เทียบกับตูร์ เดอ ฟรองซ์และ สนามวูเอลต้านับคะแนนและจัดอันดับผู้นำด้วยกฏที่ง่ายกว่าพอสมควรครับ มาดูกันว่าเสื้อผู้นำวูเอลต้าปีนี้มีสีอะไรบ้าง และมอบให้ใคร รวมถึงกฏการนับคะแนน, Time Bonus, และรางวัลอื่นๆ ที่น่าสนใจกัน
เสื้อแเดง (เสื้อผู้นำเวลารวม): มอบให้นักปั่นที่ทำเวลารวมได้น้อยที่สุด คิดจากเวลาของการแข่งจากทุกสเตจรวมกัน นั่นหมายความว่านักปั่นที่ใช้เวลาน้อยที่สุดก็คือคนที่เร็วที่สุดในการแข่งนั่นเอง ในหมวดนี้ผู้จัดมี Time Bonus ให้อันดับ 1–2–3 ของแต่ละสเตจ 10–6–4 วินาทีตาามลำดับ และแจก Time Bonus ที่จุดสปรินต์กลางสเตจ 3–2–1 วินาทีสำหรับอันดับ 1–2–3 ที่ผ่านจุดสปรินต์เป็นคนแรก
2. เสื้อเขียว (เสื้อผู้นำคะแนนรวม): หรือเสื้อเจ้าควาามเร็ว ต่างกับในตูร์เดอฟรองซ์ที่ให้น้ำหนักคะแนนตามลักษณะเส้นทาง (ผู้ชนะสเตจทางราบได้คะแนนเยอะกว่าผู้ชนะสเตจภูเขา) ในวูเอลเต้ ผู้จัดให้คะแนนเท่ากันทุกสเตจ ตามนี้ครับ
- 25–20–16–14–12–10–9–8–7–6–5–4–3–2–1 คะแนนสำหรับนักปั่น 15 คนแรกที่เข้าเส้นชัย ยกเว้นสเตจจับเวลาบุคคล และจับเวลาทีม
- 4–2–1 คะแนนสำหรับ 3 คนแรกที่ผ่านจุดสปรินต์กลางสเตจ
การที่ผู้จัดไม่ให้น้ำหนักคะแนนในสเตจทางราบแบบนี้หมายความว่านักไต่เขาที่ไล่เก็บแต้มบนยอดเนินยอดเขาได้เยอะๆ ก็มีสิทธิได้ครองเสื้อตัวนี้ไม่แพ้สปรินเตอร์ ปีที่แล้วแชมป์เสื้อเขียวเป็นของจอห์น เดเกนโคลบ์ สปรินเตอร์ขาแรง แต่อันดับสองและสามกลับเป็นนักไต่เขาอย่างวาวเวอเด้ (Movistar) และคอนทาดอร์ (Tinkoff-Saxo) แชมป์รายการ เพราะทั้งคู่ทำคะแนนจากเส้นชัยบนเขาได้เยอะกว่าสปรินเตอร์คนอื่นๆ
3. เสื้อเจ้าภูเขา: เป็นเสื้อลายจุดสีน้ำเงินขาว ต่างกับในตูร์ที่เป็นจุดโพลก้าแดงขาว คะแนนจะมอบให้ที่ยอดเขาแต่ละลูก ยิ่งเขาระดับชันมากยิ่งให้คะแนนเยอะตามนี้
- จุดสูงสุดในรายการ รางวัล Cima Alberto Fernandez บนเขา Alto Ermita de Alba ใน Stage 16 : 20–15–10–6–4–2 คะแนนสำหรับนักปั่น 6 คนแรก
- ยอดเขาที่ยากเป็นพิเศษ (Collada de la Gallina และFuente del Chivo) : 15–10–6–4–2 คะแนนสำหรับ 5 คนแรก
- เขาระดับ Category 1: 10–6–4–2–1 สำหรับ 5 คนแรก
- เขาระดับ Category 2: 5–3–1 คะแนนสำหรับ 3 คนแรก
- เขาระดับ Category 3: 3–2–1 คะแนนสำหรับ 3 คนแรก
4. เสื้อ Combined Classification: หรือเสื้อขาว สำหรับผู้นำสำหรับนักปั่นที่มีอันดับดีที่สุดในทุกประเภทการแข่งขัน (เวลารวม, คะแนนรวม, ภูเขา) คำนวนจากอันดับในแต่ละหมวดด้วยสูตรนี้ครับ
สมมติฟรูมได้อันดับ 1 เวลารวม, อันดับ 2 คะแนนรวม และอันดับ 10 เจ้าภูเขา ให้เอาอันดับทั้งหมดบวกกัน (1+2+10 = 13 คะแนน) นักปั่นที่มีอันดับทั้งหมดรวมกันได้ตัวเลขน้อยที่สุด (เช่นถ้าได้อันดับหนึ่งทุกหมวดก็จะเป็น 1+1+1 = 3) จะได้ใส่เสื้อตัวนี้ เสื้อ Combined Jersey ไม่มีในการแข่งขันแกรนด์ทัวร์สนามอื่นๆ ทำให้เป็นเอกลักษณ์ของรายการ Vuelta ครับ
รายการนี้ไม่มีเสื้อผู้นำ Best Young Rider หรือนักปั่นที่อายุน้อยกว่า 26 ปีที่อันดับเวลารวมดีที่สุด เพราะ UCI กำหนดให้มีเสื้อผู้นำได้ทั้งหมด 4 ตัวต่อการแข่งขันเท่านั้น (จะได้ไม่งง)
รางวัลอื่นๆ และเงินรางวัล
- รางวัลนักปั่นจอมบู๊ (Combativity Prize): หรือนักปั่นที่ออกโจมตีได้ดุเดือดที่สุดในแต่ละวัน ผู้ตัดสินคือผู้ชมชาวสเปนที่จะร่วมโหวตผ่านโทรทัศน์
- รางวัลเวลารวมทีม (Team Classification): เหมือนกับในตูร์ เดอ ฟรองซ์ อันดับเวลารวมทีมคิดจาก การรวมเวลาของนักปั่นในแต่ละทีมที่เวลาดีที่สุด 3 คน ทีมไหนมีเวลารวมน้อยที่สุดจะเป็นผู้ชนะ
- ผู้ชนะสเตจได้เงินรางวัล 5,500 ยูโร หรือราว 220,000 บาท เงินรางวัลมีให้นักปั่น 20 คนแรกของสเตจ อันดับสุดท้ายได้เพียง 360 ยูโร
- แชมป์รายการได้เงินรางวัล 112,000 ยูโร (ประมาณ 4.5 ล้านบาท) อันดับสองได้ 57,000 ยูโร (ประมาณ 2.3 ล้านบาท) และอันดับสามได้ 30,000 ยูโร (ประมาณ 1.2 ล้านบาท) เงินรางวัลมีให้ถึงอันดับ 20 ซึ่งได้ 3,800 ยูโร (ประมาณ 154,000 บาท)
- ผู้ที่สวมเสื้อผู้นำในแต่ละวันจะได้เงินรางวัลทุกๆ วัน เสื้อแดงได้ 160 ยูโร, เสื้อเขียวและน้ำเงินได้ 95 ยูโร และเสื้อขาวได้ 70 ยูโร
- ผู้ชนะหมวดเจ้าภูเขาจะได้เงินรางวัล 13,000 ยูโร (ประมาณ 530,000 บาท)
- ผู้ชนะหมวดคะแนนรวมจะได้เงินรางวัล 11,000 ยูโร (ประมาณ 480,000 บาท)
- มีเงินรางวัลเล็กๆ น้อยในแต่ละวันให้กับนักปั่นจอมบู๊ที่ได้รางวัลป้ายแดงด้วย แต่โดยรวมแล้วรางวัลในวูเอลต้าจะน้อยกว่าตูร์เดอฟรองซ์ เพราะงานเล็กกว่าและสปอนเซอร์ก็น้อยกว่าครับ อย่างผู้แชมป์ตูร์ได้เงินรางวัลถึง 450,000 ยูโร ประมาณ 18 ล้านบาท มากกว่าผู้ชนะวูเอลต้าถึง 4 เท่า!
เช็คตารางแข่งและลิงก์ถ่ายทอดสด 2015 Vuelta a Espana ได้ที่ www.duckingtiger.com/live ครับ