Race Note: ทีมชาติไทยใน Biwase Cup (สเตจ 2)

Editor Note: มาต่อกันตอนที่สองของ “บันทึกข้างสนาม” ที่โค้ชตั้ม วิสุทธิ์ กสิยะพัทเล่าเรื่องราวการแข่งของทีมชาติไทยใน Biwase Cup, Tour of Vietnam ครัย สเตจ 2 นักปั่นสาวไทยไม่ทำให้ผิดหวังเพราะเราได้ทั้งแชมป์สเตจและยังรักษาเสื้อผู้นำเวลารวมอยู่ด้วย เหตุการณ์เป็นยังไงไปติดตามกัน 

เข้าสู่เสตจที่ 2 วันนี้เราต้อนตื่นกันตั้งแต่ตี 4 เพื่อโหลดสัมภาระเดินทางไปสตาร์ทอีกเมืองหนึ่ง ระยะทางประมาณ 100 กม. ทำให้ต้องวางแผนการโหลดของและจักรยานขึ้นรถ อีกทั้งอาหารเช้าบนรถเราต้องเตรียมไปเองตั้งแต่เมื่อวาน การเดินทางไป ก็ไม่เป็นปัญหาอะไร แต่ปัญหาของเราคือ เด็กๆ เรานอนไม่ค่อยได้ กังวลเพราะจะต้องตื่นเช้า มานั่งขดขาในรถตู้ที่อัดของกับ คนอีก 10 คน

เส้นทางวันนี้ ระยะทาง 85 กม. มีจุดสปรินทร์ที่ กม. 40 และจะเริ่มไต่เขาระดับ Cat1 ในกม.ที่ 65 ระดับความชันคล้ายดอยสุเทพที่เชียงใหม่ คือประมาณ 7-8% ขึ้นไปชิงรางวัลเจ้าภูเขากันที่ ระยะ 75 และไหลเข้าเส้นชัยไปอีก 10 กม. แผนวันนี้คิอ เรารู้ว่าจะต้องมีคนเปิดเกมส์แลกหนีกันแน่ๆ พอสตาร์ทดูเชิงกันไปสักพัก ก็เริ่มมีคนยิงหนีประปราย จากทีมเจ้าภาพ Biwase ที่ส่งลงมาถึง 3 ทีม เราไม่รีบร้อนไล่ ใช้วิธีส่ง จันทร์ และ ปุ๋ย ขึ้นไปใส่ล้อคความเร็ว คือไม่ให้ห่างเกิน 45 วินาที รอให้ข้างหน้า ค่อยๆ ไหลกลับมา จนกระทั่ง กม.ที่ 32 ก็มีนักปั่นเลือดนักสู้ของเวียตนาม อาจหาญหนีเดี่ยวไป ในกลุ่มเปโลตอง นั้น มี 3 ทีม ที่จ้องกันอยู่ ไม่มีใครไล่เต็มที่ แต่ก็มาสมานทีมกัน 3 ทีม ช่วยกันไล่ใน 3 กม.ก่อนถึงจุดสปรินทร์ ส่งผลให้ไล่คนหนีไม่ทัน มาสปรินทร์วัดอันดับ 2-3 กัน แต่ไม่ได้มีผลอะไรมากนัก สิ่งที่น่าตื่นเต้น คือภูเขา Bao Loc ที่ตั้งตระหง่านขวางหน้าเราอยู่นั่นเอง..

10426228_10205920850843235_2312755418219119395_n

เมื่อ ขบวนเปโลตองมาถึงตีนเขา เราส่ง 5 นักรบหญิงของทีมชาติไทยเราขึ้นไปแผงหน้าทั้งหมด ความเร็วค่อยๆ เสมอแรงขึ้นๆ เรื่อยๆ มีคนหลุดลงมาประปราย และ หลุดลงมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเหลือในกลุ่มนำประมาณ 16 คน แต่ก็ยังเป็นของเราถึง 5 คน ผมยิ้มนิดๆ ที่เห็นเด็กๆ ของเราทำได้ดีตามแผน จากนั้นมีคนกระชากหนี ทำให้กลุ่มแตก ออกไปอีก ดอกนี้ จันทร์ ซึ่งสภาพร่างกายค่อนข้างล้า และฟื้นตัวช้า ก็ ไหลลงมาขี่ตามรอบตัวเองหลังกลุ่ม อีก 4 คนของเรายังเกาะกลุ่มอย่างเหนียวแน่น ไก่เริ่ม โจมตีเบาๆ ประมาณกระตุกให้คู่ต่อสู้ตัองรีบขึ้นไปเซทความเร็วให้นิ่ง ไม่งั้น ตายสถานเดียว มุ้ย ยังเป็นสปรินเตอร์ที่ขึ้นเขาได้ ไม่ต่างจาก เหงียน ธิ ธัท นักปั่นเบอร์ 1 ของเวียดนาม ก็ขึ้นได้เช่นกัน แต่อาการขึ้นแบบ เหนื่อยปางตาย ผิดกับไก่ ที่ ยังปั่นควงขาสบายๆ อยู่ ทันใดนั้นเอง

สิ่งที่ไม่อยากให้เกิด ก็เกิดจนได้ น้องแพร ตะโกนลั่น เรียกรถทีม เพราะล้อหน้ายางรั่ว ผมพุ่งขึ้นไป รีบเปลี่ยนล้อหน้าให้ อย่างกับ ฟอมูล่าวัน และรีบพา แพรเข้ากลุ่ม แต่แพรไล่ ขึ้นเขาคนเดียวจนทันกลุ่ม ปุ๋ย ในขณะที่ มีการโจมตีจากทีม โดแมสโก้ หนีขึ้นไปข้างหน้า ไก่ และมุ้ยกระชากตาม ล้อคแก้ปไว้ ด้วยระยะห่าง 20 วินาที เพื่อรอแพร แต่ดูแล้วแพรและปุ๋ยไม่น่าจะทันละ ผมบอกให้ไก่ระเบิดกลุ่ม ไปหาตัวหน้า แต่ในกลุ่ม ทั้ง 7 คน ไม่มีใครยอมให้ไก่ไป เพราะรู้พิษสงเสื้อเหลืองดี เรายังเก็บมุ้ยไว้สปรินทร์ พอลับโค้ง ระยะทางบอกประมาณ 72 กม. ก็เห็น ธงตราหมากรุก ซึ่งเป็นจุด KOM สายไปซะแล้ว มุ้ยยกสปรินทร์ เก็บที่ 2 มาได้ พอเริ่มลงเนิน มองเห็นตัวนำ ไกล้เข้ามา ไก่ ขึ้นไปลากกลุ่ม จนทัน และมาเปิดเกมส์เล่นกันใหม่ ตอนนี้กลุ่มนำมี 9 คน เป็น ทีม โดแมสโก้ 3 ทีม Biwase 2 ทีม เรา 2 มุ้ยกับไก่ ทีม An Giang 1 คือ เหงียน ธิ ธัท และทีมชาติ คาซักสถานติดมาด้วย 1 คน เกมส์ดำเนินมาถึง 7 กม. สุดท้ายผมเห็นชัดๆ ว่า เหงียน ธิ ธัท นั้นหมด จึงตะโกนบอกให้ไก่ ยกหนีระเบิดกลุ่ม เท่านั้นล่ะ ได้ผล ไก่ทำตามสั่งยกโฉบออกอีกฝั่งถนน ทุกคนยกตามเราตัดตัวสปรินทร์ที่คิดว่าจะต้องไปวัดกับมุ้ยหน้าเส้น และเป็นตัวอันตราย ได้อย่างนิ่มๆ หลุดแบบไม่ต้องคิดตามเลย ตอนนี้กลุ่มเหลือ 8 คนเข้มข้นเต็มที่ ด้วยรูปเกมส์แบบนี้ เราส่งไก่ขึ้นนำปกป้องเสื้อเหลืองใน 5 กม.สุดท้ายกับทีมโดแมสโก้ ที่ติดมาถึง 3 คนที่เขาจะเอาเวลาทีม และให้มุ้ย ตีตั๋วจี้อยู่ท้ายกลุ่ม เพื่อเก็บขาไว้สปรินทร์หน้าเส้น

11034292_10205920846243120_2907752201063192482_n

กิโลเมตรสุดท้ายมาถึง ไก่ขึ้นลากมุ้ยคิว 2 และมุ้ยก็ใจเย็นพอที่จะไม่กระชากสปรินทร์ในระยะที่ไกลเกินไป ส่งผลให้ มุ้ยเข้าเส้นชัยคว้าแชมป์ เสตจที่ 2 แบบสง่างาม และโค้ช ไม่ต้องลุ้นมากนัก คาซักเข้ามาเป็นที่ 2 ไก่ไหลเข้ามาเป็นอันดับที่ 6 ส่งผลให้ เวลาใน GC นั้นนำขาดออกไปอีก เพราะ 3 ตัวที่มาด้วยกันในเสตจที่ 1 นั้น ไม่มีใครติดมาด้วยเลยในวันนี้ มุ้ยไต่อันดับขึ้นมาเป็นที่ 2 ใน GC และ ยังเบิ้ลรางวัล เจ้าความเร็ว Blue Jersey และอันดับ 2 KOM น่าเสียดายที่น้องแพร ยางแตก ไม่อย่างนั้นเราน่าจะกวาดเสื้อสีขาว Best Young Rider ได้อีกตัวนึง (จะเยอะไปมั้ย 5555)

สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งดีใจไปนะครับ เรายังเหลืออีก 7 เสตจโหดๆ ที่ต้องกรำศึกกันอีก 7 วัน ทัวร์นี้มันส์จริงๆ เสตจที่ 3 ขึ้นเขา 2 ลูก ระดับ Cat 3 และ Cat1 ระยะทางอีก 110 กม.จบบนยอดเขาเมือง Da Lat หรือ สถานที่ถ่ายทำละคร ฮอยอันฉันรักเธอ พรุ่งนี้แผนจะเป็นอย่างไร ติดตามตอนต่อไปกันครับ
..

1461248_10205920848963188_3177861452990148872_n

ข่างล่างนี้เป็นข่าวรายงานสเตจ “ทางการ” ที่สมาคมจักรยานแห่งประเทศไทยเขียนไว้ครับ

“พันวราภรณ์” สปริ้นซิวแชมป์สเตจ 2

ศุภักษรนำต่อเวลารวมปั่นทางไกลเวียดนาม
การแข่งขันจักรยานทางไกลรายการ BIWASE CUP 2015 ณ เมืองเบาร็อค ประเทศเวียดนาม ซึ่งไทยส่งนักปั่นชุดซีเกมส์ครั้งที่ 28 นำโดยเจ้าของเหรียญทองแดงชิงแชมป์เอเชีย 2015 “เจ้าไก่” ศุภักษร นันตะนะ, ร้อยโทหญิงจันทร์เพ็ง นนทะสิน เหรียญเงินซีเกมส์ ,วิไลวรรณ กุลภา เหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 27 พันวราภรณ์ และนักปั่นดาวรุ่ง เพชรดารินทร์ สมราช หลังจากน่องเหล็กสาวไทยประเดิมได้อย่างสวยงานกับการคว้าแชมป์ สเตจแรก ส่งผลให้ “เจ้าไก่” มีเวลารวมนำเป็น จ่าฝูงได้ใส่เสื้อเหลืองของผู้นำเวลารวม สเตจที่ 2 เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 58 เส้นทางแข่งขันเริ่มไกลขึ้นและ โดยสตาร์ทจากเมือง เมืองลาหงา ไปเข้าเส้นชัยที่เมือง เบาร็อค ระยะทาง 90 กม ซึ่งเส้นทางแข่งขันใน สเตจ นี้เริ่มเป็นทางราบ สลับกับขึ้นๆ ลงๆ เนิน และมีทางขึ้นเขายาว 10 กม.

ตลอดการแข่งขันในช่วง 40 กม. ที่ยังเป็นทางราบขึ้นๆ ลงๆ เนิน น่องเหล็กสาวไทยทั้ง 5 เปิดเกมรุกขึ้นหนี ไล่ ลาก เพื่อหวังจะหนีกลุ่มให้ได้ แต่ยังหนีไม่ออก จนกระทั่งผ่านจุดจ้าวความเร็วที่เป็นทางราบและหลังจากผ่านเส้นชัยจ้าว ความเร็วเป็นทางราบอีก 20 กม.จากนั้นเส้นทางเริ่มจะปั่นขึ้นเขายาวประมาณ 10 กม.และกลุ่มนักปั่นก็ค่อยๆ แตกกระจัดกระจายโดยมีน่องเหล็กสาวไทย เพชรดารินทร์ หลังจากที่ยางแตกและเปลี่ยน ยางไล่เข้ากลุ่มก็สวนระเบิดกลุ่มออกทันที และเมื่อ กลุ่มแตก 4 สาวไทยก็ขึ้นมาเป็นผู้นำ งัดทักษะการปั่นขึ้นเขามาใช้กันเต็มที่ จนลงเขา จนเหลือระยะทาง 5 กม.สุดท้าย กลุ่มหน้ามีนักปั่นอยู่ 8 คนเป็นไทย 2 และเวียดนาม 6 คนงานนี้ ไทยต้องวางแผนส่ง พันวราภรณ์ ไป สปริ้น ส่งผลให้ ศุภักษร ขึ้นมาลากตั้งความเร็วส่งให้ พันวราภรณ์ สปริ้นเข้าเส้นชัยคว้าแชมป์สเตจที่ 2 มาครองได้สำเร็จ ส่วน ศุภักษร นั้นเข้ามาเป็นอันดับ 5 แต่ยังเป็นผู้นำเวลารวม 2 สเตจ ได้ใส่เสื้อเหลือวันที่ 2 ติดต่อกัน
ในขณะที่พันวราภรณ์ เก็บคะแนน สปริ้นจากจ้าวความเร็วขึ้นนำคะแนนสูงสุด และนักปั่นดาวรุ่ง เพชรดารินทร์ ทำเวลารวมเป็นผู้นำสองสเตจในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี
สำหรับ การแข่งขันในวันพรุ่งนี้ (2 มี.ค.58)

สเตจที่ 3 สตาร์ทจาก เมืองเบาร็อค ไปเข้าเส้นชัยที่ เมืองดารัด ระยะทาง 110 กม. โดยนักปั่นทีมชาติไทยยังคงสู้ศึกครบทุกคน

Facebook โค้ชตั้ม: Wisut Kasiyaphat
Facebook สมาคมจักรยานแห่งประเทศไทย: ThaiCycling Association

 

♦♦♦

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *