“You might not win the Tour on first week, but you can definitely lost it” — Greg Lemond
“คุณอาจจะไม่ชนะตูร์ตั้งแต่สัปดาห์แรก แต่คุณมีสิทธิแพ้แน่นอน” — เกร็ก เลอมองด์, แชมป์ตูร์ เดอ ฟรองซ์ 3 สมัย
* * *
คำพูดของเลอมองด์สะท้อนการแข่งขันตูร์ เดอ ฟรองซ์ในปีนี้ได้เหมาะเจาะทีเดียวครับ 1 นาที 28 วินาทีคือเวลาที่ไนโร คินทานาเสียให้คริส ฟรูมในสเตจที่ 2 และมันเป็นเวลาที่มากกว่าฟรูมแซงคินทานาได้ในสเตจภูเขาทุกสเตจ เมื่อรวมกับระยะเวลาร่วม 1 นาทีเต็มที่ฟรูมหนีเดี่ยวในสเตจ 10 บนทางขึ้นเขา La Pierre St. Martin
จริงว่าคินทานาจะดูฟอร์มดีกว่าฟรูมในสัปดาห์สุดท้าย แต่เขาก็ไม่สามารถปิดกำแพงระยะห่างร่วม 3 นาที 20 วินาทีที่ฟรูมตั้งไว้ก่อนเปโลตองจะเข้าสู่เทือกเขาแอลป์ — เส้นทางที่คินทานาพิสูจน์ว่าเขาแกร่งกว่าฟรูม คำถามที่เกิดขึ้นคือ คินทานาแกร่งไม่พอจะโค่นฟรูม หรือเป็นความโลภของ Movistar ที่ทำให้คินทานาแพ้กันแน่?
เศรษฐศาสตร์การแข่งแกรนด์ทัวร์
ในสนามแข่งจักรยานอาชีพ ผู้ชนะอาจจะมีแค่คนเดียว แต่เรารู้กันดีว่าการที่จะชนะแชมป์ได้ ไม่ว่าจะเป็นแชมป์สเตจ หรือแชมป์รายการ หัวหน้าทีมล้วนต้องการความช่วยเหลือของทีม ไม่มีใครเอาชนะการแข่งขันได้ด้วยตัวคนเดียว สิ่งที่ติดใจผมในการแข่งปีนี้คือกลยุทธ์ของ Movistar ครับ
หลายๆ สเตจเห็นได้ชัดมากว่า Movistar แข่งเพื่ออันดับ GC ของอเลฮานโดร วาวเวอเด้ — ต้องบอกว่าตรงนี้ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพราะเป้าหมายของแต่ละทีมแตกต่างกันไป เราไม่สามารถรู้ได้ว่า Movistar ให้น้ำหนักการคว้าแชมป์รายการของคินทานาขนาดไหน 90% ของทรัพยากรทีม Movistar ทั้งหมด? ที่เหลือ 10% แบ่งให้วาวเวอเด้?
