Bike Spot: Neilpryde Alize

ตอนล่าสุดของ Bike Spot มาเจอกับเสือหมอบอีกหนึ่งแบรนด์ที่เริ่มนิยมกันในบ้านเราอีกเจ้าหนึ่ง ค่าตัวก็ไม่ได้สูงมากด้วย เจ้านี้มีประวัติมาจากการทำกระดานโต้คลื่นคาร์บอน เรื่องอากาศพลศาสตร์และความรู้เรื่องวัสดุย่อมไม่ธรรมดา พูดมาขนาดนี้ก็น่าจะรู้แล้ว มันคือจักรยาน Neilpryde รุ่น Alize เสือหมอบแอโรของแบรนด์นั่นเองครับ คันนี้เป็นของคุณ Jamesagi ส่งตรงจากสตูล ปั่นดีมั้ย? ฟีลลิงเป็นยังไง เชิญติดตามครับ

1.ขอสเป็ครถและน้ำหนักรวมรถครับ

Screen Shot 2556-11-24 at 9.44.51 PM

น้ำหนักรวมขากระติก บันไดแต่ไม่รวมไมล์ ได้ประมาณ 7.5 กิโลกรัม เจ้าของรถอายุ 24 ปี น้ำหนัก 60 กิโลกรัม ส่วนสูง 176 เซนติเมตร ความยาวช่วงขาประมาณ 83 เซนติเมตร

Alize2

2. คอนเซ็ปต์ในการประกอบรถคันนี้คืออะไรครับ? ทำไมถึงเลือก Neilpryde ได้ดูรุ่นไหนเปรียบเทียบไว้ก่อนที่จะซื้อคันนี้หรือเปล่า?

กว่าจะมาเป็นจักรยานคันที่ประกอบเสร็จสมบูรณ์คันนี้ผมใช้เวลาในการค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆอยู่นานพอสมควรครับ โดยผมมีโจทย์ตั้งไว้ในใจว่าจักรยานคันที่ผมจะประกอบต้องเข้ากับลักษณะการขี่ที่ผมชอบคือการขี่สไตล์ time trial เพราะว่าโดยปกติเส้นทางที่ปั่นส่วนใหญ่จะเป็นทางราบและปั่นกับน้องชายเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งไม่ค่อยจะยิงหนีกันเองอยู่แล้ว(แต่ก็มีบ้าง) ดังนั้นเฟรมเสือหมอบที่มีนิสัยคล้ายรถ time trial จึงเป็นตัวเลือกแรกๆครับ

พอหาข้อมูลมาซักพักก็ได้ข้อมูลมาว่าเฟรมแอร์โร่น่าจะใกล้เคียงกับโจทย์ที่ตั้งไว้ แต่เอาจริงๆถูกใจรูปร่างหน้าตาของเฟรมเป็นหลักซะมากกว่า โดยเฟรมที่เลือกมาตอนแรกยังไม่ได้เลือก Neilpryde Alize ไว้ แต่เฟรมที่ได้เล็งไว้เป็น Cervelo S2, BMC TMR, Boardman air 9.8, Giant Propel โดยตัดสินใจเลือก BMC TMR (ตัดสินใจเลือกเพราะได้อ่านรีวิวจาก DT) แต่พอติดต่อซื้อเฟรมปรากฏว่าไม่มีของ ไล่โทรหาร้านที่เป็นดีลเลอร์ทุกร้านแล้วก็ไม่มีของถึงมีก็ไม่ใช่ไซส์ที่จะปั่นได้ ก็ตัดสินใจรอครับ

รอไปรอมาผ่านไปเกือบจะครึ่งปีแล้ว ซึ่งระหว่างที่รอก็หาข้อมูลเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ จนไปเห็นประกาศขายเฟรม Neilpryde Alize มือสองใน thaimtb ก็เกิดความสงสัยว่ายี่ห้ออะไรเนี้ยไม่เห็นรู้จักเลย แต่เห็นคนประกาศขายบรรยายสรรพคุณไว้ซะดิบดี ก็เลยลองหาข้อมูลดู ก็พบว่าเฟรมตัวนี้ที่เค้าโม้ไว้ไม่ใช่โม้มาลอยๆซะแล้ว แต่เป็นเฟรมที่ออกแบบตามหลัก aerodynamics โดยวิศวกรของ บ. BMW และ บ.Neilpryde (ปกติสินค้าของ บ. นี้จะเป็นกระดานโต้คลื่นจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งทาง บ.เองมีองค์ความรู้ด้านคาร์บอนไฟเบอร์ก่อนวงการจักรยานจะเริ่มนำมาใช้จนแพร่หลาย) จึงตัดสินใจเลือกเฟรมตัวนี้มา จากความน่าเชื่อถือของทีมงานบวกกับรีวิวและรางวัลที่เฟรมตัวนี้ได้รับการการันตีมาครับ

Alize3

3. แต่งอะไรไปบ้าง? ขอเหตุผลที่เลือกอะไหล่ที่ใช้ในคันนี้ครับ พวกกรุ๊ปเซ็ต ล้อ cockpit เบาะ หลักอาน

เมื่อเลือกเฟรมได้แล้ว อุปกรณ์ต่างๆ ที่จะนำมาประกอบเข้ากับรถตั้งใจไว้ว่าจะไม่ใช้รุ่นท๊อป เพื่อให้พอดีกับงบประมาณที่ตั้งไว้ครับ เฟรมตัวนี้แถมหลักอานแอร์โร่มาด้วยจึงไม่ต้องเสียเวลาเลือก

ชุดขับเคลื่อนที่เลือกไว้ตอนแรกเป็น SRAM Force 22 เพราะว่าเฟรมรุ่นนี้รองรับกะโหลก BB30 แต่ไม่มีของ จึงตัดสินใจเปลี่ยนเป็น Shimano Ultraga 11 สปีด แล้วเปลี่ยนชุดจานหน้าเป็นRrotor เพราะขาจานรุ่น 3DF มีขนาด 30 มม. และอยากลองจานเบี้ยวด้วยครับ ส่วนล้อก็ตั้งใจไว้ว่าอยากได้ล้อคาร์บอนขอบสูงที่ราคาไม่สูงมากนัก พอดีทางร้านที่ประกอบรถ (ร้าน Velocity เชียงใหม่) มีล้อยี่ห้อ Boyd ซึ่งเป็นล้อพรีออเดอร์จากอเมริกามีโปรทีม USA ใช้อยู่ครับ ราคาไม่สูงมากเมื่อเทียบกับแบรด์อื่นๆจึงตัดสินใจเลือกล้อชุดนี้มา เมื่อประกอบรถเสร็จก็ให้ทางร้านฟิตติ้งต่อเลย โดยเบาะตัวนี้มาจากการลองนั่งปั่นกับเบาะตัวอย่างหลายๆรุ่นเพื่อทดสอบดูว่ารูปทรงไหนเข้ากับก้นผมมากที่สุด สุดท้ายก็ได้เบาะ Specialized Toupe มาครับ

4. เคยปั่นรุ่นไหนยี่ห้อไหนมาก่อนครับ? ลองเปรียบเทียบฟีลลิ่งการปั่นคันนี้กับคันเก่าได้มั้ย

ก่อนหน้านี้เสือหมอบที่เคยปั่นเป็น Giant SCR1 2013 และ Trek 1.2 2013 ซึ่งสมถะนะของรถคงเทียบกันไม่ได้เพราะแตกต่างกันทุกด้านไม่ว่าจะเฟรม ล้อ และชุดขับเคลื่อน แต่ถ้าให้อธิบายอารมณ์ของตัว Alize ก็พออธิบายคร่าวๆ ได้ แต่ถ้าให้เจาะลึกคงอธิบายยากเพราะยังปั่นได้ไม่เยอะพอครับ

หลังจากประกอบรถเสร็จวันแรกก็ลองขี่ขึ้นดอยสุเทพเลย ใช้จานหน้า 39 เฟืองหลังก็ไล่เกียร์เอาตามความชันของแต่ละช่วง รถสามารถตอบสนองต่อแรงกดได้ดีทำให้สามารถรักษารอบขาได้ต่อเนื่อง ก็ถือว่าพอใจสำหรับผมที่เพิ่งปั่นขึ้นดอยสุเทพครั้งแรกแถมปกติไม่ค่อยได้ปั่นขึ้นเขายาวๆ ส่วนช่วงขาลงเป็นอะไรที่ผมกลัวมากครับเพราะเคยเฉียดหลุดโค้งซึ่งถ้าหลุดโค้งตกลงไปก็คงบาดเจ็บสาหัสแน่ๆ จึงรู้สึกกังวัลมาก แต่พอได้ไหลลงก็พบว่าที่ความเร็วสูงรถไม่ได้ควบคุมยากอย่างที่คิด ไม่มีอาการดื้อโค้งเลยครับ รถนิ่งมากทำให้ไหลลงมาได้อย่างมั่นใจถึงแม้ว่าจะไม่คุ้นชินกับเส้นทาง

ส่วนในทางราบรถจะเริ่มความเร็วเสถียรเมื่อความเร็ว 40 ขึ้นไปความเร็วจะไม่ค่อยตกแทบไม่ต้องเติม และความรู้สึกว่าขาเรายังปั่นไปได้อีก ส่วนความกระด้างก็แทบจะไม่ต่างจากรถคันก่อนเท่าไหร่ตอนแรกคิดว่าถ้าเป็นรถเฟรมคาร์บอนน่าจะนิ่มกว่านี้

5. ใช้คันนี้มานานเท่าไรแล้วครับ (ปั่นไปได้กี่กิโล?) และเริ่มปั่นจักรยานจริงจังได้กี่ปีแล้ว?

จักรยานคันนี้ตั้งแต่ประกอบมายังปั่นได้ไม่เยอะมากครับประมาณ 300 กิโลเมตร ส่วนตัวผมเริ่มปั่นจักรยานจริงจังก็ประมาณ 2 ปีแล้วครับ ก่อนหน้านี้ปั่นจักรยานเสือภูเขาอยู่ประมาณ 1 ปีครึ่ง จากนั้นจึงเปลี่ยนมาปั่นเสือหมอบคันก่อนหน้าอีกประมาณ 6 เดือน จึงได้เปลี่ยนมาเป็นคันนี้ครับ

6. ปรกติปั่นแถวไหน คนเดียว กับเพื่อน หรือกลุ่มไหนครับ?

โดยปกติจะปั่นอยู่กับน้องชายในช่วงเย็น 2 คนครับ แต่ถ้าช่วงไหนเป็นวันหยุดยาวก็จะนำรถกลับบ้านไปปั่นกลุ่มที่รู้จักกันครับ

7. พอใจกับรถคันนี้หรือเปล่า อนาคตอยากแต่งอะไรเพิ่มเติมอีกมั้ยครับ? หรือมีเสือหมอบรุ่นไหนที่อยากลองเป็นพิเศษมั้ย?

ตอนนี้พอใจมากครับเพราะว่าใช้เวลาในการหาข้อมูลมานานทำให้ได้รถที่ตอบสนองทั้งการปั่นและความสุขเมื่อได้มอง ส่วนเรื่องแต่งเพิ่มตอนนี้กำลังหาไฟท้ายที่ติดกับหลักอานแอร์โร่ได้ เป็นปัญหาใหญ่ตอนนี้เลยครับไม่ได้คิดไว้ล่วงหน้า

8. ตั้งแต่ปั่นคันนี้มามีเหตุการณ์พิเศษเกิดขึ้นบ้างมั้ยครับ เช่นไปคว้ารางวัลมา ทำลายสถิติตัวเองได้อะไรทำนองนี้ ?

ตอนนี้ยังไม่มีรางวัลหรือเหตุการณ์พิเศษครับ อย่างที่เล่าไปข้างต้นว่าเพิ่งประกอบรถเสร็จ แต่อนาคตก็ไม่แน่ครับเพราะปกติก็ลงแข่งบ้างถ้ามีโอกาส

9. ดูแข่งขันจักรยานหรือเปล่า เชียร์ทีมไหนหรือใครเป็นพิเศษมั้ยครับ?

ทีมที่ตามเชียร์อยู่ประจำก็ทีม Saxo bank ครับ เพราะตามเชียร์คอนทาดอร์อยู่ติดใจท่ายืนโยกขึ้นเขาและพัฒนาการตั้งแต่เริ่มแรกจนมาถึงปัจจุบัน (แต่หมั่นไส้อีตา Tinkoff มากครับ) ถึงจะทำให้ผิดหวังบ้างที่ไปกินสเต็กเนื้อพิเศษมา แต่ก็ยังตามเชียร์อยู่คิดว่าปีหน้าถ้าคืนฟอร์มตูร์คงสนุกกว่านี้ครับ

Alize1

10. อะไรเป็นเหตุที่ให้หันมาปั่นจักรยานครับ มันสนุกตรงไหน หรือให้อะไรกับคุณมากเป็นพิเศษที่กีฬาอื่นให้ไม่ได้?

เริ่มมาปั่นจักรยานเพราะต้องการออกกำลังกายครับ พอดีคุณพ่อและน้องชายปั่นจักรยานกันอยู่ก่อนแล้วจึงลองปั่นจักรยานตามดูครับ ปั่นครั้งแรกเกือบเป็นลมกันเลยทีเดียว แต่ก็ยังปั่นต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ครับ เพราะเวลาเห็นพัฒนาการของตัวเองแล้วรู้สึกภูมิใจครับ ซึ่งกีฬาชนิดอื่นมันมีตัวชี้วัดยากครับว่าเราพัฒนาขึ้นขนาดไหน แต่จักรยานมีไมล์เครื่องนึงก็บอกได้แล้วครับ

11. ท้ายสุดความสุขในการปั่นจักรยานของคุณคืออะไรครับ?

สุดท้ายแล้วจะบอกว่าแค่ได้ปั่นจักรยานผมก็มีความสุขแล้วครับ แถมได้สุขภาพดีๆ กลับมาด้วย นอกจากความสุขแล้วสำหรับผมจักรยานยังเป็นสิ่งที่เป็นแรงผลักดันตัวผมเองให้ก้าวไปข้างหน้า ซึ่งก็เหมือนกับการปั่นจักรยาน ถ้าเราหยุดปั่นเราก็จะหยุดแค่ตรงนั้น แต่ถ้าเรามุ่งมั่นและพยายามปั่นไม่นานเป้าหมายที่ตั้งไว้เราก็จะไปถึงครับ

 

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

2 comments

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *