สเตจ 8: Rennes > Mur de Bretagne, 181.5km
ในสเตจ 8 เรายังคงอยู่ในแคว้นบริตตานี และมีไฮไลท์ของสเตจเป็นเขา Mur de Bretagne หรือแปลตรงๆ เป็นภาษาไทยได้ว่า “กำแพงแห่งเบรอตาญนั่นเอง ฟังดูคล้ายๆ สเตจ 3 ที่จบบนเนิน Mur de Huy? ใช่เลยครับ เส้นชัยวันนี้โปรไฟล์คล้ายๆ กัน และเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เคยใช้ในตูร์มาแล้วเมื่อปี 2011 ที่คาเดล เอวานส์สปรินต์เอาชนะอัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ จนได้แชมป์สเตจ 4 และคว้าแชมป์ตูร์ในปีเดียวกัน รูปเปิดวันนี้คือจังหวะที่คอนทาดอร์ออกโจมตีกลุ่มบนทางขึ้น Mur de Bretagne ครับ
นักปั่นชาวฝรั่งเศสหลายๆ คนเติบโตมาจากแคว้นบริตตานี ทีม Bretagne-Sache Environment ก็มีฐานท่ีมั่นอยู่ในละแวกนี้เช่นกัน ด้วยสภาพภูมิประเทศที่มีเนินเขากระจัดกระจายเต็มแคว้น พร้อมตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลที่กระแสลมแรงและเจอฝนตกบ่อยๆ นักปั่นที่เติบโตจากที่นี่จึงพัฒนาไปเป็นนักปั่นฝีเท้าดีติดทีมอาชีพได้อย่างรวดเร็ว
เส้นทาง
สเตจนี้แทบจะถอดมาจากสเตจ 4 Tour de France 2011 ที่ผมพูดถึงข้างต้น ถึงแม้จะใช้ถนนวิ่งไปเส้นชัยคนละเส้นแต่ก็ยังจบบนเนินลูกเดิม จุดยุทธศาสตร์คือช่วงสุดท้ายที่มุ่งเข้าสู่ตีนเขา Mur de Bretagne เขาอาจจะไม่ยาวและชันเหมือนสเตจภูเขา ซึ่งหมายความว่าระยะห่างระหว่างตัวเต็งที่ทำเกมกันอาจจะไม่มากนัก แต่การที่ผู้ชนะจะได้ Time Bonus มากสุด 10 วินาที ก็เป็นสเตจที่สำคัญสำหรับทั้งตัวเต็ง GC และนักปั่นสายระเบิดเนิน รูปเกมคงออกมาแบบเดียวกับสเตจ 3 ที่เปโลตองเลี้ยงกันมาแล้วลุยกันบนทางขึ้นเนินครับ
เส้นทางทั้งสเตจเป็นถนนโรลลิ่ง ขึ้นๆ ลงๆ เนินตลอดเส้นทางและมีเขาระดับ Category 4 1 ลูก ปี 2011 เอวานส์ออกกระชากหนีคอนทาดอร์ที่ 500 เมตรสุดท้าย “กำแพงแห่งเบรอตาญ” มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร และจุดที่ชันที่สุดอยู่ที่ตีนเขา สเตจวันนั้น (ดูจากวิดีโอข้างบน) นักปั่นยิงกันตั้งแต่ที่ 1.5km หน้าเส้นชัย (จังหวะที่เอวานส์ออกลุยอยู่ที่ 2:56:00 ลองเลื่อนไปดูครับ)
