พรีวิว TDF สเตจ 16: Welcome to the Pyrenees

เส้นทาง: การ์กาสซอน> บาญแญแรส เดอ ลูชง / 237.5 กิโลเมตร

สองวันในเทือกเขาแอลป์เมื่อสัปดาห์ก่อนเราได้เห็นวินเชนโซ นิบาลิ (Astana) โชว์ฟอร์มการไต่เขาแบบไร้ที่ติ แต่อย่าเพิ่งเบื่อกับตูร์ปีนี้กันครับ เพราะสามวันถัดจากนี้เป็นสนามรบบนเทือกเขาพีรานีสที่การันตีได้ว่ายากยิ่งกว่าเทือกเขาแอลป์เสียอีก แค่อุบัติเหตหรือปัญหาจุกจิกระหว่างแข่งกลางเขาก็อาจจะทำให้ตัวเต็งเสียเวลาได้เป็นสิบนาทีเหมือนกัน

สเตจ 16 วันนี้เป็นสเตจที่ยาวที่สุดในตูร์ปีนี้กับระยะทาง 237.5 กิโลเมตร และยังมีภูเขาให้ปีนตลอดทั้งวัน เรียงสโลปจากลูกง่ายๆ Category 4 ตั้งแต่กิโลเมตรที่ 25 ไปจนถึง Porte de Bales ระดับ Category HC ที่ท้ายสเตจ

ภูเขาที่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับนักปั่นลูกแรกก็คงเป็น Portet-d’Aspet ระดับ Category 2 ที่ความยาว 5.4 กิโลเมตรและความชันเฉลี่ย 6.9% ทางขึ้นคงไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นทางลงเขาครับ ที่เคยคร่าชีวิต ฟาบิโอ คาซาร์เทลลี นักปั่นชาวอิตาเลียนเจ้าของรางวัลโอลิมปิก Road Race ที่เกิดอุบัติเหตระหว่างทางลงเขาลูกนี้ในปี 1995 ศีรษะกระแทกคอนกรีตกั้นถนนจนเสียชีวิต (note: ในปีนั้น UCI ยังไม่ออกกฏบังคับให้นักปั่นต้องใส่หมวกกันน๊อค)

จุดที่ยากที่สุดคงไม่พ้น Port de Bales ภูเขาระดับ Hors Category ซึ่งหยิบมาใช้ในการแข่งขันแทบทุกปี ความยาว 11.7 กิโลเมตร และความชันเฉลี่ย 7.7% ความยากไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขครับ ลองดูกราฟความชันข้างล่าง

สังเกตได้ว่าสโล้ปความชันนั้นเปลี่ยนแปลงแทบตลอดเส้นทางขึ้นเขาทำให้การประคองความเร็วและรักษาจังหวะการปั่นเป็นไปได้ยาก เป็นเส้นทางที่นักไต่เขาสไตล์ปั่นขึ้นเรื่อยๆ ไม่ชอบการกระตุก กระชากเกลียดเป็นพิเศษ และก่อนถึงยอดเขาลูกนี้คือจังหวะที่อัลเบอร์โต คอนทาดอร์ออกยิงหนีระหว่างที่เขาโซ่ตกในปี 2010 แอนดี้ ชเล็ค เสียเวลาไป 39 วินาทีและขึ้นชื่อว่าเป็นจังหวะที่ทำให้เขาแพ้การแข่งขัน

ทางขึ้นว่ายากแล้ว ทางลงยิ่งยากกว่า กับระยะทางเกือบ 20 กิโลเมตรลงไปถึงเส้นชัยที่เมืองลูชอนนั้นเต็มไปด้วยโค้งเล็กโค้งน้อย และเส้นทางที่ไม่กว้างมากหมายความว่าตัวเต็งที่ลงเขาได้เร็วน่าจะทำเวลาห่างคู่แข่งคนอื่นๆ ได้หลายสิบวินาที นิบาลิได้เปรียบในจังหวะนี้ชัดเจน แต่สำหรับม้ารองนั้น AG2R ก็น่าจะมีลุ้น เพราะวันก่อนดิ่งพาบาร์เดต์เพื่อทิ้งห่างทิบอร์ พินอทได้พอสมควร ซึ่งน่าน่าจะเป็นไฮไลท์ของสเตจครับ เพราะพินอทและบาร์เดต์ยังแย่งทั้งอันดับโพเดี้ยมและเสื้อขาวกันอยู่

ที่สำคัญทั้งพินอทและบาร์เดต์อาจจะต้องตั้งใจทำความเร็วในจังหวะท้ายนี้เป็นพิเศษเพราะทีเจย์ แวนการ์เดอเรน (BMC) นั้นไม่ชอบทางลงเขาเท่าไร และถ้าทิ้งห่างทีเจย์ไม่ได้ การันตีได้ว่าทั้งคู่อาจจะโดนทีเจย์ทิ้งระเบิดเวลาในสเตจ Time Trial ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญพิเศษของหนุ่มอเมริกันคนนี้เลย

พรีวิวสเตจโดย Juan Antonio Flecha (อดีตทีม Sky)

 

หมอดู DT

นอกจากรูปเกมที่พอจะคำนวนได้จากเส้นทางข้างบนนี้แล้ว กลุ่ม peloton คงแฮปปี้ที่จะปล่อยเบรคอเวย์ให้รอดไปได้ครับ เพราะเขาพีรานีสยังเหลืออีกสองวันเต็มๆ ต่อจากนี้และจะยากยิ่งขึ้นไปอีก ประกอบกับระยะทางสเตจที่ค่อนข้างยาว ทีมตัวเต็งอาจจะเลือกเซฟแรงไว้ไปลุยกันในเขาลูกสุดท้าย หรือทางลงเขาเสียมากกว่าที่จะออกไล่จับกลุ่มหนี

พูดถึงกลุ่มหนีก็ต้องบอกว่ายังมีอีกหลายทีมที่ยังไม่ได้แชมป์สเตจและน่าจะพยายามฟอร์มทีมเบรคอเวย์แน่นอน Sky, Tinkoff, Cannondale, IAM, Garmin, Netapp, Movistar, Lampre, OGE, Europcar ยังขาดผลงานและมีกำลังพลพร้อมรบ

วันนี้งดให้ดาวนักปั่นเพราะเดายากครับว่าใครจะเข้ากลุ่มเบรคอเวย์ได้บ้าง แต่จับตาดูขาโหดอย่างรูย คอสต้า (Lampre), มิเคล เนียเว + เกอเรนท์ โทมัส (Sky), นิโคลาส โรช + ไมย์กา + มิก โรเจอรส์ (Tinkoff), โรลองด์ + โฟแคลร์ (Europcar), เอลมิเกอร์ + ชาวาเนล (IAM), ซากาน, เจอรรานส์ + อัลบาซินี (GreenEdge)

ส่วนตัวผมคิดว่าเป็นโอกาสดีสำหรับเนียเว จาก Sky ที่จะคว้าแชมป์สเตจนี้เพราะแกเป็นนักปั่นท้องถิ่นและโตมากับการปีนเทือกเขาพีรานีส Sky ต้องการอย่างน้อย 1 สเตจวินก่อนที่จะกลับบ้านไปมือเปล่า เวลาก็เหลือน้อยลงเต็มทีแล้ว

DT บรรยายสด 21:30 อย่าลืมติดตามกันครับ