หลังจากที่ ASO ผู้เป็นเจ้าของ Tour de France และ Vuelta a Espana ได้ออกมาประกาศว่าตั้งแต่ปี 2017 การแข่งของตนทั้งหมดจะเป็นการแข่งระดับ UCI hors catégorie แทนที่จะเป็น UCI WorldTour เพียงไม่กี่วัน UCI ก็ประกาศตอบโต้ว่าการปฏิรูปการแข่งขันจักรยานอาชีพจะมีเดินหน้าต่อไป
” การปฏิรูปการแข่งขันจักรยานอาชีพของ UCI (สมาพันธ์ฯ) จะทำให้กีฬาจักรยานอาชีพพัฒนาต่อไปได้อย่างยั่งยืนและจะปกป้องผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเดิมทุกฝ่าย ตลอดสองปีที่ผ่านมา สมาพันธ์ฯได้พิจารณามติต่าง ๆ ร่วมกับผู้จัดการแข่งขัน ทีมจักรยานอาชีพ นักกีฬาจักรยานอาชีพ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจำนวนมากอย่างต่อเนื่องและรอบคอบ อีกทั้งมติที่สมาพันธ์ฯได้แถลงไปยังผ่านการอนุมัติจากทั้งคณะกรรมการบริหารสมาพันธ์และสภาจักรยานอาชีพ (PCC) แล้ว ดังนั้นสมาพันธ์ฯจึงยืนยันว่าจะปฏิรูปการแข่งขันต่อไปตามที่ได้แถลงการณ์ไว้ ทางสมาพันธ์ฯเชื่อว่าการปฏิรูปนี้จะทำให้เกิดผลประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง “
จะเห็นได้ว่าทั้ง UCI และ ASO ต่างก็ไม่ลดราวาศอกในการช่วงชิงอำนาจครั้งนี้ หากทั้งสองฝ่ายไม่ยอมเปลี่ยนกติกาและนโยบายใด ๆ จนกระทั่งปี 2017 จะทำให้ Tour de France มีทีมระดับ WorldTour เข้าแข่งขันได้สูงสุด 13 ทีมจาก 18 ทีม หรืออาจจะน้อยกว่านั้น เพราะกฎเขียนไว้เพียงจำนวนสูงสุดเท่านั้นว่าทีมระดับ WorldTour ต้องไม่เกิน 70% ของจำนวนทีมที่ลงแข่ง แต่ ASO อาจเชิญไม่ถึง 70% ของทั้งหมดก็ยังได้ ทำให้การซื้อไลเซนส์ WorldTour ราคาแพงนั้นไม่ได้เป็นบัตรผ่านเข้า Tour de France อีกต่อไป
ทั้งนี้ทั้งนั้น คำประกาศของ ASO อาจเป็นเพียงการขู่และการหยั่งเชิงทางการเมืองเท่านั้น เนื่องจากในกฎของ UCI ได้กำหนดไว้ว่าการแข่งสเตจเรซในระดับ HC นั้นต้องกินระยะเวลาไม่เกิน 5 วัน และสนามวันเดียวก็ยาวได้ไม่เกิน 200 กม. (Paris-Roubaix 253.5km, Liège-Bastogne-Liège 253km, La Flèche Wallonne 205.5km) ดังนั้นเมื่อถึงเวลาลงทะเบียนการแข่ง UCI ก็สามารถเล่นไม้แข็งโดยบีบบังคับให้ ASO ลงทะเบียนงานแข่งในระดับ WorldTour ตามเดิมก็ทำได้ และ ASO จะไม่ยอมลงทะเบียนการแข่งกับ UCI แล้วไปจัดการแข่งนอกปฏิทินของ UCI ก็ไม่ได้ เพราะทีมใน WorldTour ไม่สามารถลงแข่งรายการที่ไม่ได้รับรองโดย UCI ได้ ดังนั้นในมุมกลับแล้วจะให้ ASO จัดการแข่งโดยไม่มีทีมระดับ WorldTour ไปร่วมเลยก็ไม่ได้อีกเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ประธานสมาพันธ์คนปัจจุบันอย่างไบรอัน คุกสันก็มีบุคลิกประนีประนอมกว่าเมื่อเทียบกับประธานคนก่อนอย่างแพท แมคเควดที่พร้อมจะหักแต่ไม่ยอมงอ ดังนั้นแนวโน้มที่ DT คาดการณ์คือ ASO กับ UCI น่าจะได้เจรจาหาทางออกร่วมกันก่อนถึงปี 2017
ไบรอัน คุกสัน กล่าวว่า “หลังการประชุมเรื่องการปฏิรูปนี้ที่บาร์เซโลน่าเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ผู้จัดการแข่งรายอื่น ๆ อย่าง RCS Sport (Giro d’Italia, Tirreno-Adriatico, Milan-San Remo, etc.), Flanders Classic (Tour of Flanders, Omloop Het Nieuwsblad, Gent-Wevelgem, etc.), และ InfrontRingier Sports (Tour de Suisse) ต่างก็เห็นด้วยกับการปฏิรูปครั้งนี้ครับ ผมก็ไม่เข้าใจ ASO เหมือนกัน ตอนท้ายการประชุมมีช่วงสำหรับคำถามและการอภิปราย พวกเขาก็ไม่ได้พูดหรือโต้แย้งอะไรครับ ผมก็เข้าใจเขานะว่าเขามีงานแข่งของเขา พวกเขาก็จัดมันได้ดี และก็ไม่อยากเสียสิทธิ์ในการควบคุมการแข่งที่เขาเป็นเจ้าของไป แต่ก็ต้องเข้าใจอีกเช่นกันว่าหน้าที่ของสมาพันธ์ฯคือการบาลานซ์ผลประโยชน์ให้กับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะผู้จัดการแข่ง นักปั่น ทีม หรือสปอนเซอร์ ไม่ใช่แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งครับ”
ทางด้านโจนาธาน วาเทอร์ เจ้าของทีม Cannondale-Garmin ให้สัมภาษณ์กับ VeloNews ว่า “ผมว่า ASO นี่หัวโจกเลยครับ ไม่มีทีมระดับท็อปทีมไหนอยู่ได้โดยไม่ลงแข่งตูร์อยู่แล้ว สปอนเซอร์เงินหนาทุกรายที่เข้ามาในการแข่งขันอาชีพก็เพื่อตูร์ทั้งนั้น ถ้าทีมไหนเกิดไม่ได้ลงตูร์ขึ้นมา ก็แทบจะบอกลากับสปอนเซอร์ได้ตอนนั้นเลย เรื่องนี้น่ากลัวมากครับ ขอแค่ ASO เกิดไม่ชอบคุณขึ้นมา เขาก็สามารถทำคุณและเพื่อนตกงานได้ทีละเป็นร้อย ๆ คนเลย”
(DT Note: ในการแข่ง Paris-Nice ปี 2008 ASO ก็เคยไม่ยอมลงทะเบียนการแข่งกับ UCI ProTour มาแล้ว และปฏิเสธ Astana ไม่ให้เข้าร่วมแข่งขันด้วย เพราะทั้งโค้ชทั้งนักปั่นหลายคนถูกสอบสวนใน Operación Puerto)
“ถึง Velon จะสามัคคีกันแค่ไหน แต่ถ้าจะให้ทุกคนรวมกันบอยคอตตูร์นี่ผมว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยครับ เพราะทำอย่างนั้นก็เท่ากับทรยศสปอนเซอร์ที่จ่ายเงินให้กับแต่ละทีม อันที่จริงสัญญาสามปีก็ประนีประนอมลงมาแล้ว ถ้าในมุมมองของทีมเราอยากได้สักสิบปีด้วยซ้ำ เหมือนเอ็นบีเอน่ะครับ แต่เราก็เข้าใจว่าคนจัดการแข่งคงไม่ชอบ สุดท้ายก็เลยพบกันครึ่งทางที่สามปี แล้วก็ตกลงกัน ปิดประชุมได้ แต่พอ ASO ประกาศแบบนี้ก็เท่ากับบอกว่า ‘เราไม่เห็นด้วยกับเสียงข้างมาก ลาก่อน’ นั่นแหละครับ” วาเทอร์กล่าวเสริม
ทางด้านนักปั่นก็มีออกมาแสดงความหงุดหงิดกันบ้างเมื่ออยู่ดี ๆ ก็กลับได้รับผลกระทบจากการงัดข้อทางการเมืองครั้งนี้ โรฮาน เดนนิส อดีตเจ้าของ Hour Record คนก่อนวิกกินส์ทวีตว่า “ถ้าตูร์จะเป็น HC งั้นย้ายจิโรมากรกฎาเลยดีไหม นักปั่นน่าจะสนใจลงแข่งมากกว่าอีกนะ”
https://twitter.com/RohanDennis/status/679251039279824896
