Giro Stage 12: อูรานคนใหม่ (ไวกว่าเดิม)

หนึ่งปีก่อนถ้าบอกว่าริกโอเบอร์โต อูรานคือนักปั่น TT ฝีเท้าฉกาจทุกคนคงกลั้นหัวเราะไม่อยู่ แต่ระยะเวลาหนึ่งปีก็สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้หลายๆ อย่างเช่นกัน ในสเตจ 12 จิโรเมื่อคืนนี้อูรานคว้าแชมป์สเตจ Time Trial ทำเวลาห่างคู่แข่ง GC ทุกคนร่วมนาทีกว่า เขี่ยเวลาของดิเอโก อูลิซซี (Lampre) นักปั่นที่ทำเวลาได้ดีที่สุดในช่วงแรกของสเตจ +1.17 นาที

ส่วนผู้นำเวลารวมคาเดล เอวานส์ทำเวลาได้ไม่ดีมากตามหลังอูราน +1:34 นาที ถึงจะเข้าเส้นชัยด้วยเวลาอันดับสามแต่ก็เสียเสื้อชมพูให้อูรานไป คู่แข่งคนอื่นๆ อย่างพอซโซวิโว (AG2R), เคลเดอร์แมน (Belkin) และมาจกา (Tinkoff) ทำเวลาได้ไม่หลุดกันมาก แต่ที่หลุดโผไปเลยคือไนโร คินทานา (Movistar) ซึ่งเสียเวลาไปร่วม 3:29 นาทีเพราะติดไข้ระหว่างแข่ง หลุดไปอยู่อันดับ 6 ในตารางผู้นำเวลารวม

DT Comment: เราเรียกการปั่นจับเวลาว่า “The Race of Truth” เพราะมันบอกถึงความสามารถของนักปั่นอย่างแท้จริง ไม่มีทีมช่วย ไม่มี peloton ให้บังลม มีแต่ตัวเองและกำลังต่อสู้กับเวลา ผมค่อนข้างประทับใจกับความสามารถของอูรานที่เปลี่ยนตัวเองได้เร็วมากในเวลาหนึ่งปี Specialized ทุ่มงบไม่อั้นเพื่อพัฒนาทักษะการสู้กับอากาศของอูรานไม่ว่าจะเป็นการจับเข้าทดสอบท่าปั่นในอุโมงก์ลม และคอร์สแอโรไดนามิคแบบส่วนตัว เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เขาไม่เคยได้ระหว่างที่อยู่กับทีม Sky เพราะไม่ใช่หัวหน้าทีมเหมือนตอนนี้ อย่างว่าคนเก่งถ้าไม่มีคนสนับสนุนมันก็ไปได้ไม่สุด และในจิโรปีนี้เราคงได้ดูกันว่าอูรานนั้นจะไปได้ “สุด” แค่ไหน แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เขาอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบคนอื่นมากๆ ครับ

ในสเตจภูเขาสูงชันที่นักปั่นกำลังจะเจอช่วงสุดสัปดาห์นี้และอาทิตย์หน้า อูรานค่อนข้างได้เปรียบเพราะเป็นนักไต่เขาเพียวๆ และทีม OPQS ที่จัดมาก็ดูจะช่วยเขาได้ทุกสถานการณ์ทั้งบนเขาและทางราบ แต่งานหนักของ OPQS ก็คือต้องป้องกันเสื้อชมพูทุกวัน ซึ่งเรายังไม่เคยเห็นทีมนี้ทำมาก่อน (เพราะแต่ก่อนไม่มีนักปั่น GC) ก็ต้องดูกันว่าจะทำได้ไหม

ในมุมกลับ คาเดล เอวานส์ถึงจะเสื้อหลุดแต่ในเชิงกลยุทธ์แล้วอยู่ในจุดที่น่าพอใจ เวลาไม่หลุดอูรานมาก และไม่ต้องเปลืองแรงทีมป้องกันเสื้อไล่จับเบรคอเวย์ แต่ปัญหาของเขาคือภูเขาสูงชันและคู่แข่งสายระเบิดเนินที่อัตราเร่งสูง (เอวานส์เป็นพวกเครื่องดีเซล) สิ่งที่เขามีเหนือกว่าเด็กใหม่แรงดีอย่าง เคลเดอร์แมน พอซโซวิโว คิเซอร์รอฟสกีและมาจกาก็คือประสบการณ์และกึ๋น ซึ่งพาเขาขึ้นโพเดียมจิโรปีที่แล้ว เด็กใหม่สามคนที่ว่าน่าจับตามอง ด้านกลยุทธ์แล้วอาจจะไม่ได้มีอะไรซับซ้อน แต่ความสดก็น่าจะช่วยให้การแข่งขันมีสีสันในทุกๆ สเตจ

ท้ายสุดคินทานาคือคนที่มีปัญหาที่สุดตอนนี้ ด้วยเวลา +3.29 นาทีซึ่งถือว่าเยอะมากทีเดียว ประกอบกับอาการไข้หวัดที่ทำให้เขาหายใจลำบาก ถ้าพักฟื้นไม่ทันก็คงลืมการยิงหนีบนสเตจภูเขาเหมือนตูร์ปีที่แล้วได้เลย

วิดีโอไฮไลท์

 

พรีวิวสเตจ 13

อีกหนึ่งสเตจสำหรับสปรินเตอร์เป็นสเตจ “ทางผ่าน” ที่ไปจบที่ตีนเขาแอลป์เพื่อให้นักปั่นได้ลุยภูเขากันช่วงสุดสัปดาห์นี้ โชคดีที่จบบนทางราบ ให้สปรินเตอร์ได้พอลุ้นกันเป็นโอกาสสุดท้าย แล้วใครจะมีลุ้น?

ว่ากันตามฟอร์มแล้วต้องยกให้เนเซอร์ บูอานี (FDJ) ที่เก็บไปแล้วสามสเตจวิน โมเมนตัมกำลังมาครับสำหรับแชมป์ฝรั่งเศสคนนี้และถึงทีม FDJ จะไม่ใช่ขบวนลีดเอาท์ที่ดีที่สุดในรายการนี้ (ต้องยกให้ Giant) แต่ก็พาบูอานีมาส่งจนถึงหน้าเส้นได้ทุกครั้ง ถ้าเอาความเร็วมาวัดกันแล้วบูอานีน่าจะเร็วที่สุด แต่จิอาโคโม นิซโซโล (Trek) เองก็พอไหวถ้าบูอานีเกิดพลาดไป น่าจะทัดเทียมกับเอลิอา วิวิอานี (Cannondale) ครับ ทั้งสองคนยังไม่ได้สเตจวิน และวันนี้เป็นโอกาสท้ายๆ แล้วเพราะเหลือสเตจทางราบอีกแค่ 1-2 สเตจเท่านั้นในรายการปีนี้

ม้ามืดอาจจะเป็นลูคา เมซเกค (Giant), เบน สวิตฟ์ (Sky) และเพตัคคี (OPQS)