ได้อย่างก็เสียอย่าง การ “เลี้ยง” อันดับโพเดี้ยมของวาวเวอเด้มีข้อดีอยู่พอสมควร นั่นคือถ้าเวลารวมของวาวเวอเด้ไม่ได้ห่างฟรูมมาก เมื่อไรที่วาวเวอเด้ออกโจมตี Sky ต้องไล่จับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทีมอื่นๆ อย่าง Astana และ Tinkoff ที่อยากได้โพเดี้ยม ก็หวังได้เลยว่า Sky ต้องไล่ ทีมก็ไม่ต้องทำงาน แต่แผนนี้มันจะย้อนมาเล่น Movistar เองเมื่อเวลาของวาวเวอเด้ไม่ได้เป็นอันตรายต่อฟรูม… ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดสัปดาห์ที่ 2 และ 3 ครับ การโจมตีของวาวเวอเด้เป็นเพียงเสือกระดาษ ที่ Sky ไม่ต้องกังวล Movistar กดดัน Sky ด้วยไพ่วาวเวอเด้ไม่ได้ เลยเป็นเหตุผลว่าทำไม Sky ถึงเลือกที่จะปั่น tempo เลี้ยงความเร็ว ไม่กระชากออกไล่จับวาวเวอเด้ทันที (ซึ่งก็จับได้ทุกครั้ง) จุดนี้ทำให้คินทานาเสียความได้เปรียบไป สุดท้ายวาวเวอเด้กลายเป็นแค่ “แท่นยิง” ให้คินทานาในสเตจหลังๆ
บางสเตจที่ตัวเต็งทีมอื่นที่มีลุ้นอันดับโพเดี้ยมอย่างคอนทาดอร์หรือนิบาลิหนีไป เราเห็นชัดว่า Movistar ขึ้นมาไล่จับแทน Sky! ซึ่งมันสะท้อนว่าทีมยังห่วงเรื่องอันดับ GC ของวาวเวอเด้มากกว่าชัยชนะของคินทานา
Movistar: โพเดี้ยมหรือแชมป์รายการ?
ในสถานการณ์แบบนี้ ถ้า Movistar มองวาวเวอเด้เป็น “โดเมสติก” คนหนึ่งของทีมเหมือนที่ Sky พร้อมจะสละเกอเรนท์ โทมัส หรือริชีย์ พอร์ท ทีมก็สามารถปล่อยให้ทั้งคอนทาดอร์และะนิบาลิหนีไปได้ไกลๆ จน Sky เริ่มเดือดร้อน บังคับให้ Sky ที่นำเสื้อเหลืองอยู่ไล่จับเอง แล้วเอซ Movistar สามารถออมแรงไว้ยิง Sky ทีหลังก็ได้ด้วย กลายเป็นว่า Sky มีหัวลากมานำฟรูมให้ฟรีๆ ทั้งๆ ที่ทีม Sky นั้นกรอบลงมากในสัปดาห์หลัง สังเกตได้จากที่ทีมยอมปล่อยให้เบรคอเวย์หนีไปคว้าแชมป์สเตจได้บ่อยมาก (และปล่อยไปกลุ่มใหญ่ระดับ 20–30 คน)
เสริมจากประเด็นข้างบน — ชัดเจนอีกเช่นกันว่าวาวเวอเด้ “แกร่ง” กว่าโพลส์ โทมัส หรือพอร์ทของ Sky อย่างเห็นได้ชัด (ก็ลองดูอันดับ GC…) ถ้า วาวเวอเด้ตั้งความเร็วแบบทุ่มตัวตายก่อนขึ้นตีนเขาเพื่อตัดแรง Sky เหมือนที่โดเมสติก Sky ทำ ก็อดคิดไม่ได้ว่าฟรูมจะโดนกดดันได้ขนาดไหน? จากคำให้สัมภาษณ์บางสเตจ คินทานาบอกสื่อว่า ทีมตั้งใจลดความเร็วลง เพราะวาวเวอเด้ “ตามไม่ทัน”…
ลองเปรียบเทียบพลวัตรของเปโลตองกับเบรคอเวย์ใน Giro ปีนี้ครับ ใน Giro ทีม GC ของ Tinkoff และ Astana เล่นบทโหดไล่เก็บเบรคอเวย์แทบทุกสเตจ มีน้อยครั้งมากที่เบรคอเวย์จะฟอร์มตัวกันได้เกิน 10 คน Sky ทำอย่าง Tinkoff และ Astana ใน Giro ไม่ได้เพราะทีมไม่แกร่งพอจะคานอำนาจเบรคอเวย์ตัวแรงได้ แต่ Movistar ก็ไม่ได้เก็งกำไรจากความอ่อนแอของ Sky ณ จุดนี้ (จริงๆ ทีม GC ที่ปั่นได้ดีที่สุดไม่ใช่ Sky ด้วยซ้ำ แต่เป็น BMC ที่เดินเกมดุเหมือน Tinkoff และ Astana ใน Giro — แต่เอซของทีมแกร่งไม่พอและต้องถอนตัวไปก่อน)
พูดมาซะยาว ถ้าจะสรุปประเด็นที่ผมพยายามจะเสนอก็คือ วาวเวอเด้เป็นตัวถ่วงคินทานาหรือเปล่า? เราเห็นชัดว่าคินทานาแกร่งกว่าฟรูมในเสตจภูเขาแอลป์ ถึงคินทานาจะเสียเวลาให้ฟรูมในพีรานีส แต่ Movistar เดินเกมเอื่อยตลอดสัปดาห์ที่สอง ไม่กดดัน Sky เหมือนที่ทีมทำ (ได้ดีมาก) ในสเตจแอลป์
ซึ่งก็ทำให้ผมคิดต่ออีกว่า คินทานาจะมีโอกาสคว้าแชมป์ตูร์อีกหรือเปล่า? ในฐานะตัวเต็ง GC คินทานาไม่ใช่นักปั่นที่ “รอบด้าน” ที่สุด เพราะเขายังปั่น TT ไม่สู้ฟรูม และคุมเกมสเตจทางราบไม่ดีเหมือน Sky (ที่เสียไปเกือบ 2 นาทีในสัปดาห์แรก)
จะมีอีกกี่ครั้งที่ตูร์จะมีสเตจภูเขายากๆ เยอะๆ และ TT น้อยๆ แบบนี้? พูดตามตรง ตูร์ปีนี้แทบจะออกแบบมาให้คินทานาโดยเฉพาะครับ ตราบที่ฟรูมยังอยู่กับ Sky, ยังฟอร์มดี และยังพัฒนาต่ออีก คินทานาต้องปรับปรุงเกม GC ด้านอื่น เรื่องไต่เขาชัดเจนว่าคินทานาน่าจะเก่งที่สุดในเปโลตองตอนนี้ครับ อย่างไรก็ดีเขาเพิ่งอายุ 25 ยังมีเวลาพัฒนาอีกเยอะ
Sky is the limit
ถึงผมจะตั้งคำถามกลยุทธ์ของ Movistar แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Movistar ประสบความสำเร็จมากในตูร์ปีนี้ กวาดอันดับโพเดี้ยม 2 และ 3 ได้รางวัลทีมยอดเยี่ยมและรางวัล Best Young Rider ซึ่งถ้านั่นคือเป้าหมายของทีมมันก็ยอดเยี่ยมมาก จริงๆ ทีมอาจจะประเมิณแล้วว่าเจาะเกราะยานแม่ Sky ไม่ไหว สู้เอาโพเดี้ยมคู่ดีกว่ายอมเสียทุกอย่าง (คือผมอาจจะคิดมากไปก็ได้…)
และเราจะมองข้ามความสำเร็จของ Sky ไม่ได้เลย เพราะทีมปั่นได้ดีจริงๆ ต้องบอกว่ากลยุทธ์ของ Sky ปีนี้น่าประทับใจยิ่งกว่าปี 2012 และ 2013 เสียอีก ทีมดูมีมิติมากขึ้นในการเลือกดึงนักปั่นออกใช้ในแต่ละสเตจ ไม่ได้หวังพึ่งริชีย์ พอร์ทเป็นไม้สุดท้ายให้ฟรูมในทุกสเตจภูเขา แต่ปั้นโดเมสติกคนอื่นๆ ขึ้นมาให้แกร่งได้เท่าเทียมกัน แล้วสลับกันใช้ตามสภาพเส้นทาง และสภาพนักปั่นของทีม
ปีนี้พอร์ทไม่ค่อยจะสบาย ทำให้เขาช่วยฟรูมมากไม่ได้ แต่เราก็เห็น โพลส์ และ โทมัสขึ้นมาคุมเกมในแบบที่ฟรูมอาจจะเครียดเลยก็ได้ถ้าขาดทั้งสองคนไป
ฟรูมเองถึงจะเผยความอ่อนแอให้เห็นในสัปดาห์ที่สาม แต่ก็ไม่เคยมีโมเมนท์ที่เขา “ตกใจ” คุมเกมได้ตลอดเวลาแม้ว่าคินทานาจะโจมตีกี่ครั้ง ฟรูมอยู่ในสภาวะ “In Control” รู้ว่าตรงไหนปล่อยได้ ตรงไหนต้องตาม ตรงไหนไม่ต้องตาม ในสัปดาห์แรกฟรูมก็ปั่นได้เยี่ยมยอด โดยเฉพาะในสเตจถนนหินที่เขาขึ้นมางัดข้อกับขาแรงสนามคลาสสิค และหลายๆ ครั้งเป็นผู้นำขบวนเปโลตองเข้าเซคเตอร์ถนนหินเลยด้วยซ้ำ จิตใจเขาแกร่งขึ้นมาก และประสบกาณณ์การลงตูร์หลายครั้งสะท้อนความเติบโตในฐานะผู้นำทีมอย่างเห็นได้ชัด
ปีหน้าทีม Sky มีแผน “เหมา” นักปั่น Movistar (พี่น้องอิซาเกอร์เร และเบญญัต อิงฌอสตี้) ซึ่งเป็นนักไต่เขาฝีเท้าดีทั้งสามคน รวมกับมิเคล แลนด้า (Astana) และมิฮาล เควียทคอฟสกี้ (EQS) ก็พอจะเดาได้ว่าทีมต้องการอุดช่องโหว่ในสเตจภูเขาชัดเจนครับ ยิ่งทำให้อยากเห็น “Sky Mountain Train” ในอนาคตว่าจะโหดแค่ไหน เผลอๆ เราจะได้เห็นหัวลากสุดแรงในแบบที่ Sky พาวิกกินส์คว้าแชมป์ปี 2012 อีกครั้งหนึ่ง
โอเล็ก ทิงคอฟ เขียนในบล็อก Cyclingnews เมื่อเช้าวันนี้ ชื่นชมทีม Sky ที่ “มองการณ์ไกล” โอเล็กบอกว่า Sky เป็นทีมเดียวในเปโลตองที่สามารถวางแผนสร้างทีมในะระยะ 5–10 ปีได้ นั่นก็เพราะทีมไม่ต้องกังวลเรื่องสปอนเซอร์เลยแม้แต่น้อย ซึ่งทำให้ทีมสามารถลงทุน “ปั้น” นักปั่นหน้าใหม่ที่ยังไม่โชว์ศักยภาพได้ ในขณะที่ทีมอื่นจำเป็นต้องเฟ้นหานักปั่นที่จะสร้างผลงานเพื่อเอาใจสปอนเซอร์ ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่าทีมจะยุบเมื่อไร เมื่อขาดแผนการระยะยาว โครงสร้างทีมก็ไม่แข็งแรงอย่างที่มันควรจะเป็น ถ้าเกิดปีนี้ทีมมีนักปั่นที่ผลงานรุ่งในระดับ breakthrough (มิเคล แลนด้า…) แล้วปีหน้าโดนทีมอื่นฮุบไป เพราะไม่สามารถจ่ายค่าตัวเหมือนที่ทีมรวยๆ จ่ายได้ อนาคตของทีมก็ริบหรี่ครับ
แม้แต่โอเล็กเองที่เป็นมหาเศรษฐีเขาก็บอกว่าโมเดลธุรกิจวงการจักรยานมันไม่ยั่งยืน เขาควักกระเป๋าส่วนตัวอัดฉีด Tinkoff-Saxo หลาบสิบล้านยูโร เขารู้ว่ามันไม่มีผลตอบแทนอะไร และอาจจะเลิกทำไปซะเฉยๆ ก็ได้ถ้ามันยังไม่มี Return of Investment ทีมอื่นที่ไม่มี “ป๋าดัน” แบบนี้ไม่มีทางสร้างทีมที่แกร่งตั้งแต่รากถึงยอดไม้ได้เหมือน Sky แน่นอนตราบเท่าที่เรายังอยู่ในโครงสร้างทีมแบบนี้
ถ้าทีมอื่นไม่สามารถฟอร์มทีมที่แกร่งอย่าง Sky ได้ ทางออกเดียวที่จะเอาชนะ Sky คือ “ทุ่มหมดหน้าตัก” แบบที่คอนทาดอร์และนิบาลิแสดงให้เห็นในปีนี้ ผมคิดว่าการแบ่งรับแบ่งสู้ของ Movistar มันปิดโอกาสให้คินทานาโชว์ความสามารถที่แท้จริงของเขา
Part 2 ในรีวิว Tour de France เราจะมาวิเคราะห์ผลงานของแต่ละทีมพร้อมให้คะแนนครับ!
