ยอดนักปั่น เขาปั้นกันอย่างไร?

ผู้ปกครองหลายๆ คนที่ชื่นชอบการปั่นจักรยานต่างใฝ่ฝันให้ลูกตัวเองได้เข้าแข่งจักรยานระดับโลก เช่นเดียวกับที่นักปั่นเยาวชนชื่อดังหลายคนที่ประสบความสำเร็จทั้งชื่อเสียงและเงินทองอย่าง Tejay Van Garderen (ทีม BMC) อันดับ 5 Tour de France ปี 2012 และ Taylor Phinney อดีตแชมป์ Paris-Roubaix ระดับ U23 สองสมัยซ้อน แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเป็นแชมเปี้ยนได้
วันนี้เรามาดูกันว่ามีปัจจัยสามอย่างที่มีผลกระทบต่อศักยภาพนักปั่นมากที่สุด นั่นคือ พันธุกรรม แรงกระตุ้น และการสนับสนุนจากคนรอบข้าง

หมายเหตุ: บทความนี้เรียบเรียงจากข้อเขียนของ Dr. Jim Taylor ซึ่งเขียนเป็นบทความลงในเว็บไซต์ Pezcyclingnews เมื่อวันที่ 16 มกราคมปีนี้ครับ Dr. Jim Taylor เป็นแพทย์ชั้นนำในวงการวิทยาศาสตร์การกีฬา เคยเป็นที่ปรึกษาสุขภาพจิตให้โปรทีมจักรยานระดับโลกและกีฬาอื่นๆ อีกมากมาย  

 

1. พันธุกรรม (genes)

พันธุกรรมคือรากฐานความสำเร็จของนักปั่นแทบทุกคน ไม่ว่าเขาจะได้รับความช่วยเหลือขนาดไหน หรือจะมีความมุ่งมั่นมากสักเท่าไรก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ถ้าขาดลักษระร่างกาย กล้ามเนื้อ ระบบเลือดและทางเดินหายใจที่เหมาะสมครับ

อย่างไรก็ดีใช่ว่าคนที่ตั้งใจมุมานะฝึกซ้อม แต่ขาดยีนที่เหมาะสมจะไม่ประสบความสำเร็จเลย แน่นอนว่าถ้าตั้งใจขยันฝึกซ้อมและได้รับการสนับสนุนให้ถูกลู่ทาง เด็กก็สามารถเจริญเติบโตในเส้นทางนักกีฬาจักรยานอาชีพ แต่ถ้าตั้งใจจะเป็นแชมป์​ Tour de France เราต้องมียีนของยอดนักปั่นย่างน้อย 95% เราอาจจะฝึกเพิ่มกล้ามเนื้อและความอดทนได้ แต่เพดานความแข็งแกร่งของเราถูกจำกัดด้วยพันธุกรรมจากพ่อและแม่อยู่ดี ยกตัวอย่างเช่น Taylor Phinney ที่เขากลายมาเป็นยอดนักปั่นได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ก็ต้องขอบคุณทั้งพ่อและแม่ David/ Connie Carpenter Phinney ที่เป็นนักกีฬาจักรยานระดับโลกทั้งคู่ครับ ถ้าเราสังเกตนักปั่นฝีเท้าดีหลายๆ คนก็มักจะมาจากครอบครัวนักกีฬา เช่น Moreno Moser หลานชาย Francesso Moser ตำนานนักปั่นอิตาเลียน แต่ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น พันธุกรรมระดับโลกก็ไม่เพียงพอที่จะผลักดันให้เราเป็นยอดนักปั่นได้ ต้องมีความมุมานะมากพอด้วย

ครอบครัว Phinney นักปั่นทั้งตระกูล..
ครอบครัว Phinney นักปั่นทั้งตระกูล..

 

2. แรงกระตุ้นและความตั้งใจ (Motivation)

แรงกระตุ้นนั้นเป็นปัจจัยเดียวที่อยู่ภายใต้การควบคุมของนักกีฬา 100% ถึงแม้เราจะเลือกเกิดเป็นยอดมนุษย์ไม่ได้ แต่เราก็สามารถดึงเอาศักยภาพทั้งหมดที่เรามีออกมาใช้ได้ครับ ไม่ว่ามันจะมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ผลการวิจัยหลายต่อหลายแห่งต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ปัจจัยเดียวที่ช่วยให้นักปั่นประสบความสำเร็จมากที่สุดคือความมุมานะในการฝึกซ้อม จะมีเชื้อดีขนาดไหนก็ตาม ถ้าขาดความมุมานะและไม่ขยันอดทน ก็ไม่สามารถดึงเอาความสามารถของเรามาใช้ได้เต็มที่ แน่นอนว่าคนที่มียีนนักกีฬาและมีความตั้งใจมากกว่าคนอื่นย่อมประสบความสำเร็จมากที่สุด