ถ้าใครย้อนดูจะเห็นว่าในวันนั้น คนที่อยู่กลุ่มหน้าคือธอร์ ฮุชชอฟ ซึ่งเป็นสปรินเตอร์กึ่งนักปั่นคลาสสิค ไม่ใช่เส้นทางแบบที่เขาถนัด แต่เขาก็สามารถขึ้นเนินไปเล่นกับตัวเต็ง GC ได้เช่นกัน คุ้นๆ มั้ยครับว่าตอนนี้นักปั่นสไตล์เดียวกับฮุชชอฟมีใครบ้าง (Hint: ที่สองตลอดกาล)
ผลกระทบกับเสื้อผู้นำ
เสื้อเหลือง: สำหรับฟรูมแล้ว สเตจวันนี้สำคัญครับ ถ้าฟรูมรักษาเสื้อเหลืองได้ ทีมเขาจะเป็นทีมสุดท้ายที่ออกสตาร์ทสเตจ Team Time Trial ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งก็หมายความว่าจะสามารถดูข้อมูลเวลาและฟอร์มคู่แข่งได้จนถึงนาทีสุดท้าย ทีมจะรู้ว่าจุดไหนคู่แข่งพลาด และจะแก้มือยังไง
สำหรับฟรูมที่ฟอร์มดี คู่แข่งคงชิงเวลาได้ยาก เหมือนที่เราเขาขึ้นนำทุกคนบน Mur de Huy ในสเตจ 3 โอกาสที่เสื้อจะเปลี่ยนมือเกิดได้ไม่กี่กรณี คือ 1.) ซากานชนะสเตจและนำฟรูมเล็กน้อย (ได้ time bonus 10 วินาที และมีระยะห่างกับฟรูมมากเกิน 1 วินาที) 2.) ทีเจย์โซโล่เดี่ยวทำเวลาห่างเกิน +14 วินาที 3.) เบรคอเวย์ที่ติด Top 10 GC หนีได้ไกลเกินระยะห่างที่ฟรูมนำเขาอยู่ เช่น กาโลแพน (+26วิ) , แวน เวอร์มาร์ท (+28วิ) และสตีบาร์ (+52วิ)
เสื้อเขียว: วันสำคัญของซากาน! สเตจนี้ไกรเปิลและคาเวนดิชไม่น่าจะขึ้นเนินได้ไวเท่าเขาแน่นอน มันไม่ใช่แค่เสื้อเขียวที่เขาจะได้ครับ ถ้าได้แชมป์สเตจ และนำฟรูมได้เล็กน้อยเขาจะได้เสื้อเหลืองด้วย กับสเตจที่เข้าทางซากานแบบนี้ เป็นโอกาสที่เขาจะคว้าเสื้อเหลืองแบบที่ไม่รู้จะมีผ่านมาอีกกี่ครั้งในชีวิต ซากานตามคะแนนไกรเปิลแค่ 12 แต้ม เพราะงั้นถ้าถ้าได้แชมป์สเตจ (30 แต้ม) เขาก็ได้ครองเสื้อแล้ว
เสื้อลายจุด: สเตจนี้มีคะแนนภูเขาให้เก็บ 3 แต้ม เทเคิลไฮมานอทนำที่คะแนน 4 แต้ม มากกว่าอันดับ 2 (โรดริเกรซ 2 แต้ม) แต้มแรกที่เขาลูกแรก Cat 4 และอีกสองแต้มที่เส้นชัยบน Mur de Bretagne เทเคิลไฮมานอทน่าจะออกกลุ่มหนีเก็บแต้มแรก ขึ้นนำเป็น 5 แต้ม ทางแรกที่จะมีใครปลดเสื้อเขาได้คือโรดริเกรซได้แชมป์สเตจ (ไม่แน่ แต่ก็ไม่ง่าย) อีกทางคือนักปั่นคนเดียวรวบคะแนนเจ้าภูเขาในวันนี้ทั้งหมด ซึ่งก็ยากอีกเช่นกัน เดาว่าแชมป์เอริเทรียน่าจะเก็บเสื้อลายจุดได้ถึงวันอังคารหน้านู่นเลย
เสื้อขาว: ซากานเป็นตัวเต็ง น่าจะยังถือเสื้อได้อีกวัน
ใครจะชนะ?
สเตจวันนี้เหมาะกับนักปั่นหลายประเภทครับ ซึ่งน่าจะทำให้การแข่งสนุกขึ้นเยอะ!
1. The Ardennes Specialist: ประเภทแรกคือนักปั่นผู้เจนสนามอาร์เดนส์ เช่นวาวเวอเด้ (Movistar), โรดริเดรซ (Katusha), แดน มาร์ติน (Canonndale), เควียทคอฟสกี้ (EQS), รูย คอสต้า (Lampre) เป็นต้น โรดริเกรซฟอร์มดีมากในสเตจ 3 ไม่มีเหตุผลที่เขาจะทำอันดับ Top 5 ไม่ได้ในสเตจนี้ ปัญหาของโรดริเกรซคือที่ 500 เมตรสุดท้ายบนยอดเขาเป็นทางลาดไม่ชันมาก ซึ่งคนที่มีลูกสปรินต์หนักกว่าอย่างวาวเวอเด้จะได้เปรียบ
แชมป์โลกเควียทคอฟสกี้รับหน้าที่เป็นโดเมสติกให้ทีมเป็นหลัก ไม่รู้วันนี้ EQS จะให้อิสระเขาไหม ถ้าได้ก็มีลุ้น
2. Punchy Sprinter: อย่างที่บอกตะกี้ ยอดเขาเป็นทางลาดไม่ชัน ถ้าสปรินเตอร์สายระเบิดเนินอย่าง ซากาน (Tinkoff-Saxo), เดเก้นโคลบ์ (Giant-Alpecin) และอเล็กซานเดอร์ คริสทอฟ (Katusha) ทนเกาะกลุ่มนักไต่เขาในช่วงแรกของเนินที่ชันหนักๆ หน่อยได้ รับรองว่ามีสิทธิลุ้นแชมป์สเตจกันทุกคนถ้ายังมีแรงเหลือจะสปรินต์
เคสของซากานน่าสนใจ เพราะวันนี้เขามีสิทธิลุ้นเสื้อสามตัวเลย ทั้งเสื้อเหลือง (ตามฟรูม 11 วิ) เสื้อเขียว (ตามไกรเปิล 12 คะแนน) และเสื้อขาว (นำอยู่) ในกรณีที่เขาได้แชมป์สเตจ แต่มีปัญหาสองข้อครับ
1.) ทางขึ้น Mur de Bretagne นี่ชันพอกลุ่มตัวเต็ง GC จะฉีกกันขาด (อย่าลืม ฟรูมทิ้งคอนทาดอร์ได้ +19 วิบน Mur de Huy) เช่นนั้นแล้ว Tinkoff จะให้ซากานช่วยลากคอนทาดอร์ขึ้นเขามั้ย? หรือทีมจะให้อิสระกับซากานอีกครั้ง สำหรับคอนทาดอร์เองเขาก็ต้องทำเวลาตีตื้นฟรูมเช่นกัน
2.) ซากานเป็นนักปั่นที่โดนหมายหัวตลอดเวลาด้วยความคล่อตัวของเขาที่เล่นเกมหนักได้ทุกสภาพภูมิประเทศ สเตจ 6 เป็นตัวอย่างที่ดี ถึงซากานจะเดินเกมได้ดีที่สุดที่สถานการณ์จะเอื้อ คือการรอสปรินต์เก็บที่สองเพื่อชิงแต้ม – โอกาสคว้าแชมป์สเตจของเขาก็มีไม่มากเช่นกัน ถ้าซากานมากับกลุ่มหน้าได้ พวกตัวเต็ง GC จะไม่ลากเขาไปหน้าเส้นแน่นอน เพราะซากานสปรินต์ดีกว่า ขณะเดียวกัน ถ้ามีสายโหดเบรคอเวย์หนีไปเหมือนสตีบาร์ในสเตจ 6, ซากานจะถูกบังคับให้ลากไล่จับโดยปริยาย ทั้งสองกรณีแปลว่าเขาจะชวดแชมป์สเตจ ฟังดูก็น่าเห็นใจครับ เก่งเกินจนหาวิธีแก้เกมคู่แข่งยาก วันนี้เป็นโอกาสที่หาได้ยากของซากาน เขาน่าจะโจมตีถ้าทีมไม่สั่งลากคอนทาดอร์ สนุกครับ ไม่ควรพลาด
3. GC Contenders: สำหรับตัวเต็ง GC เขา Mur de Bretagne ไม่ชันเท่า Mur de Huy ระยะทางความยาวไม่ต่างกันมาก ฟรูม, TJ, ไม่น่าเป็นห่วง น่าจะทิ้งกันไม่หลุด แต่น่าดูเหมือนกันว่าคอนทาดอร์ฟอร์มเป็นยังไง เพราะเงียบไปนาน คินทานาก็ด้วย ถ้าว่ากันจากฟอร์มตอนนี้ ฟรูมมีลุ้นที่สุดครับ
มีตัวเต็งเยอะแบบนี้ก็เดายากว่าใครจะชนะ แต่ก็ทำให้เป็นสเตจที่สนุกมากๆ เช่นกันครับ ลองจัดอันดับคนที่น่าลุ้นประมาณนี้
★★★★★ Alejando Valverde, Dan Martin
★★★★ Gallopin, Rodroguez, Kwiatkowski, SAGAN, Froome
★★★ Nibali, Contador, Stybar, Simon Yates, Barguil
Pick to win: วาวเวอเด้!
Surprise: ซากานเก็บมันครบทุกเสื้อเลย OMG O_O !
* * *