* * *
รบกวนคุณคูนเขียนถึงกรณีที่เปาดินี่เล่นยาหน่อยครับ ผมหารายละเอียดไม่เจอน่ะครับ ว่าเป็นมายังไง
ไม่มีข่าวออกมามากไปกว่าที่เห็นในสื่อครับ โคเคนเองไม่ได้ช่วยประสิทธิภาพการปั่นอะไรขนาดนั้นและตรวจจับได้ง่าย ผมเดาว่าเขาคงไปปาร์ตี้สนุกๆ ก่อนลงแข่ง แล้วไม่ระมัดระวังตัวมากกว่า ซึ่งถ้าผลการทดสอบรอบสองออกมาเป็น positive ทีม Katusha ก็จะไล่เขาออกเลย ตอนนี้ยังไม่มีข่าวออกมาครับว่าเป็นยังไง สถานะตอนนี้คือถูกระงับแข่งจากทีมอยู่ฮะ
ขอบคุณมากครับ น่าเสียดายนะครับ ไม่งั้นอาจได้เห็นน้าแกทำอะไรมันส์ๆในตูร์ปีนี้ก็ได้
นั่นนะสิ ^^
ขอบคุณครับพี่คูณ บทความอ่านสนุกมาก
Sky มีเงินหนุนจากไหนบ้างหรอครับ
สปอนเซอร์คือ BSkyB เจ้าของธุรกิจเคเบิ้ลทีวี (นึกถึง True บ้านเรา) ที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษครับ เป็นเครือเดียวกับเจ้าของเดียวกับ 20 Century Fox ด้วย
ผมกลับมองต่างออกไปว่า Movistar ประสบความสำเร็จนะครับ มีทั้งครีมทาหน้าและวาเด้ขึ้นโพเดียมที่ 2 และที่ 3 ต่างกับสองปีที่แล้วที่มีครีมทาหน้าคนเดียวมาแบบ surprise และครีมทาหน้าไม่ควรถูกกดดันมากเกินไปเพราะอายุยังน้อยต้องสะสมประสบการณ์ผมเชื่อว่าปีหน้าหรือไม่เกินสองถึงสามปีเขามีสิทธิครองเสื้อเหลืองได้ไม่ยาก Tinkoff ซะอีกที่ล้มเหลวเลือกทิ้งสาครแล้วมาประคองเกรียนไม่ให้เสียเสื้อเขียว ซึ่งเราก็รู้ๆ กันอยู่ตั้งแต่ปั่นกับเดลแล้วว่าเกรียนเป็นเทพประเภทข้ามาคนเดียวไม่ต้องการคนช่วย ผมเห็นว่าคนที่น่ายกย่องใน TDF 2015 คือ ซาเกรียน ^ ^