เมื่อคืนนี้ วิคเตอร์ แคมเปนาร์ตส์ นักปั่นชาวเบลเยียมวัย 27 ปี จากทีม Lotto-Soudal ทำลายสถิติ UCI Hour Record ของเซอร์แบรดลีย์ วิกกินส์ได้สำเร็จ เขาทำระยะทางรวมได้ถึง 55.089 กิโลเมตร มากกว่าสถิติเดิมของวิกกินส์ที่ทำไว้ได้ถึง 563 เมตร
สถิติเก่าของวิกกินส์คือ 54.526 กิโลเมตร ที่ทำไว้ในกรุงลอนดอนเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2015 หลังจากที่วิกกินส์ตั้งสถิติใหม่ก็มีนักปั่นทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นพยายามทำลายกว่าสิบครั้ง แต่ไม่มีใครทำได้สำเร็จจนถึงเมื่อคืนนี้
“วันนี้ทุกอย่างมันลงตัว ผมต้องขอบคุณทีมที่ช่วยเหลือสนับสนุนให้ผมทำเป้าหมายนี้ได้สำเร็จ ซึ่งแน่นอนว่ามันมีแรงกดดันไม่น้อยครับ”
“เป้าหมายตอนแรกของเราคือการไปให้ไกลกว่าระยะทางของเซอร์วิกกินส์ สำหรับเรา มันเป็นระยะทางที่เป็นไปได้ที่จะทำลายสถิติเดิมครับ ตอนเริ่มปั่นวันนี้ผมอาจจะตื่นเต้นไปหน่อยทำความเร็วสูงไปนิดนึง ผมคิดว่าด้วยความเร็วในช่วง 15 นาทีแรก ผมทำลายสถิติวิกกินส์ได้แน่ๆ แต่ปั่นไปได้สักพักผมก็เริ่มลดความเร็วลงให้อยู่ในระดับที่คงไว้ได้จนจบหนึ่งชั่วโมง ตอนท้ายมันยากเหมือนกันครับ ผมเริ่มล้าและปั่นเฉไปเฉมา ผมว่าช่วงห้านาทีสุดท้ายที่แทบจะหมดแรงแล้ว ผมปั่นนอกไลน์ไปเยอะเลย เสียระยะทางต่อรอบไปมากครับ”
“ผมดีใจจริงๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของคนที่ถือครองสถิติโลกนี้ครับ ผมอยู่กับการฝึกซ้อมเพื่อทำสถิตินี้มานานหลายเดือนมาก ซึ่งมันก็สำเร็จเสร็จสิ้นเสียที ผมดีใจจริงๆ ที่ในที่สุดก็ทำลายกำแพงระยะทาง 55 กิโลเมตรได้แล้ว” – แคมเปนาร์ตส์ กล่าวหลังแข่ง
ตั้งแต่รอบที่ 10 ต้น ๆ ความเร็วของแคมเปนาร์ตส์อยู่ประมาณ 55.0 กม./ชม.ตลอด แม้เข้าช่วง 15 นาทีสุดท้าย จะลดจาก 55.2–55.3 มาเหลือ 54.9–55.0 กม./ชม.บ้าง แต่ก็ยังเหลือเฟือสำหรับทำลายสถิติ เขากะแรงได้ดีเยี่ยมและเพซซิ่งนิ่งมาก ๆ ตลอดระยะเวลา 1 ชั่วโมง แถมตอน 5 นาทีสุดท้ายยังแรงเหลือ และเร่งกลับไปถึง 55.8–55.9 กม./ชม. ได้อีกด้วย
การทำลายสถิตินี้เกิดขึ้นที่เวโลโดรมในเมืองอกัวสกาลิเอนเตส ประเทศเม็กซิโก สถานที่ที่สถิติจักรยานลู่จำนวนมากถูกสร้างขึ้น เช่นสถิติ Hour Record ของอเมริกาและของเดนมาร์ก, สถิติ Flying Lap (1km time trial) ของโลก, และสถิติ 4,000m Individual Pursuit ของโลก เป็นต้น เหตุเพราะมันอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึงเกือบ 2,000 เมตร ทำให้อากาศเบาบางกว่าที่ระดับน้ำทะเล แรงต้านอากาศก็ต่ำลงตาม
อย่างไรก็ดี อากาศที่เบาบางจะทำให้ออกซิเจนน้อยด้วย ร่างกายเหนื่อยเร็วขึ้นกว่าที่ระดับน้ำทะเล และนักปั่นแต่ละคนตอบสนองต่ออากาศที่เบาบางนี้ไม่เหมือนกัน บางคนก็เหนื่อยเร็วขึ้นมาก หักกลบลบหนี้ไม่คุ้มกับแรงต้านอากาศที่น้อยลง บางคนก็เหนื่อยเร็วขึ้นแค่เล็กน้อย คำนวณแล้วยังคุ้มกับแรงต้านอากาศที่น้อยลง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องไปพยายามสร้าง Hour Record ที่เม็กซิโก
จักรยานที่แคมเปนาร์ตส์ใช้คือ Ridley Arena TT ที่ถูกคัสตอมส่วนแฮนด์มาโดยเฉพาะ เบสบาร์กว้างแค่ 33 ซม. เนื่องจากใช้แค่ยืนโยกตอนออกสตาร์ทเท่านั้น เวลาที่แคมเปนาร์ตส์ใช้เบสบาร์ในวันนี้มีเพียง ~24 วินาที การทำเบสบาร์แคบ ๆ จึงช่วยลดพื้นที่หน้าตัดที่ปะทะลมไปได้เล็กน้อย ส่วนอีก 59 นาที 36 วินาทีที่เหลือ แคมเปนาร์ตส์จับแอโร่บาร์ที่เป็นคาร์บอนที่พิมพ์บล็อกแล้วขึ้นรูปมาจากแขนของเขาโดยเฉพาะ หากใครอยากดูจักรยานคันนี้โดยละเอียด สามารถดูได้ที่ลิ้งก์นี้
แคมเปนาร์ตส์เป็นนักปั่นคนที่หก ที่ทำสถิติ Hour Record ได้สำเร็จหลังจากที่ทางสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI) อนุญาตให้นักกีฬาใช้จักรยานลู่สมัยใหม่ในการทำสถิติได้ (จากเดิมที่กำหนดให้ใช้จักรยานเสือหมอบที่ไม่มีส่วนประกอบแอโรไดนามิกส์เท่านั้น)
เยนส์ โฟ้ก เป็นคนแรกที่ทำสถิติได้สำเร็จหลังจากการเปลี่ยนกฏของ UCI ต่อด้วยแมธธิอัส แบรนดลีย์, โรฮาน เดนนิส, อเล็กซ์ ดาวเซ็ตต์ และคนสุดท้ายที่ทำได้สำเร็จก่อนแคมเปนาร์ตส์ก็คือเซอร์ แบรดลีย์วิกกินส์ในปี 2015
สถิติของวิกกินส์ยืนหยัดอยู่ถึง 4 ปีก่อนที่แคมเปนาร์ตส์จะทำสถิติใหม่ได้สำเร็จเมื่อคืนนี้
A strong & controlled ride by @VCampenaerts for a new @UCI_Track @UCI_cycling #UCIHourRecord, at the high altitude location of Aguascalientes, Mexico. Recording 55.089km this adds >500m onto the former record of @SirWiggo, with only a few laps falling below Wiggins' average speed pic.twitter.com/0zBS9ehPnz
— B Xavier Disley, PhD (@xavierdisley) April 16, 2019
กราฟข้างบนเป็นการวิเคราะห์ความเร็วต่อรอบ (lap speed) ของแคมเปนาร์ตส์ โดย ดร.ซาเวียร์ ดิสลีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านแอโรไดนามิกส์และเป็นที่ปรึกษาให้กับนักกีฬาจักรยานระดับโลกและทีมชาติหลายๆ ทีม โดยสังเกตว่า แคมเปนาร์ตส์ทำความเร็วได้สูงกว่าความเร็วของวิกกินส์แทบจะตลอดช่วงเวลาการทำสถิติ โดยยืนพื้นที่ความเร็ว 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือมากกว่าได้ตลอดการแข่งขัน
มีช่วงท้ายที่ความเร็วเริ่มตกลงไปแตะ 54 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่แคมเปนาร์ตส์ก็เร่งกลับมาเพิ่มความเร็วได้ในช่วงห้านาทีสุดท้าย จนกลายเป็นสถิติใหม่อย่างที่เราเห็นกัน
หลังจากที่แคมเปนาร์ตส์ทำลายสถิติได้ไม่กี่นาที อเลกซ์ ดาวเซ็ตต์ (Katusha-Alpecin) เจ้าของสถิติ Hour Record คนก่อนวิกกินส์ ก็ทวีตหยั่งเชิงสปอนเซอร์ทันทีว่าอยากลอง[ทำลายสถิติ]มั้ย? อันที่จริงดาวเซ็ตต์ก็แย้มว่าจะทำ Hour Record มาเรื่อย ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา หวังว่าคราวนี้เขาจะเอาจริงล่ะครับ!
Hey @katushacycling, fancy a crack at it? @N_CyclingCentre have you got a slot available, just need an hour?
— Alex Dowsett (@alexdowsett) April 16, 2019
นอกจากดาวเซ็ตต์แล้ว นักปั่นคนต่อไปที่ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะพยายามทำลายสถิติ Hour Record ก็คือ Mikkel Bjerg ชาวเดนมาร์กวัย 19 ปีสังกัดทีม Hagens Berman Axeon ซึ่งกำหนดวันทำสถิติไว้ที่เดือนกันยายนปีนี้
Bjerg เคยพยายามทำลายสถิติของวิกกินส์มาแล้วสองครั้ง ซึ่งไม่สำเร็จทั้งสองครั้ง ครั้งแรกเขาลองทำตอนอายุ 18 ปี ทำได้ระยะทาง 52.311 กิโลเมตร และครั้งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมปี 2018 ได้ระยะทาง 53.730 กิโลเมตร
นอกจากนี้ยังมีนักปั่นอาชีพระดับดิวิชัน 1 ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไทม์ไทรอัล ได้กระซิบบอกนักข่าวของ Cyclingweekly ไว้ว่า เขาเองก็สนใจจะทำลายสถิตินี้ โดยคิดว่าสถิติของแคมเปนาร์ตส์ไม่น่าจะยากเกินไป นักข่าวของ Cyclingweekly ไม่สามารถบอกชื่อได้ว่าเป็นใคร แต่ถ้าจะให้ DT เดาก็คงไม่พ้นดาวเซ็ตต์นั่นเอง
ชมการทำสถิติย้อนหลังได้ที่วิดีโอข้างล่างนี้