Tour de France: พรีวิววิเคราะห์เส้นทางทั้ง 21 สเตจ!

Editor’s Note: โพสต์นี้เป็น Part 1 ของพรีวิว Tour de France โดย Ducking Tiger จากทั้งหมด 7 ตอนครับ ซึ่งจะประกอบด้วย

  1. พรีวิวเส้นทางการแข่งขัน
  2. กฏการแข่งขันที่ควรรู้ และเสื้อผู้นำทั้ง 4 ประเภท (เพื่อความสนุกในการติดตามรับชม!)
  3. วิธีการรับชมถ่ายทอดสด / ไฮไลท์
  4. วิเคราะห์ตัวเต็งแชมป์รายการ (GC Contender)
  5. วิเคราะห์ตัวเต็งสปรินเตอร์
  6. วิเคราะห์ตัวเต็ง Time Trial + Stage Winner
  7. วิเคราะห์ฟอร์มทีมเข้าแข่งขันแต่ละทีม

กำหนดการแข่งขัน Tour de France: 4–26 กรกฏาคม

ตารางแข่งและลิงก์ถ่ายทอดสด: www.duckingtiger.com/live

* * *

Tour de France คืออะไร?

แทบทุกปีเว็บ DT จะมีเพื่อนๆ ที่เพิ่งเข้าวงการ เริ่มสนใจปั่นและชมการแข่งขันจักรยานเสือหมอบ หลายคนอาจจะได้ยินชื่อสนามแข่ง Tour de France (Tour of France) มาบ้าง หลายคนก็คงจะรู้จักดีอยู่แล้ว Tour de France (ออกเสียงว่า ตูร์-เดอ-ฟรองซ์) พูดอย่างง่ายๆ ก็คือสนามแข่งจักรยานทางไกลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบปี เป็นรายการระดับแกรนด์ทัวร์ หรือเราอาจจะเทียบได้กับรายการแกรนด์สแลมของเทนนิสครับ

Tour de France stage 18 (5 of 8)

แกรนด์ทัวร์ คือสนามแข่งแบบสเตจเรซ (แข่งต่อเนื่องกันหลายวัน) ซึ่งทั้งปีจะมีแค่สามรายการเท่านั้นคือ Giro d’Italia (Tour of Italy), Tour de France (Tour of France), และ Vuelta a Espana (Tour of Spain) แน่นอนว่า Tour de France นั้นโด่งดังที่สุดและมีผู้ชมรู้จักมากที่สุด ผู้จัดการแข่งขันบริษัท A.S.O อ้างว่า “ตูร์” เป็น “มหกรรมกีฬา” ที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก ปีละหลายล้านคนเลยทีเดียว

ใน Tour de France นักปั่น 198 คนจาก 22 ทีมชื่อดังทั่วโลก (ทีมละ 9 คน) จะเข้าแข่งชิงชัยหาผู้ชนะกันตลอด 21 สเตจ 21 วัน 3,360 กิโลเมตรผ่านเส้นทางที่สวยและยากที่สุดในประเทศฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศสตอนเหนือที่นักปั่นต้องเจอเส้นทางถนนหินวิบาก หรือจะเป็นการไต่เทือกเขาแอลป์และพีรานีสสูงหลายพันเมตร

ความสนุกของการแข่งจักรยานถนนคือ เราไม่ได้มีผู้ชนะแค่คนเดียวครับ นอกจากเราจะหาแชมป์รายการ หรือที่เรียกว่า “ผู้นำเวลารวม” แล้ว ยังมีการแข่งขันภายในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการชิงเสื้อ จ้าวความเร็ว จ้าวภูเขา และนักปั่นเยาวชนยอดเยี่ยม แถมยังมีการแย่งชิงแชมป์สเตจในแต่ละวันด้วย รายการนี้มีรางวัลให้นักปั่นทุกประเภท และเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับนักปั่นอาชีพที่จะแสดงผลงาน เพราะถ้าใครทำผลงานได้ดีเยี่ยมในรายการนี้ก็มีสิทธิต่อรองขอขึ้นค่าตัวหรือย้ายไปอยู่กับทีมที่ให้ค่าตัวสูงกว่า

Tour de France ปีนี้แข่งกันเป็นครั้งที่ 102 ถือว่าเป็นหนึ่งในสนามแข่งจักรยานที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

* * *

เส้นทางโดยรวม

โดยรวมแล้วเส้นทางปี 2015 ต้องบอกว่าเป็นปีสำหรับนักไต่เขาครับ เพราะตูร์ปีนี้มีสเตจที่จบบนยอดเขาสูงชัน (Summit Finish) ถึง 6 สเตจ แต่มีสเตจ Time Trial สั้นๆ แค่สเตจเดียว ทำให้นักปั่นที่ขึ้นเขาได้เร็วได้เปรียบเป็นพิเศษ ส่วนตัวเต็ง GC ที่เก่ง TT ก็อาจจะไม่ได้เปรียบเหมือนปีก่อนๆ ที่สเตจ Time Trial ยาว ดูตารางเส้นทางโดยรวมก่อน

Screen Shot 2558-06-26 at 8.41.46 PM

  • 4x สเตจทางราบ
  • 1x สเตจจับเวลาทีม (Team Time Trial)
  • 1x สเตจจับเวลาบุคคล (Individual Time Trial)
  • 4x สเตจโรลลิ่ง
  • 4x สเตจภูเขาปานกลาง
  • 7x สเตจภูเขาสูงชัน (6x เส้นชัยบนยอดเขา)
Screen Shot 2558-06-26 at 8.16.21 PM
ชื่อรายการว่า Tour de France หรือทัวร์รอบฝรั่งเศส แต่นักปั่นเขาผ่านส่วนไหนของฝรั่งเศสบ้าง? ตามนี้ครับ

Week 1: สัปดาห์แรกนี่น่าจะเดือดมากเพราะเส้นทางนั้นแทบจะหยิบมาจากสนาม Spring Classic ครับ อย่าลืมว่าตูร์ปีนี้เราเริ่มกันในเมืองอูเทรคท์ ที่เนเธอร์แลนด์ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องลมแรง ถนนแคบ เนินชัน สัปดาห์นี้เราจะวนกันอยู่ชายแดนเนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม และฝรั่งเศสตอนเหนือ ซึ่งจะทดสอบสกิลการบังคับรถของนักปั่นตัวเต็ง GC เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในสเตจ 4 ที่ต้องผ่านถนนหิน ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ตัวเต็งคลาสสิคหลายๆ คนมีสิทธิลุ้นคว้าแชมป์สเตจ ส่วนตัวเต็ง GC ก็ต้องระวังอย่าให้ล้มคว่ำบาดเจ็บเหมือนปีที่แล้วที่คริส ฟรูมล้มในสเตจถนนหินจนต้องถอนตัวไปเป็นคนแรกๆ

Week 2 และ Week 3 เต็มไปด้วยเส้นทางภูเขาสูงชัน ผสมสเตจภูเขาปานกลาง โดยรวมแล้วปีนี้ มีสเตจสำหรับสปรินเตอร์แค่ 5 สเตจเท่านั้น สัปดาห์สองเราจะอยู่กันในเขตเทือกเขาพีรานีสที่ชั้นแต่ไม่ยาวมาก ส่วนสัปดาห์สุดท้ายจะไปลุยเทือกเขาแอลป์ จบไฮไลท์ในสเตจ 20 ที่ Alpe d’Huez อันโด่งดัง ก่อนที่จะชิงสปรินต์กันในวันสุดท้ายกลางกรุงปารีส

Stage 1 — เสาร์ 4 ก.ค.

เส้นทาง: สเตจ Time Trial ระยะทาง 13.8 กิโลเมตร เริ่มสตาร์ทกันในเมืองอูเทรคท์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ทำไม Tour de France ไม่เริ่มในฝรั่งเศส คุณอาจจะสงสัย เหตุผลง่ายๆ ครับ รายการแข่งมันเป็นธุรกิจ และเป็นรายการที่คนมาชมเยอะมาก ช่วยส่งเสริมอุตสาหรกรรมการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี หลายประเทศในยุโรปเลยพยายามประมูลกันขอเป็นประเทศเปิดสนามตูร์ เป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง แต่ก็คุ้มค่า ปีที่แล้วอังกฤษที่เป็นเจ้าภาพตูร์ก็ได้ข่าวว่ามีเงินสะพัดเข้าประเทศในช่วงวีคแรกของตูร์หลายพันล้านบาท!

สำคัญยังไง? — ตูร์ปีนี้มีสเตจ Time Trial แค่สองสเตจเท่านั้น และก็ไม่ยาวด้วย เพราะฉะนั้นมีความสำคัญหลายประการ ตัวเต็ง GC ต้องชิงกันทำเวลาให้ดีเพื่อรักษาความได้เปรียบในสัปดาห์แรก ส่วนตัวเต็ง TT อย่างโทนี่ มาร์ติน (EQS), ทอม ดูโมลาน (Giant), แคนเชอลารา (Trek) ก็คงอยากจะชนะสเตจเพื่อชิงเสื้อเหลืองเป็นคนแรก สเตจไม่ยาวเพราะงั้นน่าจะจัดกันเต็มแน่นอน

Stage 2 — อาทิตย์ 5 ก.ค.

สเตจทางราบ 100% แต่ไม่ง่ายแน่นอน เพราะเรายังอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องถนนแคบ ผู้ชมต้องคับคั่งข้างสนาม กระแสลมก็แรง เพราะสภาพภูมิประเทศนั้นโล่งเตียน แถมช่วงสุดท้ายเลาะชายฝั่งทะเล การันตีว่ามีล้ม มีชน มีเจ็บ แต่ก็น่าจะจบด้วยการสปรินต์สนุกๆ ครับ

Stage 3 — จันทร์ 6 ก.ค.

สเตจ 3 เห็นชื่อเส้นชัยมั้ยครับ มันคือ Mur de Huy (ออกเสียง: เมอร์ เดอ อวี) ซึ่งเป็นเส้นชัยของสนาม Fleche Wallonne จบบนยอดเนินชันยิบระดับ 20% ซึ่งเหล่าตัวเต็ง GC และสายโหดสนามคลาสสิคน่าจะออกดวลกันสนุกสนานแน่นอน

Stage 4 — Tuesday 7 July

Cobbled Road! กลับเข้าสู่ประเทศฝรั่งเศส กับช่วงสุดท้ายของสเตจที่เป็นถนน pavé หรือถนนหินโบราณที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหด เป็นทางวิบากที่ต้องอาศัยสกิลการคุมรถไม่น้อย ทางไม่ยากเท่าสนาม Paris-Roubaix แต่ถ้าฝนตกก็มีสิทธิตัดตัวกลุ่มตัวเต็งได้เช่นกัน

Stage 5 — พุธ 8 ก.ค.

สเตจ 5 เป็นทางโรลลิ่ง ขึ้นๆ ลงๆ แต่เนินไม่ชันมากและไม่น่าจะยากเกินไปสำหรับทีมสปรินเตอร์ที่จะพาเอซขึ้นมาท้าชิงสปรินต์ในช่วงสุดท้ายครับ

Stage 6 — พฤหัส 9 ก.ค.

สเตจนี้เราเลาะชายฝั่งทะเล เพราะงั้นนักปั่นต้องรับมือกระแสลมข้าง ก่อนที่จะจบบนยอดเนิน La Havre ที่น่าจะเหมาะกับปีเตอร์ ซากาน (Tinkoff-Saxo) หรือไมเคิล แมธธิวส์ (GreenEdge)

Stage 7 — ศุกร์ 10 ก.ค.

