมตร หาก pair ระบบเข้าด้วยกันแล้ว ระบบชุดเกียร์ทั้งหมดจะไม่สื่อสารกับชุดเกียร์ SRAM eTap ตัวอื่นๆ ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดปัญหาการจับคู่อุปกรณ์มั่วซั่ว
SRAM ทดสอบความปลอดภัยของระบบในสนาม Tour of California ด้วยการเซ็ตอัประบบ eTap ทดลองที่ต้องรับคำสั่งเปลี่ยนเกียร์ 750,000 ครั้ง ตลอดระยะเวลาแข่ง 1 สัปดาห์ ซึ่งทีมงานพบว่า ถึงแม้จะต้องใช้สัญญาณไร้สายในย่านเดียวกับสัญญาณวิทยุ โทรทัศน์ WiFi Bluetooth ระบบเปลี่ยนเกียร์ได้แม่นยำทุกครั้งทั้ง 750,000 ครั้ง
Protocol ไร้สายนี้เรียกว่า Airea ซึ่ง SRAM อ้างว่าแม้แต่ signal jammer ที่สามารถยับยั้งการทำงานคลื่นวิทยุ โทรทัศน์ได้ก็ไม่มีผลต่อระบบ eTap สัญญาณจาก Airea ยังสามารถส่งสัญญาณ ANT+ ไปพร้อมๆ กันเพื่อเชื่อมโยงกับคอมพิวเตอร์ Garmin ที่อาจจะแสดงตำแหน่งเกียร์บนหน้าจอได้ในอนาคต
ความทนทาน
นอกจากการทดสอบระบบสัญญาณไร้สายแล้ว SRAM ยังทดสอบความทนทานของชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อให้เชื่อได้ว่าระบบนั้นทำงานได้ในทุกสภาพอากาศ เส้นทาง และสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบแรงสะเทือน ความแน่นหนาของแบตเตอรี่ (ถ้าล้มหรือชนแบตจะไม่หลุดเอง), ความสามารถในการกันน้ำ กันฝุ่น รวมถึงฉีดน้ำแรงดันสูงใส่ระบบในทุกๆ องศาเพื่อให้มั่นใจว่าน้ำจะไม่เข้าอุปกรณ์, และทดสอบการป้องกันไฟฟ้าสถิตด้วย
เซ็ตอัปยากมั้ย?
SRAM อ้างว่าช่างจักรยานที่ประสบการณ์เยอะน่าจะเซ็ตอัประบบทั้งหมดได้ภายในเวลาไม่เกิน 10 นาที และสำหรับนักปั่นที่มีประสบการณ์ซ่อมแซมจักรยานนั้นน่าจะทำได้ในเวลา 20 นาที ที่เร็วเพราะไม่ต้องจูนเกียร์ผ่านสายเคเบิ้ลเหมือนระบบจักรกล และการเซ็ตอัป / จับคู่ ตีนผี สับจานและมือเกียร์นั้นทำได้เร็วกว่าการตั้งเบรคเสียอีก
น้ำหนัก / ราคา / วันวางจำหน่าย
eTap Road Groupet: $2,758 USD หรือประมาณ 98,300 บาท ที่อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน (26 ส.ค. 2015 — ราคาต่างประเทศ)
eTap Aero Groupset: $2,835 USD หรือประมาณ 100,100 บาท ที่อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน (26 ส.ค. 2015 — ราคาต่างประเทศ)
วางจำหน่ายช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2016
น้ำหนักรวม eTap Road อยู่ที่ 2,030 กรัม (รวมสายเบรค และกระโหลก GPX) เทียบกับ 1,739 กรัม สำหรับกรุ๊ป Red 22 Mechanical น้ำหนักแยกชิ้นตามนี้ครับ
- มือเกียร์: 260g ต่อข้าง / ราคา $290 ต่อข้าง
- ตีนผี: 239g / $590
- สับจานหน้า: 187g / $370
- Satellite Shifter: 6g ต่อชิ้น / $200 สำหรับ 4 ชิ้น
- Blipbox: 31g / $300
- แท่นชาร์จ: $70
ปั่นจริงเป็นยังไง?
เสียงส่วนใหญ่จากสื่อต่างประเทศดูจะชื่นชอบชุดเกียร์ไร้สายจาก SRAM ครับ ลองดูวิดีโอการใช้งานได้จากวิดีโอของ Bikeradar และ GCN ข้างล่างนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม: Bikeradar / Cyclingtips / Cyclingweekly / PelotonMagazine