คำถามยอดฮิตสำหรับผู้ปกครองก็คงไม่พ้นว่าเราจะสร้างแรงบันดาลให้ลูกหลานได้อย่างไร? ในความเป็นจริงแล้ว แรงกระตุ้นนั้นมันยื่นให้กันไม่ได้ เด็กต้องเป็นคนค้นหาด้วยตัวเขาเอง เขาต้องชอบและรักที่จะออกปั่นจักรยานพร้อมอดทนกับความยากลำบากระหว่างการฝึกซ้อม (admin note – สำหรับคนที่ไม่มีลูก ถ้าอยากจะปั่นได้เก่งและแรงไม่แพ้คนอื่น เราก็ต้องหาแรงบันดาลใจให้ตัวเองเหมือนกันครับ) ใช่ว่าทุกคนจะอยากเป็นแชมป์จักรยาน แต่ความสนุกและแรงกระตุ้นให้เราออกปั่นไม่ได้มีแค่ว่า “ต้องชนะ” คนอื่นอย่างเดียว หลายๆ คนก็อาจจะชอบที่ได้ออกไปปั่นและสังสรรค์กับเพื่อนๆ บางคนชอบเล่นกีฬากลางแจ้ง บางคนชอบเป็นส่วนหนึ่งของทีม…เรื่องของจิตใจนั้นบังคับกันไม่ได้แต่เราสามารถปลูกฝังได้ ถ้าไม่ชอบสักอย่างก็คงต้องหากีฬาอื่นแล้วหละครับ

 

3. การสนับสนุน (Support)

ถึงจะมียีนระดับแชมป์โลกและมีความตั้งใจแน่วแน่ดุจหินผา แต่นักกีฬาทุกคนก็ไม่อาจจะประสบความสำเร็จได้เลยถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนที่ดี หนึ่งต้องเริ่มที่ตัวนักปั่นเองที่จะต้องเชื่อฟังโค้ช และตั้งใจฝึกซ้อมอย่างสุดความสามารถ เพื่อดึงเอาศักยภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจออกมาให้ถึงที่สุด เพื่อเอาชนะเป้าหมายและสนุกไปกับมันด้วย สำหรับตัวผู้ปกครองเองก็ต้องรู้ว่าควรจะช่วยเหลือลูกอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นหาอุปกรณ์ที่เหมาะสมให้ใช้ รับส่งไปซ้อมให้ตรงเวลา ดูแลทั้งเรื่องกีฬาและการศึกษาไม่ให้ขาดตกบกพร่อง สนอกสนใจสภาพจิตใจของเขา และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับโค้ชและผู้ปกครองคนอื่นๆ

 

สรุป

บทความนี้ผมเรียบเรียงมา และคิดว่าน่าจะมีประโยชน์ไม่น้อย ถึงแม้บ้านเราจะไม่มีองค์กรและหน่วยงานที่สนับสนุนนักปั่นจักรยานหน้าใหม่ให้เข้าสู่วงการระดับโลกได้ง่ายๆ  แต่การสนับสนุนช่วยเหลือเด็กในสิ่งที่เขารักอย่างถูกต้องย่อมเป็นเรื่องดี การแข่งขันจักรยานก็เป็นทางเลือกหนึ่งครับที่จะใช้เค้นศักยภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจของตัวเราเองและลูกๆ ด้วย ไม่ว่าเราจะเล่นกีฬาอะไรก็ตามถ้าเราตั้งใจฝึกซ้อม มุ่งมั่นทำให้ดีที่สุด มันย่อมเป็นการฝึกนิสัยและระเบียบวินัยของเราไปในตัว ซึ่งจะมีประโยชน์กับชีวิตของเราโดยที่ไม่รู้ตัว เราอาจจะแค่ออกปั่นกันเองสนุกๆ กับเพื่อน แต่ถ้าสามารถวางแผนการฝึกซ้อมให้เป็นระบบด้วย ก็จะช่วยพัฒนาทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจของเราให้ดียิ่งขึ้น

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

2 comments

  1. แรงบันดาลใจสำคัญสำหรับทุกอย่างครับ ไม่เฉพาะจักรยาน

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *