14 ผู้ชนะแห่ง Vuelta 2017

DT Note: บทความชิ้นนี้เป็นผลงานเดบิวต์ของคุณเก๋ หรือ Ikea จากเพจจักรยาน Team Active ซึ่งจะมาร่วมกับ DT ในการเล่าเรื่องที่น่าสนใจในวงการการแข่งขันจักรยานระดับโลกครับ


สนาม Vuelta a Espana อาจจะจบไปร่วมสองเดือนแล้ว แต่มีประเด็นนึงที่อยากจะหยิบมาคุยครับ

หลายครั้งที่ผมเห็นชื่อผู้ชนะในแต่ละวันเป็นแค่หัวข้อข่าว นักปั่นบางคนเรารู้จักก็สนุก เอนจอยกับชัยชนะของเขาไปด้วย แต่บางคนที่ไม่รู้จักก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเท่าไร เลยอยากจะลองหยิบแง่มุมต่างๆ ของแชมป์ในสนามนี้มาพูดถึง ในมุมที่ไม่ใช่แค่พาดหัวข่าว แต่พาไปรู้จักแบบกระชับๆ ว่าแชมป์เหล่านี้เป็นใคร มีเรื่องราวยังไงถึงได้เติบโตมาเป็นแชมป์สเตจในสนามระดับแกรนด์ทัวร์ครับ

Vuelta แข่งกันทั้งหมด 21 สเตจ แต่ปีนี้มีผู้ชนะเพียง 14 คน (กับ 1 ทีมจากสเตจจับเวลาประเภททีมในสเตจ 1 ที่ผู้ชนะคือทีม BMC Racing Team) จากนักปั่น 198 คน นั่นหมายความว่ามีนักปั่นบางคนได้แชมป์หลายสเตจครับ

 

1. แชมป์สเตจ 2

อีฟ แลมพาร์ท (Quickstep Floors)

นักปั่นเบลเยี่ยมจากทีม Quick-Step Floors คว้าแชมป์สเตจจากการโชว์ฟอร์มหนีเดี่ยวกม.สุดท้าย จนคว้าแชมป์สเตจได้สำเร็จ แถมปีนี้ เพิ่งคว้าแชมป์ Dwars Door Vlaanderen มาอีกตะหาก เป็นคนที่ถูกคาดหวังขึ้นมานำทีมในอนาคตด้วยครับ

ถึงจะเป็นแชมป์แต่ก็ยังมีความเป๋อ ในสเตจ 16 ที่เป็นการแข่งจับเวลาบุคคล แลมพาร์ทมาถึงจุดสตาร์ทช้ากว่ากำหนดเวลา เลยพุ่งจากด้านหลังออกด้านหน้าของแรมป์ปล่อยตัวไปเลย

 

2. แชมป์สเตจ 3

วินเซนโซ่ นิบาลี (Bahrain-Merida)

นิบาลีเป็นรองแชมป์รายการปีนี้ นอกจากแชมป์สเตจ 3 แล้วยังได้โพเดี้ยมอันดับ 3 อีก 2 สเตจด้วย และถึงจะไม่ได้แชมป์ Vuelta แต่เมื่อต้นปีก็ได้ อันดับ 3 จาก Giro มาอีกตะหาก กับทีม Bahrain-Merida ทีมใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อนิบาลีโดยเฉพาะ ถือว่าประสบความสำเร็จมากทีเดียว

แข่งจบ อาการเจ็บไม่ทันหายดี ไปเป็นเซเลบเปิดตัวมือถือ Nokia8 ต่อเลย แต่ไปทั้งทีก็ต้องโชว์ปั่นซะหน่อย (เหมือนจะเกี่ยวกับแอพฯ ในมือถือด้วย)

 

3. แชมป์สเตจ 4,10,13, 21

แมทเทโอ เทรนติน (Quckstep Floors)

เทรนติน(Matteo Trentin) เป็นนักปั่นคนเดียวในรายการนี้ที่เหมาคนเดียวไปถึง 4 สเตจ แถมยังเกือบได้แชมป์คะแนนรวม ต้องบอกว่าไม่มีสปรินเตอร์คนไหนที่จะเร็วกว่าเทรนตินอีกแล้วใน Vuelta ปีนี้ ถึงจะบอกว่าเพราะสปรินเตอร์แถวหน้าไม่ได้มาลงแข่งรายการนี้กันเลย แต่กับผลงานระดับ 4 แชมป์สเตจในแกรนทัวร์รายการเดียว ต้องบอกว่าสุดยอดจริงๆครับ

นอกจากจะเป็นแชมป์หลายสเตจแล้วยังเป็นคนใจกว้างด้วย เทรนติน ให้กำลังใจเพื่อนร่วมชาติอย่าง มานูเอล ควินซิอาโต้ (BMC Racing) รุ่นพี่นักปั่นที่ตั้งใจว่าจะรีไทร์หลังจากแข่งชิงแชมป์โลกเป็นรายการสุดท้าย ซึ่งตอนแรกควินซิอาโต้ เตรีียมตัวซ้อมกับทีมมาเต็มที่ เพื่อที่จะลงแข่ง Team Time Trial ในรายการชิงแชมป์โลก แต่พอได้ซ้อมในสนามจริง รู้ตัวว่าช่วยทีมไม่ได้เต็มที่ จึงสละสิทธิ์ให้เพื่อนร่วมทีมที่พร้อมกว่าเข้ามาแทน ถึงจะไม่มีผลงานในรายการสุดท้ายในชีวิตนักปั่น แต่ก็ได้ใจกองเชียร์ครับ

 

4. แชมป์สเตจ 5

อเล็กซี่ ลุทเซ็งโก้ (Astana)

นักปั่นคาซัสถานคนเดียวที่คว้าแชมป์สเตจใน Vuelta ปีนี้ได้สำเร็จ ตอนที่ได้แชมป์ยังอายุ 24 ปีด้วยซ้ำ แถมในวันเกิด 7 ก.ย. ก็เกือบได้แชมป์สเตจ 18 อีกด้วยแต่จบด้วยอันดับสอง

ถึงจะไม่ได้ชนะแชมป์สเตจในวันเกิดอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่ก็ได้ฉลองวันเกิดอายุ 25 ปีกับทีมครับ

 

5. แชมป์สเตจ 6 และ 12

โทมัสซ์ มาชินสกี (Lotto-Soudal)

นักปั่นโปแลนด์ที่ทำผลงานได้ดีทีสุด ในรายการปีนี้ ถือว่าเป็นผลงานที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตนักปั่นของมาชินสกีเลย ก่อนหน้านี้นอกจากผลงาน แชมป์จักรยานถนนโปแลนด์ 3 สมัย (2007, 2011, 2015) ก็มีผลงานแชมป์รายการบ้าง แต่เป็นเพียงรายการเล็กๆเท่านั้น

มาชินสกี ขอบคุณแฟนๆชาวโปแลนด์ สไตล์คนอารมณ์ดี เป็นคนที่ยิ้มได้ตลอดเวลาจริงๆ ยิ่งไล่ดูใน IG รู้สึกเลยว่าเป็นคนอารมณ์ดีมากๆ

 

6. แชมป์สเตจ 7

มาเทจ์ โมโอริค (UAE Emirates)

นักปั่นดาวรุ่งจากสโลวาเนีย ทีม UAE Emirates เป็นนักปั่นที่ครบเครื่องครับ ขึ้นเขาได้ ปั่น ITT ได้ ปั่นสนามคลาสสิคก็ได้ แล้วเพิ่งจะอายุ 22 ปีเท่านั้น ถึงจะย้ายทีมบ่อย โดยปีหน้าจะไปอยู่กับ Bahrain-Merida ก็ยังมีโอกาสพัฒนาได้อีกเยอะครับ

โมโอริคเป็นนักปั่นที่กระตือรือร้นใน Vuelta ปีนี้พอสมควร หลังจากเบรคอเวย์ได้แชมป์มา วันรุ่งขึ้นก็เบรคต่ออีกวัน (ถึงจะไม่รอดก็ตาม) แต่ก็เป็นคนที่ขยันอัปเดตการแข่งตัวเองในทวิตเตอร์มากจนตาลายไล่อ่านไม่ทัน

 

7. แชมป์สเตจ 8

จูเลียน อลาฟิลิป (Quickstep Floors)

ดาวรุ่งสนามคลาสสิค จากฝรั่งเศส ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สร้างผลงานมากมายครับ ถึงจะไม่ได้แชมป์รายการใหญ่ๆ อย่างที่หวัง แต่ก็ขึ้นโพเดี้ยมต่อเนื่องตลอด ถือว่าเป็นเด็กสร้างของทีม Quick-Step Floors ที่แสดงศักยภาพได้ดีมากๆ ใน Vuelta ปีนี้ก็พยายามออกเบรคอเวย์บ่อยๆ แถมมีส่วนช่วยให้เทรนตินคว้าแชมป์สเตจพอสมควรด้วย

อลาฟิลิปปีนี้ดูจะตั้งเป้ากับการแข่งชิงแชมป์โลกพอสมควรครับ เป็นคนที่ผมชอบท่าปั่นจริงๆ เวลาแข่งปกติก็ชอบปาดซ้ายขวาเวลาหนีกลุ่มประจำ

 

8. แชมป์สเตจ 9 และ 16

คริส ฟรูม (Team Sky)

คงไม่ต้องเล่าอะไรมากกับแชมป์คนนี้ครับ หลังจากคว้าแชมป์ใน Tour de France แบบที่ไม่มีแชมป์สเตจเลย ใน Vuelta นี่ ก็เลยจัดไป 2 แชมป์สเตจ แถมติด Top-5 ในอีก 5 สเตจด้วย ก็เลยไม่แปลกใจ ที่ได้เสื้อผู้นำหลายตัวครับ

“บางครั้ง แม้แต่แชมป์เสื้อแดง ก็ยังต้องโบกรถ โชคดี มีรถบัสปาร์ตี้ยอมจอดรับ ฟรูมไปด้วย”

เหตุการณ์สนุกๆ ที่ทีมปล่อยให้ฟรูมต้องโบกขึ้นรถบัสทีมที่รอฉลองให้ฟรูมกันอยู่บนรถครับ

แข่งเสร็จได้แชมป์ ไปถ่ายแบบลงนิตยสารแบบนู้ดๆ ต่อเลยด้วย

9. แชมป์สเตจ 11 และ 15

มิกูเอล โลเปซ (Astana)

ดาวรุ่งโคลัมเบียที่เริ่มฉายแววมาเรื่อยๆตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ปีนี้น่าจะเป็นปีที่โชว์ความสามารถให้เราเห็นได้ชัดที่สุด เป็นนักปั่นที่มีทั้งฝีมือ ทั้งความมั่นใจ และการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยม ด้วยอายุเพียง 23 ปีเท่านั้น ถึงกับได้ฉายาว่า Superman นับว่าเป็นอีกความหวังนึงของโคลัมเบียเลย หลังจากที่ผลิตสุดยอดนักปั่นในยุคนี้มาหลายคนแล้ว

ความสำเร็จที่โลเปซได้มา ไม่ใช่แค่จากแรงอย่างเดียว อย่างในทวิตนี้ที่โพสต์ไว้ตั้งแต่ก่อนเริ่มแข่ง ชัดว่าวางแผนมาเป็นอย่างดี ได้ลองปั่นเส้นทางนี้มาแล้ว

 

10. แชมป์สเตจ 14

ราฟาล มาจ์กา (Bora-Hansgrohe)

มาจ์กานักปั่นโปแลนด์อีกคน ที่รายการนี้ได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าทีม แต่น่าเสียดาย ที่สัปดาห์แรกไม่สบาย ทำให้เวลาห่างจากผู้นำจนไม่สามารถทำผลงานใน GC ได้ แต่ก็ยังแก้ตัวได้ด้วยแชมป์สเตจ แถมเป็นสเตจที่ยอดเขา Sierra de La Pandera ที่สูงชันมากด้วย

ระหว่างการแข่งก็จังวันเกิดของเขาพอดี ทีมเลยทวีตอวยพรวันเกิดให้

 

11. แชมป์สเตจ 17

สเตฟาน เดนิฟล์ (Aqua Blue Sport)

เดนิฟล์ เป็นนักปั่นจากออสเตรีย ประเทศซึ่งในหลายปีมานี้เพิ่งจะมีปีนี้เอง ที่มีผลงานในระดับแกรนทัวร์ นอกจาก เดนิฟล์ ก็เป็น ลูคัส เพิร์สทึลแบ๊กเกอร์ ที่ได้แชมป์สเตจแรก ใน Giro d’Italia 2017

หลังจากการแข่ง แฟนๆ ชาวออสเตรียก็ต้อนรับราวกับเป็นวีรบุรุษของประเทศ ได้รับการต้อนรับอย่างดีทั้งจากกองเชียร์และครอบครัวพร้อมลูกที่มารับกลับออสเตรียกันอย่างอบอุ่นเลยครับ แล้วยิ่งในปี 2018 จะมีแข่งชิงแชมป์โลกที่ออสเตรียด้วย อาจเป็นเพราะออสเตรียมีนักปั่นในระดับโปรทัวร์น้อยมากเมื่อเทียบกับชาติอื่นด้วย ชนะทีนึงเลยพิเศษหน่อย

 

12. แชมป์สเตจ 18

แซนเดอร์ อาร์แมร์ (Lotto-Soudal)

เป็นนักปั่นเบลเยี่ยมที่เทิร์นโปรฯ มากว่า 10 ปีแล้ว ปีนี้ใน Vuelta นอกจากแชมป์สเตจ 18 แล้ว ยังได้รางวัลนักปั่นดุเดือดในสเตจ 15 ด้วย หลังจากพยายามเบรคอเวย์มาเกือบทุกวัน ก็ทำสำเร็็จในที่สุด

ก่อนจะมาเป็นนักปั่น อาร์แมร์ เคยเป็นทั้งนักแข่งอินไลน์สเก็ต และนักกรีฑาก่อนที่จะได้มาเป็นนักปั่นอาชีพ!

 

13. แชมป์สเตจ 19

โทมัส เดอ เกนท์ (Lotto-Soudal)

เป็นนักปั่นเบลเยี่ยมที่ผลงานไม่มาก แต่มีเรื่อยๆ เพราะเป็นนักปั่นที่มีความพยายามสูงมากๆ ไม่ว่ารายการไหนที่เห็นเค้าลงแข่ง จะต้องได้เห็นเดอเกนท์ พยายามที่เบรคอเวย์หนีออกไปแน่ๆ แล้วเวลาอยู่ในเบรคอเวย์ก็แทบจะไม่สนใจว่าใครจะเกี่ยงการช่วยลากรึเปล่า ถ้าไม่มี เดอเกนท์ก็ลากเองหนีเอง

“จาก 40 สเตจในแกรนทัวร์ปีนี้ ผมพยายามเบรคอเวย์ไป 15 สเตจ และในที่สุดก็ทำสำเร็จในความพยายามสุดท้าย, อยากให้ใครซักคนช่วยบอกก่อนนิดดดด” เดอเกนท์กล่าวไว้
.
.
.
“จะได้ไม่ต้องออกเบรคอเวย์เยอะขนาดนั้น” (เดอเกนท์ไม่ได้กล่าว)

 

14. แชมป์สเตจ 20

อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (Trek-Segafredo)

คงไม่มีคำไหนอธิบายคนคนนี้ไปได้ดีกว่าคำว่า ตำนาน กับแชมป์แกรนทัวร์ถึง 7 ครั้งจากทั้ง 3 รายการ Giro, Tour และ Vuelta เริ่มปั่นอาชีพตั้งแต่ปี 2008 ตอนที่อายุเพียง 21 ปี นับถึงปีนี้อายุ 34 ปี ถือว่าเป็นเวลากว่า 14 ปีในวงการ ที่ทุกคนต้องจดจำครับ

“ศึกครั้งสุดท้าย”

รูปนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกตลอดชีวิตนักปั่นอาชีพของคอนทาดอร์มากๆ เลยทีเดียว ขนาดเราคนดูมองรูปนี้ยังรู้สึกตื้นตันไปด้วย และช่างเหมาะเจาะที่จะจบโพสต์นี้จริงๆ

 

By ikae

เก๋ หรือ ikae(ไอ้เก๋) แอดมินเพจ “Team Active / ทีมแอ๊คถีบ” ชอบกีฬาและการปั่นจักรยานมาก จนอดไม่ได้ที่จะเล่าให้คนอื่นสนุกด้วยกัน

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *