สัปดาห์นี้ Garmin อัปเดตคอมพิวเตอร์จักรยานรุ่นเรือธง Garmin Edge 1030 ที่จะมาแทนที่ Garmin Edge 1000 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 จุดเด่นมีหน้าจอสัมผัสที่ใหญ่ขึ้น แบตเตอรี่ใช้ได้นานกว่าเดิมและการเชื่อมต่อใหม่ๆ ให้รองรับพาวเวอร์มิเตอร์และเซนเซอร์ต่างๆ รวมถึงเทรนเนอร์ได้หลากหลายขึ้น
นอกจากนี้ยังอัปเดตพาวเวอร์มิเตอร์ติดบันได Garmin Vector 3 และ 3S ซึ่งแทนที่ Garmin Vector 2 ด้วย
Garmin Edge 1030
Garmin Edge 1030 มากับหน้าจอสัมผัสที่อ้างว่าใช้งานได้หลากหลายผิวสัมผัสถึงจะใส่ถุงมือจักรยานหรือฝนตกก็ยังกดสั่งงานได้ แบตเตอรีใช้งานได้นานขึ้นเพิ่มเป็น 20 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และถ้าใครต้องการใช้งานนานกว่านั้น Garmin ปล่อยตัว battery pack ที่ใช้ยึดไว้ใต้เมาท์เพิ่มอายุการใช้งานได้อีก 40 ชั่วโมง
ในด้านการเชื่อมต่อ ผู้ใช้ Edge 1030 สามารถตอบข้อความที่ส่งเข้ามาในโทรศัพท์มือถือผ่านหน้าจอ Garmin ได้เลยโดยการใช้ข้อความที่ตั้งไว้ล่วงหน้า ไม่จำเป็นต้องควักมือถือออกมาพิมพ์ตอบเพื่อความปลอดภัย
Edge 1030 รองรับ Bluetooth Smart Sensor ทำให้ใช้งานกับเซนเซอร์ที่เป็นระบบ Bluetooth ได้แล้ว
สำหรับคนที่ชอบปั่นจักรยานคนเดียวไกลๆ แล้วเป็นห่วงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ Garmin เพิ่มฟีเจอร์ตรวจจับว่าผู้ใช้เกิดอุบัติเหตุระหว่างปั่นหรือเปล่าและสามารถส่งสัญญาณแจ้งพิกัดพร้อมติดต่อเบอร์โทรฉุกเฉินได้อัตโนมัติ ฟีเจอร์ Grouptrack และ Livetrack ที่นักปั่นสามารถแชร์พิกัดการปั่นให้เพื่อนหรือครอบครัวตามดูได้ก็ได้รับการปรับปรุงให้ใช้งานได้สะดวกกว่าเดิมด้วย
ด้านการนำทาง เครื่อง Edge 1030 มากับ ฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้สามารถหาเส้นทาง “ยอดนิยม” ในพื้นที่ๆ ตัวเองปั่นได้ Garmin ใช้ฐานข้อมูลเส้นทางการปั่นจากข้อมูลที่นักปั่นอัปโหลดเข้าระบบ Garmin Connect เพื่อหาเส้นทางที่คนใช้เยอะที่สุด และปรับปรุงระบบนำทางการปั่นให้ดีขึ้น มีการเตือนล่วงหน้าถึงโค้งอันตรายหรือเส้นทางที่ต้องระวังเป็นพิเศษ
สำหรับคนที่ขี้เกียจหาเส้นทางเอง ก็สามารถสั่งให้ Garmin หาเส้นทางแบบ ไป-กลับ ในระยะทางที่ตัวเองต้องการ เพื่อสร้างทริปปั่นทันทีจากพิกัดปัจจุบัน
ปรับปรุงระบบ Strava Live Segment
สำหรับคนที่ชื่นชอบการล่า Strava KOM, Garmin ก็ปรับปรุงให้ใช้ฟีเจอร์ Live Segment ได้ง่ายขึ้น จากที่แต่ก่อนนักปั่นดูได้แค่ระยะทางและเวลาของเราเทียบกับเจ้าของสถิติใน Segment นั้น ใน Edge 1030 เราตั้งให้หน้าจอแสดงระดับความชันได้ด้วย มีประโยชน์กับการล่า KOM บนทางขึ้นเขาที่เราไม่เคยปั่นมาก่อนเพื่อกะแรงให้ทำความเร็วได้ตลอดเส้นทางครับ
ถ้าไม่อยากจะเทียบเวลาของตัวเองใน Segment กับเจ้าของสถิติ เราสามารถตั้งให้เครื่องใช้เวลาของเราจากการปั่นบนเส้นทางนี้ครั้งล่าสุด หรือเวลาของเพื่อนที่เวลาช้ากว่าเราในตาราง segment หรือจะเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่เราเคยทำไว้ก็ได้ มีประโยชน์กับการเช็คเวลาและฟอร์มของตัวเองเทียบกับผลงานล่าสุดบน Segment นั้นๆ
หรือถ้ายังไม่คุ้นชินกับเส้นทางแถวนั้น อยากจะเลือก Segment ดูก่อนว่าจะลองไปทุบ KOM ไหนดี คุณสามารถเลือกดู Segment ในละแวกผ่านเครื่อง Edge 1030 ได้โดยตรงโดยไม่ต้องดูผ่าน app Strava ในมือถือ
ส่วนคนที่ใช้ Garmin ฝึกซ้อมเป็นประจำ สามารถดาวน์โหลดแอพ TrainingPeaks จาก Connect IQ เพื่อ sync โปรแกรมการฝึกซ้อมเข้า Garmin โดยตรง ไม่ต้องตั้ง workout เองผ่าน Garmin Connect อีกต่อไป
ราคา
ตัวเครื่องราคาอยู่ที่ 499.95 ปอนด์ หรือประมาณ 21,500 บาท (รอคอนเฟิร์มราคาไทยจากตัวแทนจำหน่าย) แต่ถ้าต้องการซื้อแบบ Bundle ที่มากับเซนเซอร์ความเร็ว รอบขา และสายรัดหัวใจ ราคาจะอยู่ที่ 549 ปอนด์หรือประมาณ 24,00 บาท
ใครสนใจรีวิวอย่างละเอียดลองตามไปอ่านได้ที่ DC Rainmaker ครับ
พาวเวอร์มิเตอร์ Garmin Vector 3/3S pedals
Garmin เป็นผู้ผลิตพาวเวอร์มิเตอร์รายแรกๆ ที่ทำพาวเวอร์มิเตอร์ติดบันไดออกวางจำหน่าย และปล่อยออกมาสองเจเนอเรชันแล้ว เจเนอเรชันล่าสุด Garmin Vector 3/3S ออกแบบใหม่หมด เลิกใช้ Pod ที่ยื่นออกจากตัวบันได เซนเซอร์จะอยู่ภายในตัวบันไดเลย ติดตั้งง่ายกว่าเดิมเหมือนการใส่บันไดธรรมดา ไม่จำเป็นต้อง calibrate ใหม่ทุกครั้ง และลดระยะความสูง stack ด้วย ตัวพาวเวอร์มิเตอร์ใช้ไฟสถานะ LED ในการเซ็ตอัป
ฟีเจอร์อื่นๆ ยังคล้ายกับ Vector 2 บอกรอบขา แยกวัดพลังได้สองข้าง บอกค่า Torque Effectiveness และ Pedalling Effiency ได้ แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 120 ชั่วโมง
Garmin Vector 3 ราคา 849.99 ปอนด์ หรือประมาณ 37,000 บาท Garmin Vector 3S ที่วัดพลังข้างเดียวราคาย่อมเยาว์กว่า ที่ 399 ปอนด์ หรือประมาณ 17,000 บาท