รีวิว: To The Fore ปั่นท้าโลก (2015)

คุณเคยสงสัยไหมครับว่าทำไมภาพยนตร์เกี่ยวกับการแข่งขันจักรยานถึงมีน้อยมาก? ถ้าจะนับกันจริงๆ หนังจักรยานในสไตล์การแข่งขันอย่าง Tour de France แค่นิ้วมือสองข้างยังไม่ครบเลยด้วยซ้ำ เรื่องที่พอตื่นตาตื่นใจก็มี A Sunday In Hell (1977) ที่สะท้อนการแข่งขัน Paris-Roubaix, มี The Flying Scottman (2006) เรื่องของการทำลายสถิติ Hour Record ของกราอีม โอบรี ที่ใกล้เคียงหน่อยก็ The Armstrong Lie (2013) สารคดีเรื่องราวการโด้ปของแลนซ์ อาร์มสตรอง สื่อบันเทิงจักรยานส่วนใหญ่เราจะรู้จักกันในมุมของมังงะและอนิเมะเสียมากกว่าเช่น โอตาคุน่องเหล็ก (2008), โอเวอร์ไดรฟ์ (2005), นางนวลสยายปีก Kamome Chance (2008), สิงห์นักปั่น Shakariki (1992), และ Odds — ฝันติดล้อแต้มต่อของชีวิต (2006)

image001

นั่นก็เพราะว่าวงการจักรยานแข่งขันมันเป็นอะไรที่ niche และเล็กมากๆ นั่นเองครับ ไม่มีเหตุผลทางธุรกิจที่จะมาทำหนังกีฬาจักรยานเพราะคนดูก็ไม่ได้เยอะมากอะไร ยิ่งทำลึก ทำสมจริงยิ่งเข้าใจยาก ยิ่งขายไม่ได้

To The Fore (ชื่อไทย “ปั่น ท้า โลก”) — เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไทย 27 สิงหาคมนี้ เป็นความพยายามล่าสุดในการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกสนามแข่งขันจักรยานอาชีพโดยฝีมือผู้กำกับฮ่องกง ดานเต้ แลม และนำแสดงโดยดาราไต้หวันชื่อดังเอ็ดดี้ เผิงคู่กับชอย ซีวอนดาราเกาหลีขวัญใจสาวเอเชีย

Ducking Tiger ได้รับเชิญให้ไปชม To The Fore รอบสื่อมวลชนเมื่อคืนนี้เลยจะมารีวิวให้ฟังกันในมุมของคนที่อยู่ในวงการจักรยานจริงๆ ว่าหนังเรื่องนี้เป็นยังไง สมจริงไหม น่าดูหรือเปล่า? (ไม่มีสปอยล์นะครับ อ่านได้)

 

เรื่องราว: การไล่ล่าฝันของทีมดิวิชัน 3

ชื่อเรื่อง To The Fore จริงๆ แล้วมาจากภาษาจีนกวางตุ้งคำว่า ‘Por Fung” หรือถ้าแปลเป็นภาษาอังกฤษก็จะได้คำว่า “Breaking Wind” ซึ่งภาษาไทยก็หมายถึง “บังลม” นั่นเอง นักปั่นจักรยานน่าจะรู้จักคำนี้ดีเพราะหน้าที่การบังลมมันเป็นของลูกทีมที่ต้องเสียสละแรง กำลังใจ และชื่อเสียง รับหน้าที่ช่วยแหวกลมให้สปรินเตอร์หัวหน้าทีมได้ออมแรงไว้เหลือพุ่งทะยานเอาชนะคู่แข่งที่หน้าเส้นชัย เมื่อหมดหน้าที่แล้วลีดเอาท์ก็ต้องหลบทางให้ลีดเดอร์ขึ้นสปรินต์

เอ็ดดี้ เผิง พระเอกของเรื่อง
เอ็ดดี้ เผิง พระเอกของเรื่อง

To The Fore เป็นเรื่องราวของทีมจักรยาน Radiant ซึ่งเป็นทีมดิวิชัน 3 จากไต้หวันที่อยากจะเลื่อนขึ้นดิวิชัน 2 และไปแข่งในระดับ UCI WorldTour ในสนามใหญ่อย่าง Tour de France ในที่สุด

จุดเด่นของเรื่องนี้คือเราไม่ได้โฟกัสไปที่สปรินเตอร์ เหมือนหนังจักรยานอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นหัวหน้าทีมครับ แต่เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ของ “ม้ารอง” เพื่อนและคู่แข่ง 3 คนที่เริ่มอาชีพนักปั่นจากการเป็นลีดเอาท์ให้หัวหน้าทีม หนังพยายามถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของลีดเอาท์ที่ต้อง “เสียสละ” ให้หัวหน้าทีม และยอมรับว่าผู้ชนะการแข่งขันจักรยานนั้นมีได้คนเดียว ถึงแม้จะต้องทำงานกันเป็นทีมก็ตาม

To The Fore เป็นภาพยนตร์แนวสปอร์ต-โรแมนติก เน้นความตื่นเต้นเร้าใจในการแข่งขัน บวกกับอารมณ์ความรู้สึกของการเป็นนักปั่นอาชีพ เอ็ดดี้ เผิงรับบทโจว หมิง เป็นพระเอกนักปั่นลีดเอาท์และสปรินเตอร์ฝีเท้าดีอารมณ์ร้อนที่เพิ่งจะเข้าวงการแต่ก็ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว คู่กับเพื่อนร่วมทีมลีดเอาท์สายอึด ชิว เทียน แสดงโดยโต้ว เซียว ทั้งคู่หลงรักผู้หญิงคนเดียวกัน (หวังลั่วตัน) ซึ่งเป็นนักปั่นจักรยานอาชีพเหมือนกัน ส่วนชอย ซีวอนรับบทเป็นเจิ้งจื่อหยวนสปรินเตอร์ประจำทีมที่สุขุมรอบคอบและคว้าชัยชนะให้ทีมหลายต่อหลายครั้ง

TO THE FORE Singapore Gala Premiere - Shaun Owyeong - 3

ถึงทีมจะประสบความสำเร็จ แต่ไม่นานก็มีเหตุให้เพื่อนรักทั้งสามคนต้องแยกทีมกันและกลายมาเป็นคู่แข่งกันในที่สุด ในจุดนี้ผู้กำกับพยายามรวมเอาดราม่าทุกอย่างที่มีในวงการจักรยานมายำไว้ในหนังความยาว 120 นาที มีทั้งเรื่องทีมแตกเพราะขาดสปอนเซอร์ นักปั่นโด้ป เพื่อนหักหลังกันเพราะลูกทีมโดนทีมคู่แข่งซื้อตัว มีสปรินเตอร์บ้าอีโก้หลงความสำเร็จ มีเรื่องของตัวเอกที่ชีวิตครอบครัวบัดซบจนเป็นแรงผลักดันให้แข่งสำเร็จ มีความฝันที่อยากจะเป็นแชมป์โลกเหมือนรูย คอสต้า (นักปั่นทีม Lampre-Merida) มีช็อตแข่งจักรยานนอกสนามในรูปแบบที่คุณคาดไม่ถึง  แน่นอนว่าต้องมีเรื่องความสามัคคี ทีมเวิร์ก และการเสียสละของนักปั่นเพื่อให้ครบองค์ประกอบหนังกีฬา

ผมคงไม่สปอยล์เรื่องมาก เพราะถึงแม้พล็อตจะไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่ก็มีจุดหักมุมตลอดทั้งเรื่องครับ

 

สมจริงมั้ย?

ขอตอบข้อแรกก่อน เพราะเชื่อว่าคนที่อ่านเว็บ DT นั้นติดตามการแข่งจักรยานกันมาต่อเนื่องอยู่แล้ว ต้องบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้ไม่สมจริงครับ จังหวะจะโคนในการแข่งขัน กฏกติการการเลื่อนดิวิชันเก็บคะแนนต่างๆ ไม่ได้สะท้อนการแข่งขันในชีวิตจริงมากนัก แต่นำมาดัดแปลงเพื่อให้ผู้ชมที่เคยดูแข่งจักรยานหรือไม่เคยปั่นเข้าใจและตามเรื่องได้ง่าย ซึ่งถ้ามองในมุมของคนที่ไม่เคยติดตามจักรยานก็ต้องบอกว่าผู้กำกับทำได้ดูจักรยานได้เข้าใจง่ายดีครับ (คุณผู้ชายพาแฟนไปดูแล้วสนุกด้วยกันได้แน่นอน)

TO THE FORE Singapore Gala Premiere - Shaun Owyeong - 18

แต่สิ่งที่ผมไม่ค่อยชอบคือหนังเน้นความเป็นแอ็คชันเกินพอดีไปนิดหนึ่ง (ความเห็นส่วนตัว) มุมกล้องต่างๆ ระหว่างแข่งตัดไปตัดมารวดเร็วมาก….ถ้าคุณเคยดูสปรินต์ในตูร์เดอฟรองซ์จะเห็นว่ามันไม่เหมือนในหนังเลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งจังหวะลีดเอาท์ จังหวะการสปรินต์ จังหวะขึ้นเขา จังหวะการทำเกมแข่งกันพูดอย่างคนชินการแข่งของจริงมันก็เลยคาใจครับ ออกจะหงุดหงิดนิดๆ แต่ถ้าไม่คิดอะไรมากก็ดูสนุกดี กลยุทธ์ต่างๆ ในการแข่งขันที่ทำออกมาค่อนข้างใกล้เคียงของจริง แต่ทำให้โอเวอร์พอสมควรเพื่อความสนุกในการรับชม…

มันเหมือนที่ว่าถ้าคุณอยากดูหนังแข่งรถยนต์แบบสมจริง คุณคงไม่ไปดู Fast and Furious…. To The Fore ก็คือ F&F ภาคจักรยานนั่นหละครับ

 

น่าดูมั้ย?

ถ้าตัดเรื่องความสมจริงออกไป ก็ถือว่าเป็นหนังกีฬาที่ดูสนุกดี หนังเน้นเรื่องความสัมพันธ์ของเพื่อนนักปั่น 3 คนที่เคยช่วยเหลือกัน แยกทีมกัน สุดท้ายกลายเป็นคู่แข่งกัน และพยายามสะท้อนความยากลำบากในการเป็นนักปั่นชื่อดัง “ในโลกของเรา ถ้าคุณแพ้คุณก็ไม่เหลืออะไรเลย” ซึ่งนำไปสู่การโด้ป การฮั้วผลการแข่งขัน และความหลงไหลในอำนาจและชื่อเสียงเงินทอง

TO THE FORE Singapore Gala Premiere - Shaun Owyeong - 3

ในด้านโรมานซ์ผมว่าหนังทำได้ไม่ดีเท่าไร ความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกนางเอกดูแห้งๆ ทุกครั้งที่หนังตัดมาบทรัก (ช่วง downtime) ทำให้ได้แต่คิดว่าเมื่อไรมันจะตัดกลับไปจังหวะการแข่งขันอีก แต่เรื่องความสัมพันธ์ของเพื่อนถือว่าโอเค ถึงพระเอกสามคนจะแยกทีมกัน ต่อสู้กัน แต่ทุกคนก็ยังมีความเคารพในความสามารถของกันและกันและผู้กำกับถ่ายทอดจุดนี้ออกมาให้เห็นชัดครับ

เอฟเฟกต์ต่างๆ ก็เวอร์สะใจดี ซึ่งหมายความว่ามันไม่ค่อยสมจริง แต่ก็ไม่เว่อร์อย่างในโอตาคุน่องเหล็กหรือ Prince of Tennis อะไรแบบนั้น มุมกล้องต่างๆ ทำได้โอเค มีช็อต GoPro จากหน้านักปั่น มองจากด้านหลัง ด้านข้าง ดูแล้วได้อารมณ์ร่วมดี หนังเรื่องนี้ถ่ายในสถานที่จริงซึ่งวิวทิวทัศน์สวยมาก มีทั้งทะเลทราย Tengger ในจีน, แข่งไครทีเรียมกลางฮ่องกง, แข่ง Road Race ในเซี่ยงไฮ้ แข่งขึ้นเขาในไต้หวัน อิตาลี และเกาหลี เรียกได้ว่าวิวนี่สวยยิ่งกว่าสนามแข่งจริงๆ ที่เราเห็นกันในถ่ายทอดสดในโทรทัศน์อีกครับ

ซาวด์เอฟเฟกต์ก็มีเสียงกริ๊ก กรั๊ก กึ๊ง กั๊งเวลาเข้าเกียร์ มีเสียงล้อคาร์บอนตัดลมวูบๆ แต่ซาวท์แทรคประกอบดูจะเว่อร์ไปนิด เน้นใช้เพลงคลาสสิคสไตล์ epic บรรเลงอึกทึกยังกะดูหนังฟอร์มใหญ่ Cheesy นิดๆ แต่ก็น่าจะเป็นสไตล์ผู้กำกับเขา

 

สรุป

โดยรวมแล้ว To The Fore เป็นหนังจักรยานที่ดูได้สนุกดีครับ อาจจะไม่ตอบโจทย์ความสมจริงสำหรับคอจักรยานฮาร์ดคอร์ที่ติดตามการแข่งขันตลอดทั้งปี ต้องบอกว่ามันคือหนังสปอร์ตดราม่า โรมานซ์ที่ใช้จักรยานเป็นตัวเดินเรื่องดีกว่า หนังสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ อาจจะยังไม่ได้อารมณ์กระชากใจเหมือนหนังกีฬาฮอลลีวู้ดเทพๆ อย่าง Moneyball (2011), Raging Bull (1980), Rocky (1976) หรือ The Fighter (2010) แต่ก็จัดว่าทำได้ไม่เลวสำหรับมาตรฐานหนังเอเชีย สาวๆ น่าจะชอบเพราะพระเอกหน้าตาดี (แต่นางเอกหน้าจืดไปนิด) ดูกับแฟนหรือกับครอบครัวได้สนุกดี ดูแก้ขัดรอเรื่อง The Program (2015) เรื่องราวชีวิตของแลนซ์ อาร์มสตรองจากสตีเฟ่น เฟรียส์ที่จะฉายปลายปีนี้ครับ

ป.ล. แฟนจักรยาน Merida คงฟินกันถ้วนหน้าเพราะ tie in Merida นี่มาเต็มทั้งเรื่องครับ Merida เป็นสปอนเซอร์ใหญ่หนังเรื่องนี้ ^^”

DT Rating: ★★★½,

ขอบคุณบริษัท CycleSport ตัวแทนจำหน่ายจักรยาน Merida ประเทศไทยสำหรับบัตรเข้าชมครับ 

* * *

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *