สเตจ 7: เอเพอร์เนย์ > นองซี / 234.5 กิโลเมตร
ดูโปรไฟล์สเตจแล้วคุ้นๆ มั้ยครับ? ถ้าไม่คุ้นดูรูปนี้
รูปข้างบนคือโปรไฟล์รายการ Milan-Sanremo ปี 2014 ซึ่งเป็นสนามแข่งคลาสสิควันเดียวจบที่ยาวที่สุดในปฏิทินการแข่งขัน ไฮไลท์ของซานเรโมคือเนินชันต่อเนื่องที่ใกล้ๆ เส้นชัยทำให้การแข่งขันน่าลุ้นกว่าสนามไหนๆ เพราะทั้งสปรินเตอร์ นักไต่เขา นักปั่นสายคลาสสิค และ TT Specialist ล้วนมีโอกาสคว้าแชมป์กันทุกคน แอดมินคิดว่าสเตจ 7 จากเอเพอร์เนย์ไปนองซีวันนี้ก็น่าจะออกมาคล้ายๆ กัน พลาดไม่ได้ทีเดียวครับ
เรายังคงอยู่กันทางตอนเหนือของฝรั่งเศส สเตจเมื่อวันก่อนเราแวะไปเบลเยี่ยมเพื่อไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ธีมของสเตจนี้ก็ยังเป็นเรื่องของสงครามอยู่เช่นกัน วันนี้เป็นการรำลึงถึงอ๊อกเทฟ ลาพีซ แชมป์ตูร์ปี 1910 ที่ผันตัวมาเป็นทหารอากาศฝรั่งเศสช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
ลาพีซยิงต่อสู้กับนักบินเยอรมันจนเครื่องตก เสียชีวิต ณ กิโลเมตรที่ 174 ของวันนี้ ซึ่งเป็นสุสานและลานรำลึกถึงความกล้าของเขา ((การแข่งจักรยานนี่มันก็ดีนะครับ ได้เวียนไปสถานที่สำคัญหลายๆ อย่างที่มีเรื่องราวเก่าแก่ไม่แพ้ตัวสนามแข่งเอง))
ระยะทางวันนี้ก็ยาวถึง 234 กิโลเมตร ยาวเป็นอันดับสองในตูร์ปีนี้เลยทีเดียว 20 กิโลเมตรสุดท้ายนักปั่นจะต้องเจอเนินสำคัญสองลูก โปรไฟล์ตามนี้
- Km 217.5 — Côte de Maron, 3.2 kilometre-long climb at 5% — category 4
- Km 229.0 — Côte de Boufflers, 1.3 kilometre-long climb at 7.9% — category 4
ระดับ Cat 4 แต่ไม่ง่ายแน่นอนเมื่อบวกกับระยะทางร่วม 200 กิโลเมตร ช่วงสตาร์ท Cote de Maron จะยากเป็นพิเศษด้วยความชันระดับเลขสองตัว เหมาะแก่การใช้เป็นแท่นยิงสำหรับสิงห์ระเบิดเนินอย่างไซมอน เจอรานส์หรือปีเตอร์ ซากาน แม้แต่เฟเบียน แคนเชอลาราก็มีลุ้น ส่วนเนินลูกที่สอง Cote de Boufflers ชันกว่าลูกแรก เหมาะแก่การโจมตีระลอกสองเข้าไปใหญ่ (จำที่นิบาลิเปิดยิงยาวในซานเรโมเมื่อต้นปีได้มั้ย?) ทางลงเขาก็ซับซ้อนใช้ได้ ถ้าฝนตกลงมาด้วยก็เหมือนเนิน Poggio ในซานเรโมเด๊ะๆ
ช่วงทางเข้าเส้นชัยก็ท้าทายครับ มีโค้งหักศอก 3-4 จุดที่กิโลเมตรสุดท้าย 800 เมตรสุดท้ายเป็นเนินนิดนึง แล้วที่ 300 เมตรถึงจะเป็นทางราบ ถ้าใครจะเปิดสปรินต์ต้องกะเวลาให้ดี ไม่งั้นมีหมดก๊อกก่อนถึงเส้นชัย
คาดเดาสถานการณ์
เคสแรก: สปรินเตอร์ชนะ
ถึงลงเนินลูกที่สองมาแล้วจะเป็นทางราบ แต่บอกไม่ได้ว่าสปรินเตอร์ตัวเต็งอย่างคิทเทลและไกรเพิลจะขึ้นเนินไหวหรือเปล่า? ถ้าไม่ไหวตัวเต็งของเราอาจจะเป็นปีเตอร์ ซากาน, อเล็กซานเดอร์ คริสทอฟ, ไซมอน เจอรรานส์หรือจอห์น เดเกนโคลบ์ ซากานเองน่าจะอยากได้ชัยชนะสักสเตจเพราะชวดมาตลอด ถ้าทีมอื่นๆ ช่วยไล่จับเบรคอเวย์ ก็มีสิทธิที่ซากานจะชนะ
เคสที่สอง: เบรคอเวย์รอด
ก็เป็นไปได้เหมือนกัน นิบาลิเองถ้าเห็นว่ากลุ่มหนีไม่มีพิษภัยก็อาจจะปล่อยให้เข้าเส้นชัยไปก่อนถึงแม้เขาจะเสียเสื้อเหลืองก็ตาม (ที่ว่าไม่มีพิษภัยคือ เป็นนักปั่นที่อาจจะขึ้นเขาได้ไม่ดี แย่งเสื้อคืนทีหลังได้) ผมว่าวันนี้ทีมดิวิชันสองหลายๆ ทีมคงอยากจะหาโอกาสเก็บแชมป์สเตจสักครั้ง เพราะโปรไฟล์ช่วงท้ายค่อนข้างเอื้ออำนวย
เคสที่สาม: แคนเชอลารา
หรือตัวเต็งสนามคลาสสิคคนอื่นๆ อย่างลาร์ส บอม นิกี เทิร์ปสตรา แม้แต่โทนี มาร์ตินและแยน เบเคอร์แลนท์ก็มีลุ้น แคนเชอลาราพลาดไปในสเตจรูเบ วันนี้ถ้าเขาฟอร์มดีก็มีลุ้นหนีเดี่ยวเก็บแชมป์ครับ จริงๆ จะนับเควียททอฟสกีเข้าไปด้วยก็ยังได้
✮✮✮✮✮ Cancellara, Sagan, Gerrans, Degenkolb, Kittel, Griepel
✮✮✮✮ Demare, Kristoff, Doumolin, Albasini, Kwiatkowski
✮✮✮ Gallopin, Coquard, Chavanel, Narvadauskas, Voeckler, Costa, Valverde, Vichot
โดยรวมแล้วเป็นสเตจที่มองยากว่าใครจะชนะ เรียกได้ว่าทุกคนมีลุ้น ขึ้นอยู่กับรูปเกมระหว่างแข่งขัน และต้องดูกันด้วยว่านักปั่นคนไหนอาการเป็นยังไง เพราะสองสเตจทีผ่านมาล้มกันไปเยอะ เจ็บกันไม่น้อย คงไม่น่าเบื่อแน่นอนครับ DT บรรยาย 21:30 เหมือนเดิม
น้า can ปีนี้ฟอร์ม drop ลงเยอะเลย