คำว่า “ที่สุดในโลก” นี่น่าจะมีเจ้าของได้แค่คนเดียวจริงไหมครับ? แต่มันไม่ใช่โลกจักรยาน! สัปดาห์ก่อน Specialized อ้างว่าเสือหมอบ Venge ViAS เป็นจักรยานที่เร็วที่สุดในโลก เมื่อคืนนี้เรามีผู้ท้าชิงอีกหนึ่งคนจาก Trek ที่อ้างประโยคเดียวกัน กับการเปิดตัวเสือหมอบ Trek Madone 9 ซึ่งเปลี่ยนไปจาก Madone คันเก่าหน้ามือเป็นหลังมือ เราเห็นเสือหมอบคันนี้madมาบ้างแล้วตามการแข่งขันโปรทัวร์ แต่มาดูสเป็คกันดีกว่าว่ามันมีอะไรใหม่บ้าง
The All new Aero Madone Trek Madone คันก่อนหน้าเปิดตัวมาในปี 2013 ยุคที่เสือหมอบแอโร่กำลังเริ่มทำตลาด ผิดกับหลายๆ เจ้าที่แยกไลน์เสือหมอบเป็นหมอบแอโร่ หมอบน้ำหนักเบา Trek พยายามรวมทุกอย่างไว้ในคันเดียว น้ำหนักไม่เบามาก แต่ก็ไม่หนักเหมือนหมอบแอโร่เต็มตัว ความแอโร่ก็มีระดับหนึ่งแต่ก็ไม่สุดโต่งจัดเต็มเหมือนหมอบแอโร่ของแบรนด์อื่นเช่นกัน
แต่ตอนนี้ดูเหมือน Trek จะแบ่งสายจักรยานชัดเจนเต็มตัว ไม่ผสมอีกต่อไปครับ Trek มีเฟรม Emonda ที่เน้นน้ำหนักเบาและสติฟ มี Domane สำหรับการปั่นสบาย ซับแรงกระแทกดี และเปลี่ยนโฉม Madone ใหม่เป็นหมอบแอโร่เต็มตัว 100%
Trek อ้างว่า Madone 9 ที่มากับเบรค แฮนด์ สเต็ม แบบ integrated พร้อมกับจุดซับแรงกระแทก ISOSpeed เป็นเสือหมอบแอโร่ที่เร็วที่สุดในโลก แต่ก็ยังปั่นได้สบายไม่เหมือนเสือหมอบแอโร่อื่นๆ ที่มักจะมีความกระด้าง ทิ้งท้ายด้วยว่าน้ำหนักเฟรมนั้นเบากว่าเสือหมอบแอโร่ทั่วๆ ไป
จากผลการทดสอบในอุโมงค์ลม ทีมพัฒนา Trek พบว่าเฟรม Madone 9 ลู่ลมดีกว่า Giant Propel, Cervel S5 และ Felt AR (แต่ยังไม่ได้ทดสอบกับ Specialized S-Works Venge รุ่นเก่า หรือ Venge ViAS ที่เพิ่งเปิดตัวไปสัปดาห์ที่แล้ว — Trek อ้างว่า Venge รุ่นเก่าเทียบเรื่องความแอโร่ไม่ได้กับเฟรมตัวอื่นๆ ในตลาด)
แล้ว Trek ปรับปรุง Madone 9 จากเดิมยังไงบ้าง?
Aero Tube Profile
Trek เป็นผู้ผลิตจักรยานรายแรกๆ ที่ใช้รูปทรงท่อแอโรไดนามิกแบบ Kamn Tail หรือทรงหยดน้ำหัวตัด ซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามีความลู่ลมไม่แพ้รูปทรงหยดน้ำ (teardrop) แต่ช่วยรักษาคาแรคเตอร์ของเฟรมจักรยานได้ดีกว่า ด้วยที่หน้าตัดท่อมีความกว้างกว่าทำให้ผู้ผลิตสามารถรักษาความสติฟ พร้อมๆ กับใช้วัสดุบางลงเพื่อลดน้ำหนัก เฟรม Madone 9 พัฒนาต่อยอดจากคอนเซปต์นี้โดยใช้ท่อทรง KVF Tubing ในสัดส่วนที่สุดโต่งกว่าเดิม เพื่อให้เฟรมลู่ลมที่สุดในทุกทิศทางลมปะทะ
ซ่อนสายอย่างล้ำๆ
Trek ทำให้คำว่า “Integrated Cable” หรือการซ่อนสาย (บางส่วน) เป็นเรื่องล้าหลังไปซะแล้ว เพราะในเฟรม Madone 9 Trek ออกแบบระบบซ่อนสายและร้อยสายใหม่จนไม่มีสายเคเบิ้ลโผล่มาเลยแม้แต่เส้นเดียว มีสายยื่นออกมาแค่ส่วนเดียวเท่านั้นคือสายเกียร์ที่โผล่ไปยึดกับตีนผี ดูเผินๆ นึกว่าจักรยานคันนี้ใช้ระบบเกียร์ไร้สายครับ
เบรค Direct Mount ซ่อนไปกับเฟรม
อีกส่วนที่ Trek พยายามซ่อนให้มิดชิดเพื่อลดแรงต้านลมให้ได้มากที่สุด ก็คือเบรคหน้าและเบรคหลัง ซึ่งแทนที่จะซ่อนไว้ใต้กระโหลก หรือหลังตะเกียบเหมือนแบรนด์อื่นๆ Trek ใช้วิธีออกแบบเบรคใหม่ที่ทำมาเพื่อเฟรม Madone 9 โดยเฉพาะ ให้แนบเว้าเข้าไปกับบริเวณท่อคอ ส่วนเบรคหลังก็ทำให้เป็นโปรไฟล์เดียวกับท่อ seatstays ไม่มีส่วนเว้ายื่นออกมาเกินความจำเป็น และเดินสายเบรคภายในจักรยานทั้งหมด เบรคใช้การยึดแบบ Direct Mount แต่ไม่สามารถใช้เบรคของยี่ห้ออื่นๆ ในตลาดได้
ผู้ใช้สามารถปรับระยะเบรคตามขนาดความกว้างขอบล้อหรือระยะสึกของผ้าเบรค ได้ +/- 6mm
เห็นเบรคฝังเว้าไปกับท่อคอแล้วอาจจะสงสัยว่าเวลาเราเลี้ยวรถ สายเบรค center pull มันไม่ติดหรือ? Trek แก้ปัญหานี้โดยทำประตูเล็กๆ (Vector Wings) ที่เปิดได้สองด้านไว้ด้านหน้าท่อคอ ซึ่งประตูจะเปิดออกเวลารถเลี้ยว สายเบรคก็จะไม่ติด
แฮนด์-สเต็มชิ้นเดียว
อีกหนึ่งเทรนด์ที่เราเห็นเยอะมากในจักรยานเสือหมอบแอโร่รุ่นใหม่ๆ ก็คือการใช้แฮนด์และสเต็มชิ้นเดียวแบบ Integrated ไม่ว่าจะเป็น Cervelo S5, 2016 Scott Foil, Specialized Venge ViAS, หรือ Canyon Aeroad CF SLX ต่างก็นิยมใช้แฮนด์ชิ้นเดียวหมด เหตุผลคือส่วนหน้าของรถ (ค๊อกพิท) เป็นส่วนที่ปะทะลมและสร้างแรงต้านเยอะเป็นอันดับต้นๆ การทำโปรไฟล์หน้ารถให้เพรียวลมที่สุดจึงมีผลต่อความลู่ลมไม่น้อย Trek อ้างว่าการซ่อนสายเบรคและเกียร์ทั้งหมด (ซึ่งร้อยสายผ่าน headset) ช่วยลดแรงต้าน (Drag) ไป 40 กรัม
แฮนด์ Bontrager รุ่นนี้ใช้เมาท์คอมพิวเตอร์จักรยานยี่ห้ออื่นไม่ได้ แต่มี mount ยึดของ Bontrager เองแถมติดรถมาให้ด้วย
Control Center
เมื่อมองไม่เห็นสายเคเบิ้ลแล้วเราจะปรับสายเกียร์สายเบรคยังไง? Trek ใช้พื้นที่บริเวณด้านบนของท่อล่าง (downtube) ไว้บรรจุทริมสับจานหน้า สำหรับชุดเกียร์จักรกล และใช้ตำแหน่งเดียวกันใส่แบตเตอรี่ Di2 สำหรับเกียร์ไฟฟ้า
ที่ด้านล่างของท่อล่างเป็นตำแหน่งยึดกระติกน้ำที่ Trek อ้างว่าทดลองอยู่ 140 กว่าตำแหน่ง จนได้จุดยึดกระติกที่ลดแรงต้านลมได้ 5.5%
เสือหมอบแอโร่ที่ไม่กระด้าง
ปัญหาความกระด้าง กระเทือน กระแทกของตัวเฟรมเป็นอะไรที่พบได้เยอะในเฟรมเสือหมอบแอโร่รุ่นแรกๆ ซึ่งเป็นผลจากการใช้รูปทรงท่อแอโร่ทรงหยดน้ำเรียวรี ที่ให้ตัวแนวตั้ง (Vertical Flex) ได้น้อย
ใน Trek Madone 9 ทีมพัฒนาใช้เทคโนโลยี ISO Speed Decoulper ที่ใช้กับเสือหมอบตระกูล Domane พูดอย่างง่ายๆ ISO Speed ก็คือแกนหมุน (pivot) ที่อยู่ตรงรอยต่อระหว่างท่อนั่งและท่อนอน แกนหมุนที่เสริมเข้ามาช่วยให้ท่อนั่งให้ตัวในแนวตั้งได้อิสระ ลดแรงกระเทือนจากพื้นถนนได้ไม่น้อย
ISO Speed ใช้ได้ผลจริงในจักรยาน Domane ซึ่งก็น่าจะใช้ได้ดีใน Trek Madone 9 ด้วยเช่นกันครับ
ราคา/ วันวางจำหน่าย
Trek Madone 9 มีสองแบบ และมีเวอร์ชันสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ เริ่มวางขายแล้ว (ต่างประเทศ)=
- Madone 9 H1: Race Fit ท่อคอต่ำ,ใช้คาร์บอน OCLV 700, Made in US
- Madone 9 H2: Standard Fit ท่อคอสูงกว่า H1, ใช้คาร์บอน OCLV600, Made in Asia
- Madone 9 WSD: ฟิตผู้หญิง
- Frameset H1 ราคา: US$5,780
- Frameset H2 ราคา: US$4,730
อ่านรีวิวเบื้องต้นของสื่อต่างประเทศได้ตามลิงก์ข้างล่างครับ
- Bikeradar: Trek Madone 9 Series First Ride Review
- Bicycling: First Look and Ride: Trek Madone 9 2016
- Road.cc: Trek Madone 9 First Ride Review
- Official: Trekbikes.com