อีกหนึ่งสเตจสำหรับสปรินเตอร์ ไม่น่ามีอะไรซับซ้อนนะ

Stage 8— เสาร์ 11 ก.ค.

สเตจ 8 เราเข้ามาในแคว้นบริททานี่ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องกระแสลมแรงอีกเช่นกัน สเตจนี้ก็จบบนยอดเนินครับ น่าดูใช้ได้

Stage 9 — อาทิตย์ 12 ก.ค.

Team Time Trial ระยะทาง 28 กิโลเมตรที่มีเนินประกอบหลายช่วง น่าจะทดสอบความสามัคคีของแต่ละทีมได้ถึงขีดสุด จบสเตจนี้นักปั่นจะได้พักแข่งหนึ่งวัน ก่อนที่จะเคลื่อนตัวไปแข่งในเทือกเขาพีรานีส

Stage 10 — อังคาร 14 ก.ค.

เปิดสนามหลังจาก Rest Day วันแรกก็ต้องเจอกับเส้นชัยบนยอดเขาเลย เขาลูกสุดท้าย Col de Soudet ไม่ง่ายและชันเกิน 10% หลายช่วง น่าจะเป็นวันแรกที่ตัวเต็ง GC ได้ประลองกันอย่างจริงจังๆ ครับ

Stage 11 — พุธ 15 ก.ค.

สเตจนี้โหดใช่ย่อยครับ เป็นสเตจ Signature ของพีรานีสเลยก็ว่าได้ นักปั่นต้องปีนทั้ง Col d’Aspin และ Col du Tourmalet และไปจบบนยอดเนินในเมือง Cauterets

Stage 12 — พฤหัส 16 ก.ค.

กลับมาอีกครั้งกับเส้นชัยบนยอดเขาที่ Plateau de Beille กับระยะปีนเขาทั้งสเตจรวม 4500 เมตร! เขาลูกสุดท้ายยาว 15.8 กิโลเมตร ชันเฉลี่ย 7.9% Big Day สำหรับตัวเต็ง GC ครับ

Stage 13 —ศุกร์ 17 ก.ค.

เหมือนจะง่ายแต่ก็ไม่ง่าย กับเขาระดับ Cat 3 หนึ่งลูกกับ Cat 4 สองลูก จบด้วยเนินที่หน้าเส้นชัยในเมือง Rodez

Stage 14 — เสาร์ 18 ก.ค.

ถ้าคุณสังเกตเส้นทางของแต่ละสเตจที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีสเตจที่เราเรียกว่า “transition stage” หรือสเตจทางราบยาวๆ ที่ใช้เคลื่อนตัวนักปั่นจากโซนสำคัญของการแข่งหนึ่งไปอีกที่หนึ่ง (ข้ามเมืองเพื่อไปขึ้นเขาในวันมะรืน) น้อยมากๆ มีแต่สเตจภูเขาเรียงต่อกันแทบทุกวัน เพราะงั้นตูร์ปีนี้ถึงโหดมากครับ นักปั่นมีโอกาสพักน้อย สเตจนี้ก็เช่นกัน Cote de la Croix ที่ใกล้เส้นชัยขึ้นชื่อเรื่องความชันระดับนรก (3km @ 10%!!!) ตัวเต็ง GC ซัดกันอุตลุดชัวร์ป้าบ

Stage 15 — อาทิตย์ 19 ก.ค.

ทางลงเขาจากครึ่งแรกไปครึ่งหลัง จบด้วยการสปรินต์ เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง

Stage 16 — อังคาร 21 ก.ค.

เริ่มต้นสัปดาห์สุดท้าย กับสเตจสุดคลาสสิคที่ผมชอบที่สุดใน Tour de France ทุกๆ ปี นั่นก็คือเส้นชัยที่เมืองแก๊ป กับทางขึ้นเขา Col de Manse ที่เรามักจะได้เห็นเบรคอเวย์โหดๆ หนีบนทางขึ้นเขาลูกสุดท้ายก่อนจะโซโล่ลงเขาหนีเดี่ยวเข้าเส้นชัยไปแบบหล่อๆ ครับ แลนซ์ อาร์มสตรองเคยแหกโค้งผ่าทุ่งบนทางลงเขา Manse และคาเดล เอวานส์เคยใช้ทางลงดิ่งนรก ทำเวลาห่างแอนดี้ ชเล็คในตูร์ปี 2011

Stage 17 — พุธ 22 ก.ค.

สเตจนี้เป็นสเตจ เรโทร เพราะผู้จัดหยิบมาจากตูร์ปี 1975 ที่เบอร์นาร์ด เธเนเว่ท์ ฉกเสื้อเหลืองมาจากเอ็ดดี้ เมิร์กซ์ เขาลูกสุดท้าย Col d’Allos ชันโหด และทางลงก่อนถึงเส้นชัยก็ซับซ้อน น่าสนุก ไม่ควรพลาดครับ

Stage 18 — พฤหัส 23 ก.ค.

เริ่มปีนเขาตั้งแต่กิโลเมตรแรก และเจอเขาเรียงกันร่วมสิบลูก แถมตบท้ายด้วย Col du Glandon ชันระดับ Hors Category (ยากที่สุดในรายการ) ดูจากโปรไฟล์แล้วสเตจนี้ไม่มีจังหวะดีๆ ให้นักปั่นได้เซ็ต pacing ครับ น่าจะเป็นสเตจที่โกลาหลมาก เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง แถมช่วงสุดท้ายก็มีเขาเล็กๆ ก่อนถึงเส้นชัยไว้ตัดตัวกันอีก อ่วม!

Stage 19 —ศุกร์ 24 ก.ค.

หนึ่งในสเตจที่ยากที่สุดของตูร์ปีนี้ และจะเป็นสเตจที่เราเห็นตัวเต็งแข่งกันทำเวลาอย่างดุเดือดแน่นอน ด้วยระยะปีนเขา 4,600 เมตร กับระยะทาง 140 กิโลเมตร จบบนยอดเขาที่ La Touissure (18km @ 6.1%) ตัดตัวเต็งกันก็สเตจนี้ครับ

Stage 20 — เสาร์ 25 ก.ค.

110.5 กิโลเมตร นี่คือสเตจภูเขาที่สั้นที่สุดในปีนี้ แต่ก็เป็นสเตจที่ยากที่สุดเช่นกัน เป็นไฮไลท์ของรายการที่เราจะพลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะนักปั่นต้องเจอ Col de la Croix de Fer และ Alpe d’Huez ที่เส้นชัย (จริงๆ มี Col du galibier ด้วย แต่ผู้จัดตัดออก เพราะกำลังปรับปรุงเส้นทางขึ้นเขา ทำให้อันตรายครับ) ถึงจะตัดกาลิบิเยร์ออกไป ก็ยังโหดอยู่ดี ผู้ชนะรายการน่าจะตัดสินกันจากวันนี้ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

Stage 21 —อาทิตย์ 26 ก.ค.

สเตจสุดคลาสสิค กับเส้นชัยที่ฌองเซลิเซ่ ในสเตจนี้เราคงได้ผู้ชนะรายการแล้วแต่สิ่งที่ต้องลุ้นคงเป็นเสื้อจ้าวความเร็วและผู้ชนะสเตจสุดท้าย

พรุ่งนี้เรามาต่อกันเรื่องเสื้อผู้นำและกฏการแข่งขัน พร้อมรางวัลจาก Tour de France ปีนี้กันครับ

* * *

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *