สเตจ 9 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมากับการปีนเขาที่ยากที่สุดใน Tour de France ปีนี้มีผลกับรูปเกมไม่น้อยครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนักแข่งที่บาดเจ็บและถอนตัวจากการแข่งขันและตัวเต็งรายการที่เริ่มมีอันดับเวลารวมห่างกันชัดเจนมากขึ้น
ผู้ชนะสเตจ 9 คือริกโอเบอร์โต้ อูราน (Cannondale Drapac) ที่สปรินต์เอาชนะวาร์เรน บากิลล์ (Sunweb) เบรคอเวย์คนสุดท้ายของวันที่โดนกลุ่มตัวเต็ง GC รวบจับระหว่างทางเข้าเส้นชัยแต่ยังเกาะกลุ่มมาด้วยได้ นอกจากสองคนนี้แล้วในกลุ่มยังเหลือโรเมน บาค์เดต์ (AG2R), คริส ฟรูม (Sky), ฟาบิโอ้ อารู (Astana), และยาค็อบ ฟูลก์แซง (Astana) ซึ่งนอกจากฟูลก์แซงและบาร์กิลล์แล้ว ทั้ง 4 คนที่เหลือน่าจะเป็นคนที่มีลุ้นชิงอันดับโพเดี้ยมที่สุดในรายการนี้ คนที่ไม่ได้ถูกกล่าวถึงคือเสียเวลาไปมากหรือออกจากการแข่งขันไปแล้วและน่าจะทำเวลาตีตื้นคืนได้ยาก
อารูโจมตีฟรูมตอนรถเสีย?
ระหว่างทางขึ้น Mont du Chat ที่ประมาณ 5 กิโลเมตรสุดท้ายก่อนถึงยอดเขา ฟาบิโอ้ อารู กระชากหนีกลุ่ม GC ในจังหวะเดียวกับที่คริส ฟรูมยกมือเรียกรถเซอร์วิสเพราะจักรยานมีปัญหา แต่ริชีย์ พอร์ท (BMC) บอกให้อารูลดความเร็วและฟรูมตามทันในที่สุด เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นใหญ่ในโลกอินเทอร์เน็ตเพราะโดยปกติถ้าคนที่นำเวลารวมมีปัญหาสุดวิสัย คู่แข่งไม่ควรโจมตีในจังหวะนั้น (เป็น unwritten rule ของเปโลตอง) ฟรูมให้สัมภาษณ์ว่าไม่เห็นตอนอารูโจมตี และอารูบอกว่าไม่เห็นว่าฟรูมยกมือเรียกเซอร์วิส เพราะตัวเองตั้งใจจะโจมตีตอนนั้นอยู่แล้ว
ความเห็นส่วนตัวของ DT ผมว่ากฏไม่โจมตีผู้นำเวลารวมเวลารถมีปัญหานี้โบราณไปแล้วครับ โอเคถ้าเป็นในช่วงถนนทางราบอยู่ห่างเส้นชัยสักร้อยกิโลที่เปโลตองไม่ได้ทำเกมเดือดชิงเวลากัน แล้วเสื้อเหลืองรถพังกะทันหัน ก็รอกันได้เป็นน้ำใจที่ดี แต่ในช่วงวิกฤติของทางขึ้นเขาที่ยากที่สุดในสเตจนี่เป็นเวลาที่ทุกคน game on กันหมดแล้ว มันเหมือนเราบอกว่าถ้ามาร์ค คาเวนดิช หรือซากานกำลังสปรินต์กันที่ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วคนนึงรถเสียกะทันหัน หรือโซ่ตกอะไรแบบนี้ ก็ควรจะมาสปรินต์กันใหม่ ซึ่งในชีวิตจริงคนที่มีปัญหาตอนสปรินต์ก็แพ้เสมอ ไม่มีการรีรันหรือรอกัน แล้วทำไมในเกม GC ที่ต้องชิงเวลากันบนทางขึ้นยอดเขาถึงต้องรอกันด้วย? ที่มาของ unwritten rule ข้อนี้คือ สมัยก่อนในการแข่งแกรนด์ทัวร์ที่นักปั่นไม่มีรถเซอร์วิส อะไรเสียต้องซ่อมเอง แค่ยางรั่วก็ต้องเสียเวลาเป็นสิบนาที มันเลยมีสัญญาใจกันว่า ถ้ารถเสียจะไม่โจมตีกันนะ แต่ในเกมการแข่งยุคปัจจุบันที่แค่ยางรั่วก็มีเซอร์วิสมาเปลี่ยนล้อให้ก่อนลมจะออกหมดล้อเสียอีก ธรรมเนียมนี้มันโบราณเกินไปครับ
อย่างไรก็ดีนักแข่งทั้งคู่ดูจะไม่ติดใจอะไรกัน ประเด็นนี้ก็ตกไป แต่การโจมตีของอารูจังหวะนั้นน่าจะกินแรงเขาเยอะทีเดียว เพราะยิงไปแล้วก็ต้องรอเหมือนทิ้งแรงเปล่า ระหว่างนี้ไนโร คินทานา (Movistar) และอัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (Trek-Segafredo) หมดแรงหลุดกลุ่มไปแล้ว
พอร์ท, โทมัส, เฮอร์ราดา, เจ็บหนักออกจากการแข่ง
ถึงยอด Mont du Chat แล้วนักปั่นต้องเจอทางลงที่ทั้งเปียกทั้งแคบและเป็นโค้งบอด กลุ่ม GC ตามกันลงเขาได้ไม่กี่กิโลเมตร ริชีย์ พอร์ท (BMC) ก็ล้มคว่ำ เจ้าตัวบอกว่าล้อหลังล็อค เสียการทรงตัวแล้วรถไถลลงขอบถนน คว่ำกลิ้งไปกระแทกขอบถนนอีกฝั่งพร้อมลากเอาแดน มาร์ติน (Quickstep) ล้มลงไปด้วย น่าเสียดาย เพราะพอร์ทเป็นตัวเต็งที่ฟอร์มดีระดับหัวแถวในรายการนี้ แต่อุบัติเหตุแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึึ้น เขากระดูกไหปลาร้าและเบ้าสะโพกร้าว แต่ไม่ต้องผ่าตัด คาดว่าคงกลับมาปั่นได้ในอีก 1-2 เดือน
แดน มาร์ตินที่ล้มไปด้วย ลุกขึ้นปั่นต่อได้อย่างรวดเร็ว แตก็ล้มอีกครั้งระหว่างทางลง สุดท้ายเกาะมากับกลุ่มของคินทานาและไซมอน เยทส์ (Orica-Scott) ตามกลุ่มหน้าเข้าเส้นชัยนาทีกว่าๆ น่าเสียดายเพราะมาร์ตินไต่เขาได้ดีกว่าคนที่เขาเกาะมาด้วยอย่างชัดเจน
ก่อนหน้านี้ที่ทางลงเขาอีกลูก ราฟาล ไมย์ก้า (Bora) ล้มระหว่างทางลงเขาดึงเอาเกอเรนท์ โทมัส (Sky) ล้มลงไปด้วยจนไหปลาร้าหัก ไมย์ก้าปั่นต่อได้จนจบแต่ก็เจ็บหนักไปทั้งตัว เสียเวลา GC ไปร่วมครึ่งชั่วโมง ที่โค้งเดียวกันเฮซุส เฮอร์ราด้า ผู้ช่วยคนสำคัญของคินทานา (Movistar) ก็ล้มที่โค้งนี้บาดเจ็บถอนตัวอีกเช่นกัน นั่นคือ Movistar เสียผู้ช่วยคนสำคัญไปแล้วสองคน (วาวเวอเด้ และเฮอร์ราด้า) ส่วน Sky ก็เสียนักไต่เขาที่ฟอร์มดีที่สุดรองจากฟรูม
ผู้จัดแข่งกับการเลือกเส้นทางอันตราย
ประเด็นเรื่องทางลงเขาอันตรายเหมือนใน Mont du Chat ก็เป็นประเด็นถกเถียงกันในสื่อและคนดูว่าทำไมไม่ให้จบเกมบนยอดเขาจะได้ไม่ต้องเสี่ยงนักปั่นบาดเจ็บหนักเหมือนที่เกิดขึ้นในสเตจ 9? ถ้าเราสังเกตการแข่งวันนั้นจะเห็นว่ามีตัวเต็งแค่สองคนที่หลุดกลุ่มตอนขึ้นเขา นั่นคือคินทานาและคอนทาดอร์ ที่เหลือขึ้นถึงยอด Mont du Chat พร้อมกันหมด แปลว่าฟอร์มการขึ้นเขาแทบไม่ต่างกัน
สิ่งที่ต่างกลับเป็นทักษะการลงเขาที่ชัดเจนว่าบาค์เดต์ (AG2R) เหนือกว่าทุกคน และคริส ฟรูม (Sky) ก็ลงได้ดีจนเป็นการ force error จากนักแข่งคนอื่น ความอันตรายที่เกิดขึ้น อาจจะไม่ได้มาจากถนนก็ได้ครับ (เส้นทางนี้เคยใช้แข่งใน Criterium du Dauphine มาแล้ว) แต่มาจากเกมการแข่งขันที่เดิมพันสูงและบังคับให้ทุกคนต้องเร่งความเร็วกันเต็มที่เพื่อไม่ให้เสียเวลากับคนอื่น จริงว่าถนนเปียก แคบและอันตราย นักปั่นสามารถเลือกได้ว่าจะลงอย่างปลอดภัยแต่เสียเวลา หรือจะลงแบบเสี่ยงแต่ทันคนอื่น การหาสมดุลระหว่างสองคำถามนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักแข่งแกรนด์ทัวร์ที่เก่งที่สุดในโลก นั่นคือต้องเก่งทุกรูปแบบทั้งทางขึ้นเขา ทางลงเขา ปั่นจับเวลา และโชคดีพอจะแข่งจบได้โดยไม่เจอเหตุสุดวิสัยนอกเหนือการควบคุมของตัวเอง
คินทานาและคอนทาดอร์
เป็นสองคนที่เสียเวลาเยอะที่สุดในบรรดาตัวเต็ง GC คินทานาเองให้สัมภาษณ์ว่าเริ่มหมดแรงแล้วและผลจากการแข่ง Giro แบบเต็มที่ของเขาส่งผลถึงฟอร์มการแข่งตูร์ชัดเจน ตอนนี้อันดับ GC ตกไปร่วมสองนาที ซึ่งคงยากที่จะไต่กลับคืนมา ส่วนคอนทาดอร์นั้นเสียไป 5 นาทีกว่า แต่หมายความเราอาจจะได้เห็นเขาพยายามเบรคอเวย์พลิกเกมเหมือนที่เขาชอบทำเวลาเข้าตาจนในแกรนด์ทัวร์ หรือเปลี่ยนไปคว้าแชมป์สเตจแทน จะแบบไหนก็ดีแต่เราไม่ได้เห็นคอนทาดอร์เฟดไปเฉยๆ แน่ๆ ด้วยสปิริตนักสู้ของเขาคงมีอะไรให้เห็นในสองสัปดาห์ถัดไปครับ
เสื้อเขียว เสื้อขาว และเสื้อลายจุด
ถึงวาร์เรน บากิลล์จะพ่ายแชมป์สเตจให้อูราน แต่สิ่งที่เขาได้มาคือเสื้อเจ้าภูเขาพร้อมแต้มจำนวนมหาศาล จากการที่เบรคอเวย์ออกมาตั้งแต่ต้นสเตจไล่เก็บแต้มไปเพียบ ตอนนี้ที่ 60 คะแนนเขานำอันดับสอง พริมอซ โรจ์กลิค 30 คะแนน ถ้ายังรักษาฟอร์มนี้ได้ในพีรานีสและแอลป์ก็มีสิทธิลุ้นเก็บเสื้อกลับบ้านครับ
ฝั่งเจ้าความเร็วผู้นำคะแนนรวม มาร์เซล คิทเทล (Quickstep) ยังนำอันดับสอง ไมเคิล แมธธิวส์ (Sunweb) อยู่ 52 คะแนน แมธธิวส์ได้เปรียบตรงที่ไล่เก็บคะแนนกลางสเตจได้ดีกว่าคิทเทล แต่คิทเทลเป็นสปรินเตอร์ที่ฟอร์มดีที่สุดในรายการ และถ้าเขาได้แชมป์สเตจอีก ครั้งสองครั้งคะแนนก็จะพุ่งห่างแมธธิวส์อีกเยอะ เพราะแชมป์สเตจนึงได้ 50 คะแนนครับ ถ้าคิทเทลรักษาโมเมนตั้มการสปรินต์ได้ต่อไปก็ยากที่ใครจะปลดเสื้อจากเขา โดยเฉพาะเมื่ออาโนต์ เดอมาร์ (FDJ) ออกจากการแข่งขันไปแล้ว (พร้อมเพื่อนร่วมทีมอีก 4 คนที่ส่งไปช่วยเขาให้เข้าเส้นชัยทัน time cut สุดท้ายไม่ทันทั้งแกงค์…)
สุดท้ายเสื้อขาว Best Young Rider น่าจะล็อกเบอร์แน่นอนแล้วเพราะไซมอท เยทส์นำคู่แข่งอันดับสองร่วมสามนาทีเต็ม
ผู้ท้าชิงเสื้อเหลืองเหลือใครบ้าง?
แดน มาร์ติน +1:44 นาที
คนที่โชคดีที่สุดจากอุบัติเหตุในสเตจ 9 โดนพอร์ทกวาดล้มแล้วแต่ยังปั่นต่อได้แถมยังไม่เสียเวลาให้คู่แข่งเยอะด้วย ยังอยู่ในระยะ 2 นาทีจากเสื้อเหลืองและไม่บาดเจ็บมาก คงยากที่จะเอาอันดับโพเดี้ยม เพราะสเตจ TT เขาน่าจะทำเวลาแย่ที่สุดในบรรดา GC ด้วยกัน แต่หนีไปเก็บแชมป์สเตจช่วงท้ายเกม? อันนี้ลุ้นได้ครับ เพราะคู่แข่งคงปล่อยระยะให้มาร์ตินหนีได้ระดับหนึ่งตราบที่ยังอยู่ในระยะห่างที่ไม่อันตรายเกินไป บวกกับทักษะการสปรินต์ขึ้นยอดเขาของเขาแล้ว แขมป์สเตจก็ดูเป็นผลงานที่หวังได้มากกว่าโพเดี้ยมหรือแชมป์รายการ
ริกโอเบอร์โต้ อูราน +0:55 วินาที
ตัวเต็งที่หลายคนมองข้ามไปแต่อย่าลืมว่าเขาเคยเหยียบโพเดี้ยมแกรนด์ทัวร์มาแล้วสองครั้ง ถึงจะไม่ค่อยมีโอกาสได้ออกโรงแต่เมื่อฟอร์มดีก็เป็นคนที่น่ากลัวครับ ข้อได้เปรียบของอูรานเทียบกับอารู และบาค์เดต์คือเขาปั่น TT ได้ดีกว่าทั้งคู่ โอกาสลุ้นโพเดี้ยมมี แต่ต้องไม่หลุดกลุ่มในสเตจเขาที่เหลือด้วย ปัญหาเดียวของเขาคือฟอร์มไม่ค่อยคงที่ในแกรนด์ทัวร์สามสัปดาห์
โรเมน บาค์เดต์ +0:51 วินาที
ถ้าเส้นชัยในสเตจ 9 จบที่ตีนเขาพอดี บาค์เดต์จะทำเวลานำคู่แข่งได้อย่างน้อย 30 วิจากสกิลการลงเขาเหนือชั้นที่เร่งแซงทุกคนไปได้ ฟอร์มไต่เขาตอนนี้ไม่ได้ดีไปกว่าฟรูม แต่ก็พอสูสีกับคนอื่น รักษาโพเดี้ยมน่าจะพอไหวแต่จะแซงคริส ฟรูมคงยากเมื่อต้องเจอกับสเตจ TT อีกหนึ่งครั้ง
ฟาบิโอ้ อารู +0:18 วินาที
อารูตามฟรูมไม่เยอะ แต่ต้องหาทางแซงในสเตจเขาเพื่อตุนเวลาไว้ในสเตจ TT นักปั่นที่อยู่ในตำแหน่งของอารูจะเจอคำถามสำคัญคือ จะยอมทุ่มทุกอย่างเพื่อให้ได้แชมป์ ถึงแม้มันจะหมายความว่าถ้ามันไม่เวิร์กก็อาจจะเสียกระทั่งตำแหน่งโพเดี้ยมไปด้วย หรือจะเก็บแรงไว้ เซฟตำแหน่งโพเดี้ยมดีกว่า? ไม่ว่าจะตอบแบบไหน อารูยังมีผู้ช่วยที่อันดับ GC ดีกว่าเพื่อนนั่นคือยาค็อบ ฟูลก์แซงที่เวลารวม อยู่อันดับ 5 +1:37 นาทีและเป็นไพ่สำคัญที่จะใช้กดดันคริส ฟรูมได้
คริส ฟรูม – ผู้นำเวลารวม
ฟรูมและ Sky มาแบบเดิมเลยคือเก็บเสื้อเหลืองในสเตจเขาลูกแรกและรักษาไว้ได้จนถึงปัจจุบัน ตอนนี้ชัดเจนว่า Sky มีลูกทีมที่ไต่เขาดีและคุมเกมได้เหนือทีมอื่นแต่ตัวฟรูมเองดูจะยังไม่สามารถโจมตีหนีคู่แข่งบนเขาได้แบบขาดลอยเหมือนในปีอื่นๆ ในสเตจ 5 เขาพ่ายให้อารู ในสเตจ 9 เขาก็ขึ้นถึงยอดพร้อมๆ คนอื่น และตอนนี้เสียมือขวาเกอเรนท์ โทมัสไปแล้ว โดยภาพรวม ฟรูมอยู่ในจุดที่เปราะบางกว่าปีก่อนๆ แต่ขณะเดียวกันคู่แข่งของเขาก็ไม่ได้ดูเหนือกว่าแต่อย่างใดครับ และยังมีสเตจ Time Trial สุดท้ายที่การันตีได้ว่าทำเวลาดีกว่าคู่แข่งแน่ๆ
Week 2 มีอะไรบ้าง?
สัปดาห์ที่สองของการแข่งขันนี้เราจะมีสเตจทางราบสองสเตจ และสเตจเขาในพีรานีสสองสเตจ จากนั้นเป็นสเตจโรลลิ่งหนึ่งวันที่เส้นชัยจบบนยอดเนินแบบเดียวกับสเตจ 3 และวันอาทิตย์เป็นสเตจภูเขาปานกลางที่น่าสนใจถึงไม่จบบนยอดเขาแต่อาจจะมีจุดให้หนีพลิกเกมกันได้ครับ
ผลการแข่งขันล่าสุด
