[dropcap letter=”ส”]เตจ 11 เริ่มอย่างไม่ค่อยจะอภิรมย์เท่าไรสำหรับผู้เข้าแข่งขัน เพราะด้วยเส้นทางที่สั้นและเส้นชัยบนยอดเขา ประกอบกับความเหนื่อยล้าจากสเตจ Time Trial, ทำให้เกิดอุบัติเหตนักปั่นหลายคนชนเข้ากับรถมอเตอร์ไซค์ของช่างภาพ ไนโร คินทานา ตัวเต็งคนสำคัญล้มจนกระดูกสะบักร้าว ต้องถอนตัวเช่นเดียวกับแม๊กซิม บูเอท์ (AG2R), สตีฟ โมราบิโตะ (BMC) และทีบอท์ พินอท์ (FDJ)
เมื่อรูปเกมเริ่มเข้ารูปเข้ารอย เบรคอเวย์ก็หนีไปได้ในที่สุด นำโดยวาซิล คิริเยนกา (Sky) ที่รอดไปจนถึงตีนเขาลูกสุดท้าย แต่ก็โดนรวบจับเมื่อกลุ่มตัวเต็งและทีมซัพพอร์ทเริ่มเดินเครื่อง โดยเฉพาะ Sky ที่เร่งจนแม้แต่หัวหน้าทีม คริส ฟรูมก็เริ่มจะตามไม่ทัน หลุดกลุ่มอยู่พักหนึ่งจนขบวนลากต้องผ่อนแรงลง
แน่นอนว่าเมื่อเจอเส้นชัยบนยอดเขาประกอบกับ Time Bonus สำหรับผู้ชนะ 10 วินาทีฟรีๆ ทั้งตัวเต็งและว่าที่ตัวเต็งหลายๆ คนพยายามออกโจมตีชิงชัยก่อน เริ่มด้วยวาร์เรน บากิลล์ เอซจาก Giant-Shimano ที่เปิดเกมเป็นคนแรก แต่ก็โดนเคาน์เตอร์โดยโรเบิร์ท เฮซิงค์ (Belkin) และแดน มาร์ติน (Garmin) ปิดท้ายด้วยอัลเบอร์โต คอนทาดอร์ (Tinkoff) ผู้นำเวลารวมที่รวบเก็บทุกคนมาอยู่กลุ่มเดียวกันในที่สุด
กิโลเมตรสุดท้าย ฟาบิโอ อารู (Astana) ตัดสินใจยิงยาวทุ่มหมดหน้าตัก นำเดี่ยวแบบไม่มีใครไล่ทัน คว้าแชมป์สเตจและเก็บ time bonus พาตัวเองขึ้นมาอยู่อันดับ 7 ในตารางผู้นำเวลารวม ผลงานเมื่อวานนี้ยืนยันฟอร์มและความสามารถของนักปั่นอิตาเลียนวัย 24 ปีได้เป็นอย่างดี หลังจากที่คว้าอันดับ 3 ในจิโรปีนี้พร้อมกับอีกหนึ่งสเตจวิน
วาวเวอเด้ตามเข้ามาเป็นอันดับที่สอง นำหน้าโจอาชิมโรดริเกรซ อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์และคริส ฟรูมที่ได้เวลาเท่ากันทุกคน อูรานตามมาเป็นอันดับที่ 6 เสียเวลาให้ตัวเต็งไป 7 วินาที
ผลการแข่งขัน
[iframe src=”http://www.procyclingstats.com/widgets/pcs-race-results.php?id=139141&ref=default” scrolling=”YES” frameborder=”0″ height=”356″]วิดีโอไฮไลท์
Stage Gallery
