รีวิว Vuelta สเตจ 20: สิ่งที่ทำให้อารูชนะ Vuelta

สเตจรองสุดท้ายของการแข่งขันจักรยานระดับแกรนด์ทัวร์ มักจะเป็นวันตัดสินผู้ชนะเสมอ นั่นคือมันเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะให้ผู้นำเวลารวมเค้นแรงเฮือกสุดท้ายในการปิดเกม และก็เป็นโอกาสให้อันดับสองและอันดับสามได้แก้ตัว ชิงเสื้อผู้นำคืนเป็นครั้งสุดท้ายเช่นกัน

เหมือนกับความพยายามของเหล่านักปั่นที่ออกหนีเข้ากลุ่มเบรคอเวย์หวังคว้าแชมป์สเตจในแต่ละวัน ความพยายามของฟาบิโอ้ อารู (Astana) ที่ออกกระชากโจมตีผู้นำเวลารวม ทอม ดูโมลาน (Giant-Alpecin) นับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่ดูโมลานถือเสื้อผู้นำ ในที่สุดก็เป็นผลสำเร็จ เมื่อทีม Astana รวมใจกันชิงหนีห่างกัปตัน Giant จนดูโมลานเสียเวลาไปร่วม 3:40 นาทีในสเตจเดียว เสียทั้งเสื้อผู้นำเวลารวมและอันดับโพเดี้ยมรายการ

ที่ทางขึ้นเขาลูกรองสุดท้าย Puerto de la Morcuera ราว 30 กิโลเมตรสุดท้าย ทีม Astana เดินเกมตั้งความเร็วหนักจนดูโมลานหลุดร่วงจากกลุ่มผู้นำ ต่างกับวันก่อนๆ ที่เขาพยายามไล่กลับเข้ากลุ่ม ในสเตจ 20 ดูโมลานหมดสภาพชัดเจน จนถึงตีนเขาลูกสุดท้าย ฟาบิโอ้ อารูไล่เข้าทันลูกทีม Astana (หลุยส์ ลีออน ซานเชซ และมิเคล แลนด้า) ที่ชิงหนีเบรคอเวย์ออกมารอช่วยกัปตันทีมตั้งแต่เริ่มสเตจ ช่วยกันทำเกมทิ้งระยะห่างดูโมลานมากขึ้นไปอีก ซึ่งมันสะท้อนความจริงที่ไม่น่าพิศมัยสำหรับทีม Giant-Alpecin: การต่อสู้ระหว่างกัปตันทีม Astana ที่ไม่ได้แกร่งเท่าดูโมลานในเชิงฟอร์ม แต่มีทีมซัพพอร์ทที่เหนือชั้นกว่า กับกัปตันทีม Giant ที่โชว์ฟอร์มแกร่งกว่าใครแต่ถูกทิ้งให้เหลือตัวคนเดียวในช่วงที่สำคัญที่สุดของการแข่งขัน

ถึงแม้ความพยายามในการชิงเวลาของอารูในสเตจก่อนๆ จะไม่สำเร็จ แต่เขารู้ดีว่าถึงช่วงที่สำคัญที่สุดอย่างสเตจวันนี้แล้ว เขาสามารถพึ่งลูกทีมนักไต่เขา และโดเมสติกขาแรงระดับแถวหน้าของวงการได้ ส่วนดูโมลานและทีม Giant ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าดีใจ แต่ก็น่ากลัว เพราะทีมไม่เคยคาดหวังว่าลูกทีมจะได้มีลุ้นชนะแกรนด์ทัวร์ ทีมซัพพอร์ทที่ส่งมาด้วยก็ไม่ได้มีนักไต่เขาเก่งๆ มากมาย ดูกลับจะเป็นทีมรองด้วยซ้ำ ดูโมลานไม่มีกันชน และไม่มีระยะปลอดภัยที่เขาจะอุ่นใจได้ ถึงแม้จะทำเวลานำได้ดีในสเตจ Time Trial แต่เมื่อคู่แข่งอย่างอารูไม่ยอมแพ้และตามหลังแค่ +6 วินาที ดูโมลานมีข้อแม้เดียวที่จะชนะแชมป์ Vuelta ปีนี้ จะหลุด จะโดนใครนำไปก็ได้ แต่คนนั้นต้องไม่ใช่นักปั่นซาร์ดิเนียนวัย 25 ปีจาก Astana…ซึ่งสุดท้ายเขาทำไม่ได้

pelotonmagazine_2558-Sep-13

สำหรับแชมป์สเตจตกเป็นของรูเบ็น พลาซ่า นักปั่นมากประสบการณ์จาก Lampre-Merida กับการเบรคอเวย์ระดับมหากาพย์ที่หนีเดี่ยวกลุ่มเปโลตองร่วม 3 ขั่วโมง พลาซ่าชิงหนีกลุ่มเบรคอเวย์ 12 คนที่หนีมาด้วยกันตั้งแต่เริ่มสเตจ แต่ไม่ช่วยกันทำงาน (Astana ในกลุ่มหนีตั้งใจรออารูและไม่คิดจะช่วยเบรคอเวย์อยู่แล้ว) ด้วยวัย 35 ปี เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของอาชีพนักปั่น แต่ฤดูกาลนี้กลับเป็นปีที่พลาซ่าประสบความสำเร็จที่สุด ด้วยผลงานแชมป์สเตจในตูร์ เดอ ฟรองซ์ และ Vuelta วันนี้

* * *

อารูชนะได้ยังไง?

  •  อารูไม่ใช่นักปั่นแกรนด์ทัวร์ที่สมบูรณ์แบบอย่าง คริส ฟรูม ซึ่งเก่งทั้งการขึ้นเขาและปั่นจับเวลา Time Trial – เขาเป็นนักไต่เขาที่เก่งมาก แต่ปั่นจับเวลาไม่ดี ซึ่งในหลายๆ ครั้ง มันไม่ดีพอที่จะชนะแกรนด์ทัวร์ แต่ความมุ่งมั่นทุกๆ วัน (จากการโจมตีหลายต่อหลายครั้ง) ทำให้เวลาเขาไม่ห่างดูโมลานมากจนเกินไป ในสเตจ 17 จับเวลาบุคคลที่อารูเสียเวลาให้ดูโมลานสองนาที เขาเร่งในช่วง 10 กิโลเมตรสุดท้ายจนความเร็วเกือบจะเทียบเท่าแชมป์สเตจ ความมุ่งมั่นตรงนี้ทำให้นึกถึงนักปั่นอย่างคาเดล เอวานส์ (BMC) ที่ถึงแม้จะโดนกลุ่มผู้นำทิ้ง แต่เขาก็ไล่จับเอง ชงเกมเอง และสู้จนพลิกกลับมาชนะ ตูร์เดอฟรองซ์ 2011 ชิงเสื้อผู้นำจากแอนดี้ ชเล็คได้ในสเตจรองสุดท้าย

iamspecialized_2558-Sep-13

  • ขณะเดียวกัน จากสเตจนี้เรารู้ว่าดูโมลานต้องมีเวลากันชนอย่างน้อยเกือบ 4 นาทีเพื่อคว้าแชมป์รายการ แต่ถึงกระนั้นอย่าลืมว่าเขาลงแข่งรายการนี้เพื่อแค่ “สร้างฟอร์ม” ไปแข่งสนามชิงแชมป์โลก Time Trial ช่วงปลายเดือน แต่ใครจะรู้ (แม้แต่เขาก็ไม่รู้) ว่าตัวเองนั้นเกือบจะได้แชมป์แกรนด์ทัวร์ ไอ้ความเกือบนี้แหละครับที่เป็นปัญหา เพราะจะชนะแกรนด์ทัวร์ได้ ลำพังตัวนักปั่นตัวเต็งคนเดียวมันไม่พอ ทีมต้องพร้อม ประสบการณ์ต้องพร้อม และมันคือสิ่งที่ Astana มีเหนือกว่า Giant ทุกด้าน ในวันที่อารูฟอร์มไม่เต็มร้อย ทีมยังมีตัวช่วยให้เอซจนถึงกิโลเมตรสุดท้าย ในขณะที่ Giant ต้องทำงานหนักทุกวันในกรอบการแข่งขันที่ทีมไม่คุ้นเคย (ปกติเป็นทีมสปรินเตอร์)
  • ช่วงสุดท้ายของการแข่งขันทีอีกปัจจัยที่ทำให้ดูโมลานหลุดไปเกือบสี่นาที นั่นคือการชิงโพเดี้ยมระหว่างไมย์ก้า (Tinkoff-Saxo) กับคินทานา (Movistar) แต่สุดท้ายคินทานาทำเวลาคืน 33 วินาทีที่เขาตามไมย์ก้าอยู่ไม่ได้ ก็ต้องจำใจรับอันดับ 4 รายการไป แต่การแร่งของทั้งคู่ยิ่งทำให้เพซความเร็วของกลุ่มผู้นำสูงขึ้นไปอีก
  • ที่จะมองข้ามไม่ได้คือวาคิม โรดริเกรซ (Katusha) ที่สู้สุดใจขาดเหมือนกัน ยังรักษาอันดับโพเดี้ยมที่สองไว้ได้ท่ามกลางสงครามของนักปั่นที่อายุน้อยกว่าเขาร่วม 10 ปีเต็ม! โรดริเกรซอาจจะไม่มีโอกาสชนะแกรนด์ทัวร์อีกแล้ว (ถ้าไม่ได้โชคดีแบบคริส ออเนอร์)

ผลการแข่งขัน

วิดีโอไฮไลท์

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *