สเตจ 2 ใน Tour de France เมื่อวานนี้ทำให้ผมมานั่งคิดว่า สนามใหญ่แบบนี้มันมีอะไรเกิดขึ้นพร้อมกันเยอะจริงๆ และมีหลายประเด็นที่น่าสนใจที่อาจจะพูดได้ไม่ครอบคลุมในโพสต์สรุปสเตจ เลยคิดว่าถ้าเราลองเขียนพูดคุยแบบเป็นกันเองถึงช็อตสำคัญๆ ในแต่ละสเตจก็น่าจะสนุกดี เลยลองทำซีรีย์ Tour Tactics ขึ้นมาครับ
ซีรีย์บทความนี้จะเป็นความเห็น (ส่วนตัว) ของผมต่อกลยุทธ์ของทีมต่างๆ ในการแข่งจันรวมถึงข้อสังเกตที่อาจจะตกหล่นไปในแต่ละสเตจ การแข่งขันจักรยานเป็นอะไรที่ซับซ้อนครับ ในแต่ละทีมก็ไม่ได้มีเป้าหมายเดียว บางทีมอาจจะอยากได้ทั้งแชมป์สเตจ ทั้งทำเวลาดีๆ ให้ตัวเต็ง GC หรือต้องเก็บแต้มภูเขา แต้มเจ้าความเร็ว ต้องตัดสินใจตลอดเวลาตามสถานการณ์ว่าเราจะวางหมากยังไง จะเดินเกมยังไง ลองมาดูประเด็นที่น่าสนใจจากเมื่อวานกัน
1. ปีเตอร์ ซากานคือยอดมนุษย์
https://twitter.com/rouleurmagazine/status/617710297818730496/photo/1
อะไรๆ ก็ดูดีไปหมดสำหรับ Tinkoff ในสเตจเมื่อวานนี้ เพราะทีมพาคอนทาดอร์และซากานหนีเข้ากลุ่มหน้าได้สำเร็จ ทิ้งห่างทั้งคู่แข่ง GC, สปรินเตอร์ และคนที่จะชิงคะแนนเสื้อเขียว แต่ใครหรือจะหนีเทพีแห่งโชคชะตาได้ ซากานยางรั่วที่กิโลเมตร 14.9 จนหลุดกลุ่มหน้า เป็นจังหวะที่ EQS กำลังโกยแล่บ เร่งความเร็วกันสุดชีวิตด้วยเหมือนกัน เพราะสองทีมนั้นก็อยากทิ้งห่างคินทานา และนิบาลิ…
แต่ซากานกลับมาเข้ากลุ่มได้ในระยะทางไม่ถึง 2 กิโลเมตรครับ ในระยะห่าง 2000 เมตรนั้น เขาทำเวลาตีตื้นขึ้นมาอย่างน้อยๆ 20-30 วินาที สู้กับนักปั่นระดับเอซของทีมที่แข็งที่สุดใน peloton… ไม่มีเหตุผลที่คอนทาดอร์จะต้องรอเพื่อนร่วมทีม (สุดที่รัก) เพราะเป้าหมายของทีมคือเสื้อเหลือง ไม่ใช่เสื้อเขียว
แต่ซากานไม่ได้แคร์… หลังจากกลับมาตามกลุ่มทันที่กิโลเมตร 12 เขาตามประกบลีดเอาท์ของ Lotto และ Quickstep สุดท้ายขึ้นมาสปรินต์ดวลกับไกรเปิลแล้วแพ้กันแค่เสี้ยวล้อ นี่ถ้าไม่แข็งจริง น้อยคนใน pro peloton จะทำได้อย่างเขาครับ ถ้า Tinkoff อยากได้เสื้อเหลืองและเขียว ผมว่ามีลุ้นทีเดียวดูจากฟอร์มซากานแบบนี้ที่ไม่ต้องการผู้ช่วยเลย ล้มเอง ไล่เอง เก็บแต้มเอง #เยี่ยม
2. Quickstep #เครียดหนักมาก
ดูจะเป็นทีมที่มีปัญหาอยู่เรื่อยๆ สำหรับ Etixx-Quickstep ครับ ว่ากันจริงๆ ทีมเดินเกมได้สมบูรณ์แบบมากในครึ่งหลัง แต่มีประเด็นที่ไม่เข้าใจเหมือนกันคือ ทำไมต้องขึ้นมาลากกลุ่มอยู่ทีมเดียวในสถานการณ์นั้น? EQS ขึ้นนำตั้งแต่ราว 20 กิโลเมตรสุดท้าย จริงๆ ควรจะเป็นงานของ Tinkoff และ Sky ที่ต้องหนีห่างตัวเต็ง GC คนอื่น แล้วค่อยให้ลีดเอาท์ Lotto กับ EQS ดวลกันที่ใกล้ๆ เส้นชัยก็ได้
#TDF2015 Stg. 2: @MarkCavendish 4th, hard teamwork splits peloton! http://t.co/aP3xnQjarj #TDWSPORT pic.twitter.com/7USKmvSE8h
— Deceuninck-QuickStep (@deceuninck_qst) July 5, 2015
ทำให้นึกถึง Omloop Het Niewsblad ที่ Quickstep 4 คนรุม Sky คนเดียว แต่ไม่ชนะ…
แต่ถึงกระนั้นผมว่า Quickstep ก็คงตัดสินใจยากเหมือนกัน เป้าหมายคือแชมป์สเตจให้คาเวนดิช แต่อูรานก็ดันอยู่ในกลุ่มด้วย เพราะงั้นทีมก็มีส่วนได้ส่วนเสียกับอันดับ GC ก็ต้องช่วยทำงานหนักๆ เหมือนกัน แล้วก็ยังมีมาร์ตินที่คอยจะเก็บเสื้อเหลืองอยู่ หวังพึ่งคาเวนดิชให้อย่างน้อยตัด time bonus แคนเชอลารา กลายเป็นว่าเป็นทีมที่มี 3 ภารกิจในสเตจเดียว ซึ่งสุดท้ายมันกลับมาแว้งกัดตัวเองครับ
เห็นชัดว่าลีดเอาท์ Quickstep หมดแรงในกิโลเมตรสุดท้าย บังคับให้เรนชอว์ต้องเปิดสปรินต์ตั้งแต่ 4-500 เมตร คาเวนดิชเลยต้องรีบออกสปรินต์ด้วย ก็หมดแรงไป เพราะเกินระยะทำการ นี่คือปัญหาของทีมที่มีหลายเป้าในสนามเดียว ก็ต้องประนีประนอมไปไม่สามารถดันเป้าใดเป้าหนึ่งได้จนสุด
3. BMC ตัดสินใจลำบาก
สเตจ 2 เป็นวันที่ทั้งน่าดีใจและเสียใจสำหรับ BMC โรฮาน เดนนิส เสียเสื้อเหลือง ในขณะที่ทีเจย์ทำเวลานำคู่แข่ง GC หลายคน
โดยปกติทีมจะต้องปกป้องนักปั่นที่ครองเสื้อเหลืองไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามจริงไหมครับ? แต่สำหรับ BMC ทีมตกลงกันชัดเจนว่า ทีเจย์คือหัวหน้า และเป้าหมายหลักคืออันดับ GC อย่างอื่นสละทิ้งได้
และเป็นโรฮานที่ทีมสละทิ้ง…
ช่วงที่ peloton กำลังสับสนอลหม่านท่ามกลางสายฝนและอุบัติเหตุกลางสเตจ เดนนิสหลุดกลุ่มไปแค่คนเดียว แต่เพื่อน BMC ทั้งหมดอยู่ในกลุ่มหน้า ทีเจย์ให้สัมภาษณ์ใน Cyclingnews ว่าทีมต้องตัดสินใจว่าจะเอายังไง เพราะจังหวะนั้นกลุ่มหน้าเริ่มทำเวลาห่างคู่แข่งข้างหลังแล้ว ช่วงแรก BMC ไม่ช่วยกลุ่มหน้าทำงานลากกลุ่มเลย เพราะคิดจะรอเดนนิส แต่เมื่อตัวเต็งคนอื่นเริ่มเดินเครื่อง ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว และเป็นโอกาสที่ทีเจย์จะทำเวลาห่างตัวเต็งคนอื่นด้วย สุดท้ายคือต้องปล่อยเดนนิสไว้กลุ่มสอง แล้วช่วยทีเจย์ทำเวลาให้ดีที่สุด
มองอีกมุมคือ การที่ BMC เสียเสื้อเหลืองก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรครับ (แน่นอน แย่สำหรับเดนนิส) แต่ก็ช่วยลดภาระไม่ให้ทีมต้องทำงานหนักไล่จับเบรคอเวย์ในวันต่อๆ ไป เซฟแรงไว้เล่นกันจริงๆ สัปดาห์หลังดีกว่า
4. เอาใจช่วยแฮนเซ็น
ว่ากันว่าเป็นนักปั่นจักรยานอาชีพก็ไม่ต่างอะไรกับเป็นทหารต้องจากบ้านไปปีละหลายเดือนครับ เมื่อเช้าตอนทำบทความ Tour de France สเตจ 2 ก็ค้นรูปสต๊อกของช่างภาพที่เราใช้บริการ เจอรูปนี้ ทั้งซึ้งและทั้งเศร้า
เป็นจักรยาน Ridley ของอดัม แฮนเซ็น นักปั่นคนเดียวใน pro peloton ที่ปั่นสนามแกรนด์ทัวร์ต่อกันเยอะที่สุด 12 รายการรวดโดยไม่มีพัก ไม่มีข้าม
คิดเป็นเวลา 36 สัปดาห์ หรือ 252 วัน หรือ 6040 ชั่วโมง…
…ที่ไม่ได้อยู่กับครอบครัว
เมื่อวานแฮนเซ็นล้มจนหัวไหล่หลุดระหว่างรบรันพันตูกับคู่แข่ง 198 คน แต่เจ้าตัวบอกว่าไม่มีปัญหา จะแข่งต่อจนจบ
AC dislocation. Same shoulder as 3 weeks ago. Was told its going to be the most painful 3 weeks 4 me. I eat pain for breakfast. Bring it on!
— Adam #Vegan Hansen (@HansenAdam) July 5, 2015
#นายแน่มาก!
ดี ชอบครับ
ขอบคุณครับ ชอบมาก อยากให้เขียนแนวนี้อีกเรื่อยๆ ทำให้เข้าใจกลยุทธ์การแข่งมากขึ้นครับ
ชอบครับผม ดูแล้วมาวิเคราะห์มันช่วยพัฒนาทักษะทางอ้อมได้ดีมากๆ ทางหนึ่งครับ
แต่ก็เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ :)