Tour de Suisse ผ่านมาได้ 4 สเตจแล้วหวังว่าชาว DT จะได้ติดตามกันนะครับ DT อาจจะยังไม่ได้พรีวิวสนามแต่ขอพูดถึงตรงนี้คร่าวๆ Tour de Suisse (ทัวร์ เดอ สวิส) เป็นสเตจเรซระดับ UCI World Tour ที่มีความสำคัญมากๆ กับนักปั่นที่อยากจะลงตูร์ เดอ ฟรองซ์ สำคัญพอๆ กับรายการไครทีเรียม ดู ดอฟิเนที่พึ่งจบไป ต่างกันตรงที่ดอฟิเนจะเน้นเส้นทางภูเขาเหมาะกับตัวเต็ง GC แต่ในสวิสนี่จะมีทั้งสเตจสปรินต์และ Time Trial ถึงสองสเตจซึ่งเหมาะกับขาแรงอย่างคาเวนดิช ซากาน โทนี มาร์ติน ฟาเบียน แคนเชอลารา และแบรด วิกกินส์
อย่างไรก็ดีทั้งดอฟิเนและทัวร์เดอสวิสนั้นเป็นโอกาสสุดท้ายที่นักปั่นจะได้โชว์ฟอร์มให้ทั้งสปอนเซอร์และผู้จัดการทีมเห็นว่าเขาพร้อมจะลงรายการใหญ่หรือเปล่า ซึ่งตอนนี้ดูจากผลงานแล้วตัวเต็งชื่อดังหลายๆ ก็ทำผลงานได้ดีทีเดียวครับ ขณะเดียวกันก็มีตัวเต็งชื่อดังอีกหลายๆ คนที่อยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงว่าจะติดโผทีมตูร์หรือเปล่า มาดูข่าวดีกันก่อนกับย้อนรอยผลงานแชมป์ 4 สเตจแรก
สเตจ 1: ผู้ชนะ Tony Martin (OPQS)
สเตจ 1 Individual Time Trial ระยะ 9.4 กิโลเมตร มาร์ตินจบสเตจด้วยเวลา 13.48 นาที นำหน้าทอม ดูโมลิน (Giant-Shimano) +6 วินาที และอันดับสาม โรฮาน เดนนิส (Garmin-Sharp) +13 วินาที คว้าเสื้อเหลืองไปครอง
สเตจ 2: ผู้ชนะ Cameron Meyer (Orica-GreenEdge)
สเตจสองตกเป็นครองเบรคอเวย์ที่พุ่งออกจากกลุ่มที่ 30 กิโลเมตรสุดท้าย และหนีขึ้นเขานำห่าง peloton ไปได้ในที่สุด คาเมรอน เมเยอร์จาก OGE สปรินต์เอาชนะคู่แข่งเบรคอเวย์ฟิลลิป ไดก์นัน (Sky) และลาร์รี วาร์บาส (BMC) ครองแชมป์สเตจ
สเตจ 3: ผู้ชนะ Peter Sagan (Cannondale)
ซากานขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อ Tour de Suisse เพราะเขาเก็บแชมป์สเตจจากรายการนี้ได้แทบทุกปี และปีนี้ก็เป็นอีกครั้ง สเตจ 3 มีเส้นชัยบนยอดเขาทำให้สปรินเตอร์หลายๆ คนหลุดกลุ่ม peloton ไปแต่ซากานซึ่งไต่เขาได้ดีเกาะมาได้และสปรินต์เอาชนะไมเคิล อัลบาสินี (OGE) และเซอร์จิโอ เฮนาว (Sky)
สเตจ 4: ผู้ชนะ Mark Cavendish (OPQS)
สเตจล่าสุดเมื่อคืนเป็นทางราบสำหรับสปรินเตอร์โดยเฉพาะและแชมป์สเตจี้ตกเป็นของมาร์ค คาเวนดิช (OPQS) ที่มีมาร์ค เรนชอว์ช่วยลีดเอาท์ ขึ้นแซงฮวน โฮเซ โลบาโต (Movistar) และปีเตอร์ ซากาน (Cannondale) ไปได้หลายช่วงตัว จบสเตจ 4 โทนี มาร์ติน เพื่อนร่วมทีมยังคงนำอันดับเวลารวมอยู่
ผลการแข่งล่าสุด
ข่าวร้าย: คอสต้า / วิกกินส์/ เชล็ค
ถึงตัวเต็งชื่อดังคนอื่นๆ จะทั้งครองเสื้อเหลืองและคว้าแชมป์สเตจ แต่สองคนที่น่าจะต้องเร่งทำผลงานคือรูย คอสต้า (Lampre) และแบรดลีย์ วิกกินส์ครับ คอสต้ายังไม่ชนะอะไรเลยตั้งแต่ครองแชมป์โลกเสือหมอบ (คำสาปเสื้อสีรุ้ง?) จริงๆ แล้วรายการนี้เป็นถิ่นของคอสต้าเพราะเขาเคยได้แชมป์รายการมาแล้วสองครั้ง ปีนี้คอสต้าบอกว่าเป้าหมายคือเป็นตัวเต็งในตูร์ เดอ ฟรองซ์ แต่จากฟอร์มตอนนี้แล้วมันอาจจะเป็นฝันที่ไกลเกินเอื้อมไปนิดนึง
แบรดลีย์ วิกกินส์เองถึงจะออกมาบอกออกสื่อว่าทีม Sky ไม่เลือกเขาลงตูร์แล้ว แต่ ผจก.ทีม เดวิด เบรลส์ฟอร์ดก็บอกว่าทีมยังไม่สรุปว่าใครจะได้ลงบ้าง ซึ่งถ้าวิกกินส์ทำผลงานเข้าตากรรมในรายการนี้ก็อาจจะยังมีลุ้น ทว่าดูเหมือนตอนนี้เขากำลังเจอปัญหาใหญ่เพราะเวลาในอันดับ GC หลุดลงไปที่ +2:25 นาที หลังจากที่ล้มบาดเจ็บในสเตจ 3 และติดเชื้อหวัดระหว่างแข่ง ทีม Sky จะสรุปรายชื่อนักปั่นในตูร์ทั้ง 9 คนหลังแข่งรายการนี้จบ แต่จากสถานการณ์ตอนนี้เป็นไปได้ว่าวิกกินส์อาจจะหลุดโผจริงๆ แล้วหละครับ
อีกคนที่กำลังเจอปัญหาหนักคือแอนดี ชเล๊ค “เอซ” ของทีม Trek Factory Racing ซึ่งดูเหมือนจะยังหาฟอร์มไม่เจอถึงขนาดที่ว่าผู้จัดการทีมลูคา เกอร์ซิเลียนา ฟอร์มเชล็คตอนนี้แย่เกินกว่าจะลงแข่งระดับแกรนด์ทัวร์ได้ และนักปั่นอย่างคอนทาดอร์ หรือฟรูมนั้นเหนือกว่าชเล็คหลายขั้น! ถ้าแอนดี้จะลงตูร์ เราหวังอย่างมากก็แค่แชมป์สเตจ
“If Andy does a good Tour of Switzerland and comes to the Tour de France, it will be more with the aim of targeting stages than contending for the overall. Guys like Froome and Contador are a long way ahead of him.”
ก็น่าเห็นใจสำหรับแฟนๆ แอนดี้ซึ่งเราหวังทุกปีว่าเขาจะกลับมาแกร่งเหมือนเดิม เชล็คโดนหั่นเงินเดือนไปแล้วเมื่อสิ้นฤดูกาลก่อน และถ้ายังไม่รีบทำผลงานก็มีสิทธิที่จะไม่ได้ต่อสัญญาในฤดูกาลต่อไปเมื่อ Trek มีเอซขาแรงคนใหม่อย่างโรเบิร์ต คิเซอร์ลอฟสกีวัย 27 ปีที่พึ่งจะคว้าอันดับ 10 ในจิโร และฮูเลียน อเรดอนโดนักไต่เขาขาแรงที่ทำผลงานได้ดีมากในปีนี้เช่นกัน
