เกิดอะไรขึ้นในสเตจ 13?
จูเลียน อลาฟิลลิป (Deceuninck-QuickStep) โชว์ฟอร์มเหนือความคาดหมายอีกครั้งเมื่อเขาคว้าแชมป์สเตจ 13 ในการแข่งไทม์ไทรอัล ปั่นจับเวลาบุคคล นอกจากจะป้องกันเสื้อเหลืองได้แล้ว ยังทำเวลานำห่างคู่แข่งคนสำคัญอย่างเกอเรนท์ โทมัส (Team Ineos) ได้ถึง 14 วินาที
อลาฟิลลิปทำความเร็วเฉลี่ย 46.629 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนคอร์สระยะทาง 27 กิโลเมตร ใช้เวลา 35:00 นาที
ถึงจะไม่ได้แชมป์สเตจ แต่เกอเรนท์ โทมัสก็โชว์ฟอร์มแชมป์เก่า ทำเวลาห่างผู้ท้าชิงแชมป์รายการคนอื่นๆ ได้หลายสิบวินาที และคว้าอันดับสองของสเตจ
โทมัส เดอ เกนท์ (Lotto-Soudal) เป็นอีกหนึ่งม้ามืดที่ทำเวลาดีที่สุดตลอดทั้งสเตจ ก่อนที่โทมัสและอลาฟิลลิปจะปล่อยตัว สุดท้ายเขาพ่ายให้อลาฟิลลิปไป 36 วินาที ปั่นจบด้วยเวลา 35:36 นาที พลาดแชมป์สเตจครั้งที่สองใน Tour de France ปีนี้ไปอย่างน่าเสียดาย
วิดีโอไฮไลท์
ผลงานของกัปตันทีม Quickstep วันนี้ทำให้เขามีเวลานำโทมัส (อันดับสอง) ที่ 1:26 นาที สตีเฟน เคราซ์เวก (Jumbo-Visma) รั้งอันดับสามที่ +2:12 นาที เคราซ์เวกเองก็ทำเวลาในสเตจได้ดีเช่นกัน คว้าอันดับหกของสเตจ ช้ากว่าอลาฟิลลิป +45 วินาที
ตัวเต็ง GC อีกสามคนที่ทำเวลาดีมากเป็นทิบอต์ พินอท์ (Groupama-FDJ), ริชีย์ พอร์ท (Trek-Segafredo) และริกโอเบอร์โต้ อูราน (EF Education First) ทั้งสามคนช้ากว่าโทมัสแค่ราวๆ 30 วินาที
อีแกน เบอร์นาล เพื่อนร่วมทีมโทมัส ทำเวลาได้ไม่ดีนัก ช้ากว่าตัวเต็งหลายๆ คน เข้าเส้นชัยด้วยเวลาลำดับที่ 21 ช้ากว่าอลาฟิลลิป 1:36 นาที
ไนโร คินทานา (Movistar), อดัม เยทส์ (Mitchelton-Scott) แดน มาร์ติน (UAE), โรมัน บาเดต์ (AG2R), มิเคล แลนด้า (Movistar) ทั้งสี่คนเสียเวลาอย่างน้อยหนึ่งนาทีให้โทมัส ทำให้อันดับเวลารวมของทั้งสี่คนช้ากว่าโทมัสอย่างน้อย 3 นาที ซึ่งถือว่าเยอะพอสมควรสำหรับเกม GC และจำเป็นต้องโจมตีทีม Ineos ต่อเนื่องในสเตจภูเขาสุดสัปดาห์นี้เพื่อทำเวลาตีตื้น
เวาท์ แวน อาร์ท (Jumbo-Visma) ตัวเต็งสเตจต้องออกจากการแข่งขันอย่างน่าเสียดาย เมื่อเขาไปเกี่ยวกับรั้วกั้นข้างสนามในช่วงกิโลเมตรสุดท้าย ล้มบาดเจ็บหนักและต้องถอนตัว
ผลการแข่งขัน
Race Note 1: อลาฟิลลิปเหนือความคาดหมาย
ชัยชนะของอลาฟิลลิปเป็นอะไรที่ทำให้คนฝรั่งเศสกลับมามีความหวังอีกครั้ง เขาเป็นนักปั่นฝรั่งเศสคนแรกในรอบ 35 ปีที่ชนะสเตจไทม์ไทรอัลระหว่างที่ใส่เสื้อเหลือง
“ผมรู้ว่าวันนี้ผมน่าจะปั่นได้ดีนะ จากเส้นทางที่เราสำรวจก่อนลงแข่งจริง ผมทุ่มสุดตัว โดยเฉพาะช่วงแรกที่เป็นทางขึ้นๆ ลงๆ เข้าสไตล์การแข่งของผม”
“ตอนใกล้จะจบ โค้ชผมบอกว่าผมนำโทมัสอยู่สิบวินาที ได้ยินอย่างนั้นผมก็ใส่เต็มที่เลย ได้แชมป์สเตจ โคตรไม่อยากเชื่อ ดีใจจริงๆ ครับ เสน้ทางแบบนี้ ฟอร์มแบบนี้ ทุกอย่างมันลงตัว”
แม้แต่เกอเรนท์ โทมัส (Ineos) ก็ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า: “เป็นผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมายเหมือนกันนะ ก็ชัดเจนว่าเขาฟอร์มดีมาก และเป็นคนที่ต้องจับตาเป็นพิเศษตอนนี้”
แต่อลาฟิลลิปก็ยังรู้ว่าการจะป้องกันเสื้อเหลืองให้ถึงปารีส (ได้แชมป์รายการ) คงไม่ใช่เรื่องง่าย:
“โอเค ก็ต้องยอมรับว่าเราไม่ได้มีทีมที่จะได้แชมป์ Tour de France เราไม่มีนักไต่เขาเยอะเหมือนทีมอื่น แต่วิถีของเราคือรุกหนักทุกวัน เราจะพยายามชนะ…สเตจพรุ่งนี้เป็นเส้นชัยบนยอดเขา ผมไม่ชอบเท่าไร ผมจะพยายามตามกลุ่มหน้าให้ได้นานที่สุด ถ้าสุดท้ายไม่ไหว ผมจะไปช่วย (เอนริค) แมส แทน (นักไต่เขาของทีม) แต่วันนี้ขอดีใจกับชัยชนะและเสื้อเหลืองอีกวันก่อนละกัน”
Race Note 2: Quickstep สองเสื้อ
ไม่ใช่แค่อลาฟิลลิปที่ทำผลงานได้ดีเยี่ยมในสเตจเมื่อคืนนี้ แต่นักไต่เขาม้ามืดของทีม เอนริค แมส ก็ทำเวลาดีมากเช่นกัน เขาจบสเตจด้วยอันดับ 9 ช้ากว่าอลาฟิลลิป +58 วินาที แต่ขึ้นมานำหมวดเสื้อขาว Best Young Rider เวลาดีกว่าอีแกน เบอร์นาล (Ineos) ที่อยู่อันดับสอง +8 วินาที
หลายคนอาจจะไม่รู้จักแมส แต่เขามีดีกรีเป็นอันดับสอง Vuelta ’18 และเป็นนักไต่เขาฝีเท้าดีของทีม คำถามต่อจากนี้คือทีมจะจัดการทั้งเสื้อเหลืองของอลาฟิลลิป และแมสเองที่เป็นตัว GC หลักของทีมยังไง แมสให้สัมภาษณ์หลังแข่ง:
“ตอนนี้เราอยู่ในจุดที่ดีมากครับ ผมเชื่อมั่นว่าอลาฟิลลิปจะครองเสื้อเหลืองได้ถึงปารีสนะ เราจะป้องกันมันสุดชีวิต ปีนี้เขาฟอร์มดีมาก ชนะสเตจสาม ได้เสื้อเหลือง เสียเสื้อไปแปปนึง แล้วก็ชิงกลับคืนมาได้อีก แล้ววันนี้ยังชนะสเตจไทม์ไทรอัล มันไม่ธรรมดา”
“ส่วนผมเองเป้าหมายก็ยังไม่เปลี่ยน เราเล็งอันดับ Top 10 รายการครับ แล้วที่ได้เสื้อขาวนี่ก็ไม่ได้คาดไว้เหมือนกัน ผมว่าเราอยู่ในจุดที่ดีมากที่จะป้องกันเสื้อทั้งสองตัวจนจบรายการ”
“ผมว่าเราไม่ต้องคุมเกมอะไรมากมายนะ เพราะทีม GC คนอื่นต้องเป็นคนรุก ไม่ใช่เรา เราแค่ต้องตามพวกเขาให้ไม่หลุด แต่ก็ต้องยอมรับว่าจุดที่ยากที่สุดของ Tour de France จะเริ่มต่อจากนี้ครับ ทุกวันนี้เกมมันยากขึ้นกว่าสมัยก่อน เราต้องพร้อม 100% ทุกวัน อยู่หน้ากลุ่มทุกวัน สงครามเริ่มวันนี้แหละ”