ยังจำเกมกดต่อสู้สมัยก่อนในสไตล์ Street Fighther ที่ผู้เล่นสองคนต้องห้ำหั่นกันจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะหมดพลังได้ไหมครับ? เกมที่เราพยายามกดจอยแพ็ดรัวๆ เพื่อรีดเค้นท่าไม้ตาย ปล่อยพลังโจมตีคู่ต่อสู้จากระยะไกล (ฮาโดเคน!) ถึงในชีวิตจริงนักปั่นจะกดสูตรท่าไม้ตายไม่ได้ง่ายๆ เหมือนในเกม แต่ก็มีหลายครั้งในประวัติศาสตร์การแข่งขันร่วมร้อยปีที่เราได้เห็นท่วงท่าการโจมตี หรือสเต็ปเอาชนะคู่แข่งแบบเหนือชั้นที่แฟนๆ จักรยานยังกล่าวถึงอยู่เสมอ
ชันชนะของโทนี่ มาร์ติน (Etixx-Quickstep) ก็เป็นหนึ่งในนั้น: มาร์ตินกระชากหนีกลุ่มที่ช่วง 3 กิโลเมตรสุดท้ายแล้วหนีได้จนถึงเส้นชัย ทิ้งห่างอันดับสองจอห์น เดเกนโคลบ์ และอันดับสาม ปีเตอร์ ซากาน 3 วินาที มาร์ตินตามคริส ฟรูม เจ้าของเสื้อเหลืองแค่ 1 วินาทีในอันดับเวลารวม ถ้าวันนี้เขาเข้าเส้นชัยก่อนฟรูม เขาก็จะได้ขึ้นเป็นผู้นำเวลารวมคนใหม่แน่นอน แต่สถานการณ์ในช่วงสุดท้ายของการแข่งขันก็ไม่ได้ง่ายเลยสำหรับมาร์ติน เมื่อมีสปรินเตอร์ตัวเต็งอยู่หลายคนในกลุ่ม มีโอกาสที่เขาจะโดนสปรินเตอร์ขโมย Time Bonus ที่หน้าเส้นชัย
คำถามคือแล้วมาร์ตินจะทำยังไงได้? คำตอบ: ออกหนีคนเดียวเพื่อเข้าเส้นชัยก่อนทุกคนในกลุ่ม มันคือการโจมตีที่ทุกคนรู้ว่าจะต้องมาแน่ๆ แต่ไม่มีใครตอบโต้ได้
Final 10km highlight
เกิดอะไรขึ้นในสเตจ 4?
สเตจ 4 เป็นสเตจที่ระยะทางยาวไกลที่สุดใน Tour de France ปีนี้ และนอกจากจะยาวแล้ว ยังมีอุปสรรคเป็นถนนหินอีก 7 ช่วง รวมระยะทางวิบาก 13.3 กิโลเมตร หลังจากที่เราเจอสเตจดราม่า ทั้งอุบัติเหตุและสภาพอากาศไม่เป็นใจมาสองวันติดกัน สเตจ 4 ดูสงบอย่างเหลือเชื่อ เมื่อทีมใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Astana, BMC, Movistar, Tinkoff-Saxo และ Sky คุมสถานการณ์ได้ราบรื่นตลอดทั้งสเตจ เบรคอเวย์ไม่เคยหนีห่างได้เกินสามนาที และถูกรวบจับก่อนจะเข้าสู่ช่วงถนนหินในควอเตอร์สุดท้าย
คริส ฟรูม (Sky) ที่ขึ้นชื่อว่าคุมรถในทางวิบากไม่เก่ง ลบคำสบประมาทได้จนหมด เมื่อเขาไม่เคยอยู่ห่างจากแถวหน้าของ peloton มีเกอเรนท์ โทมัส เอซสนามคลาสสิคคอยช่วยประกบเคลียร์ทาง บางครั้ง ฟรูมถึงกับขึ้นมานำกลุ่มด้วยตัวเอง วินเชนโซ นิบาลิก็ปั่นได้เกรี้ยวกราด ใช้จังหวะทางวิบากพยายามฉีกห่างคู่แข่งบ้าง ถึงจะโดนรวบแต่ก็ทำให้เขาปลอดภัยในแถวหน้าของขบวน
ไนโร คินทานา (Movistar) และอัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (Tinkoff-Saxo) อาจจะไม่มีบทบาทมากนักในสเตจนี้แต่ก็ดูแลตัวเองได้ดี เข้าเส้นชัยพร้อมๆ ตัวเต็งคนอื่น
ผู้เสียหายวันนี้เป็นธีบอต์ พินอท์ เอซจาก FDJ ที่ต้องเจอปัญหาเกียร์ไฟฟ้าไม่ทำงาน ทำให้เกียร์เขาค้างที่ 53×11 เกียร์ที่หนักที่สุดจนปั่นแทบไม่ไหว พินอท์อยู่ในกลุ่มตัวเต็ง GC ด้านหน้าสุดในจังหวะที่รถเสีย แต่ไม่มีเพื่อนร่วมทีมอยู่ด้วยทำให้เขาต้องรอเปลี่ยนจักรยานใหม่ ซึ่งเสียเวลาให้คู่แข่งไป 3:23 นาทีในสเตจนี้ อีกคนที่เสียเวลาไปมากเป็น แดน มาร์ติน (Cannondale-Garmin) ที่เข้าเส้นชัยหลังผู้นำ +5:37 นาที
ความสนุกเริ่มที่ครึ่งหลัง
เมื่อระยะทางไกลเป็นพิเศษ ไม่แปลกที่นักปั่นจะเลือกเก็บแรงไว้ทำเกมกันในช่วงสุดท้ายของการแข่งขัน ที่ 52 กิโลเมตรสุดท้าย เมื่อกลุ่มตัวเต็งเริ่มเร่งความเร็วหนักเกือบแตะ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อเล็กซ์ ดาวเซ็ตต์ (Movistar), มิเคลลี่ สคาร์โพนี่ (Astana) และแดน มาร์ติน (Cannondale-Garmin) รวมถึงผู้นำคะแนนรวม อังเดร ไกรเปิล (Lotto-Soudal) แรงตก ไล่กลุ่มผู้นำจนหลุดกลุ่ม ไกรเปิลไม่ได้ขึ้นชิงคะแนนที่จุดสปรินต์กลางสเตจและเข้าเส้นชัยตามหลังกลุ่มนำหลายนาที ปีเตอร์ ซากานที่ได้อันดับสาม เก็บคะแนนตีตื้นขึ้นมา ตอนนนี้ตามหลังไกรเปิลแค่ 6 แต้มเท่านั้น
เมื่อกลุ่มเข้าสู่ถนนหินเซคเตอร์ Farmas ที่มีเรตติ้งความยากระดับ 5 ดาว Astana ก็เปิดไพ่ ใช้ลาร์ส บอม ผู้ชนะสเตจถนนหินเมื่อปีที่แล้ว พานิบาลิหนีออกจากกลุ่ม แต่ตัวเต็งทีมอื่นไม่ยอม อ่านจังหวะโจมตีได้ทันแล้วไล่ประกบปิดระยะห่างทันที
ถึงช่วงถนนหินสุดท้าย เกอเรนท์ โทมัสขึ้นนำแหวกทางให้ฟรูม ทั้งคู่เร่งความเร็วจนกลุ่มขาด เหลือตัวเต็งแค่ 8 คน แต่ก็เป็นการโจมตีที่ไม่รอด ด้านหลัง Movistar, Quickstep และ Tinkoff-Saxo ที่นำโดยปีเตอร์ ซากานช่วยกันไล่จับกลุ่มหน้า ลากเอาตัวเต็งหลายคนอย่างคินทานา และวาวเวอเด้มาด้วย กลุ่มใหญ่เกาะกันมาได้ถึงช่วง 5 กิโลเมตรสุดท้าย มี Giant-Alpecin ขึ้นมาทำความเร็วหวังส่งเดเกนโคลบ์เก็บแชมป์สเตจ
แต่โทนี่ มาร์ตินไม่คิดเช่นนั้น…
3.5 กิโลเมตรสุดท้าย มาร์ตินอาศัยจังหวะที่มอเตอร์ไซค์ช่างภาพอยู่ไม่ห่างจากกลุ่มหน้า ขึ้นเกาะสลิปสตรีมให้มอเตอร์ไซค์ช่วยบังลม กระชากหนีกลุ่มและเปิดระยะห่างราว 300 เมตรในระยะเวลาไม่กี่วินาที ด้านหลังทีมเริ่มงอแง พยายามตกลงหาแนวร่วมไล่จับมาร์ติน Quickstep มีพรรคพวกเยอะที่สุด ไม่มีความจำเป็นต้องไล่จับทีมตัวเอง Sky ก็ดูไม่ได้อยากจะรักษาเสื้อเหลืองไว้ตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน ซากานจาก Tinkoff อยากได้แชมป์สเตจ แต่ไม่ยอมทำงานไล่จับคู่แข่งคนเดียว Giant-Alpecin มีตัวช่วยเดเกนโคลบ์แค่หนึ่งคน ซึ่งสุดท้ายไม่มีใครตกลงกันได้ เดเกนโคลบ์ขึ้นนำกลุ่มเอง แต่กว่าจะตั้งความเร็วได้ก็สายเกินไป เพราะมาร์ตินเข้าเส้นชัยไปก่อน 3 วินาที เดเกนโคลบ์ อันดับ 2, ซากาน 3, แวน เอเวอร์มาร์ท 4 และบอสซัน ฮาเก็น ที่ 5
ผลการแข่งขัน
วิดีโอไฮไลท์
วาทะนักปั่น
คริส ฟรูม (Sky): “โทนี่เป็นนักปั่นที่แกร่งครับ อย่างที่เราเห็นวันนี้ แต่เขาไม่น่าจะขึ้นมาไต่เขากับพวกตัวเต็งในสัปดาห์ต่อไปได้ ผมดีใจที่เสื้อเหลืองหลุดไปอยู่กับเขาแทนที่จะเป็นตัวเต็ง GC คนอื่น แน่นอนว่าทีมเราเสียเสื้อเหลือง แต่มันไม่ใช่ปัญหาเลย จริงๆ ดีเสียอีกเพราะเราจะได้ไม่ต้องทำงานหนักตั้งแต่อาทิตย์แรก
ช่วงสุดท้ายผมกับโทมัสอยู่หน้ากลุ่ม เลยคิดว่าจะลองหนีคนอื่นดูสักหน่อย แต่ Tinkoff ไล่ตามเก็บเราได้”
โทนี่ มาร์ติน Etixx-Quickstep: “ผมดีใจมากครับ ความรู้สึกกดดัน ความเครียด ความผิดหวังจากสเตจก่อนๆ หายไปหมด ผมอยากขอบคุณทุกคน และทีมที่ช่วยเหลือผมจนถึงนาทีสุดท้าย ผมรู้ว่าไม่มีใครอยากขึ้นนำที่กิโลเมตรท้ายๆ ผมเลยลองหนีดู ตอนแรกผมไม่เชื่อว่าตัวเองจะหนีได้สำเร็จครับ!”
วินเชนโซ นิบาลิ (Astana): ทีมเราปั่นดี และพยายามโจมตีกลุ่มเหมือนปีที่แล้ว แต่สงสัยว่าปีที่แล้วมันยากกว่านี้เพราะฝนตก ปีนี้ทุกทีมเตรียมตัวมาดีครับ ผมยังตามฟรูมและคอนทาดอร์อยู่พอสมควร คงต้องดูเป็นวันๆ กันไปว่าจะมีโอกาสทำเวลาตีตื้นไหม ถ้ามีเราไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือแน่นอน
* * *
เชียร์มานานแล้วกับคนนี้ให้เขาได้ใส่เสื้อเหลืองสักครั้ง