ใครจะเป็นแชมป์ 2016 Liège-Bastogne-Liège?

Liège-Bastogne-Liège หรือเรียกสั้นๆ ว่า LBL คือรายการแข่งวันเดียวหรือที่เรานิยมเรียกว่าสนามคลาสสิคที่มีอายุมากที่สุดในโลก แข่งมาตั้งแต่ปี 1892 และแข่งมาแล้ว 101 ครั้ง ไม่ใช่แค่เก่าแต่เป็นหนึ่งในสนามที่ยากและโหดที่สุดด้วยครับ ถ้า Paris-Roubaix คือที่สุดของสนามถนนหิน LBL ก็คือที่สุดของสนาม hilly one day race เช่นกัน และปีนี้เรามาดูกันว่าเส้นทางเป็นยังไง ใครจะได้แชมป์ครับ


2016  Liège-Bastogne-Liège? (เบลเยี่ยม)
24 เมษายน 19:00-22:00
ลิงก์ถ่ายทอดสด: www.duckingtiger.com/live
รายชื่อผู้เข้าแข่งขัน: Startlist


เส้นทาง

PROFILระยะทางรวม 253 กิโลเมตร มีเนินชันที่อยู่ในแผนที่ 10 เนิน แต่ถ้าดูจากรูปโปรไฟล์จะเห็นว่ามีเนินเล็กๆ น้อยๆ มากกว่านั้นและมีเกือบทุกกิโลเมรเลยทีเดียว โดยเฉพาะช่วงสุดท้ายที่เนินมาต่อๆ กัน ทำให้การแย่งชิงตำแหน่งหน้ากลุ่มเป็นเรื่องยากและสำคัญ ไม่แพ้กับการแย่งกันเข้าช่วงถนนหินใน Paris-Roubaix เลยทีเดียวครับ

lblclimbs2016

รูปข้างบนนนี้คือ 4 เนินสำคัญในช่วงสุดท้ายของการแข่งขัน ทีเป็นเนินตัดสินเลยก็ว่าได้ ชันที่สุดคือเนิน Cote de la Redoute ในกิโลเมตร 218.5 ที่ชันเฉลี่ย 9.5% กับระยะทาง 1.7 กิโลเมตร เป็นจุดที่ตัวเต็งหลายคนชอบใช้โจมตีหนีกลุ่ม อีกเนินที่น่าจะมีผลมากคือเนินลูกสุดท้าย Cote de Sanit-Nicolas ที่อยู่ห่างเส้นชัยไปไม่กี่กิโลเมตร

la-doyenneความท้าทายไม่ใช่แค่ความชันและจำนวนของเนินแต่เป็นลักษณะเส้นทางที่แคบและซับซ้อนเต็มไปด้วยโค้งเล็กโค้งน้อย โดยเฉพาะทางลงเขา ทำให้เป็นรายการที่ประสบการณ์นักปั่นเป็นปัจจัยสำคัญในการแพ้ชนะ .

ก่อนจบจะมีเนินสั้นๆ Cote de la Rue Naniot ซึ่งเป็นเนินที่ปูด้วยถนนหิน เป็นลูกเล่นใหม่จากผู้จัดการแข่งขันที่เพิ่มเข้ามาในปีนี้และชันใช้ได้ครับ ระยะทาง 2.5 กิโลเมตรและชันเฉลี่ย 10%!! เอาไว้คัดตัวกันก่อนเข้าเส้นชัย แน่นอนถ้าหลุดกันมาได้แล้วสังเกตที่เส้นชัยก็เป็นเนินอีก!

* * * *

ตัวเต็ง

ชัดเจนว่าปีนี้ตัวเต็งท็อปฟอร์มที่สุดในซีรีย์อาร์เดนส์คลาสสิคมีแค่คนเดียว คืออเลฮานโดร วาวเวอเด้ กัปตันทีม Movistar วัย 35 ปีที่เพิ่งคว้าแชมป์ Fleche Wallonne สมัยที่ 4 ไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทำไมเขาถึงเป็นตัวเต็ง? นอกจากฟอร์มแล้ว วาวเวอเด้น่าจะเป็นคนที่มีประสบการณ์เยอะที่สุดในรายการนี้ครับ เขาแข่งมาทั้งหมด 11 ครั้ง ติดโพเดี้ยม 6 ครั้ง เป็นแชมป์ 3 ครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุดคือปีที่แล้ว ชัดเจนว่าเขารู้สนามนี้ยังกะเป็นสนามหลังบ้าน

วาวเวอเด้เป็นคนที่ใจเย็นและ “รู้จังหวะ” เหมือนใน Fleche Wallonne ที่เขารอจนวินาทีสุดท้ายเพื่อออกแซงคู่แข่ง ถ้าใน LBL กลุ่มตัวเต็งเข้ามาใกล้ๆ เส้นชัยพร้อมกัน วาวเวอเด้น่าจะเป็นคนที่เปิดจังหวะได้ดีที่สุด

อีกปัญหาสำหรับคนอื่นคือ..เขาเป็นนักไต่เขาที่สปรินต์ได้ดีมาก และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาใจเย็นในสนามอื่นๆ ในวินาทีคับขันก่อนเข้าเส้นชัยเพราะเขารู้ว่าตัวเองมีสปีดปลายดีกว่านักไต่เขาคนอื่นๆ นอกจากไซมอน เจอร์รานส์ (อีกหนึ่งตัวเต็งจาก Orica-GreenEdge) แล้ว ก็มีคู่แข่งน้อยมากที่จะชนะเขาในการสปรินต์ตัว-ตัวได้

ท้ายสุดเป็นเรื่องของทีม Movistar เป็นทีมที่แกร่งมากในรายการประเภทนี้ เพราะทีมอัดแน่นไปด้วยนักไต่เขาและ Rouleur ที่พร้อมจะเบรคอเวย์หรือปิดระยะห่างกลุ่มหนีถ้าจำเป็น ใน Flehce Wallonne ทีม Movistar ไม่ได้แค่ปิดการโจมตีกลุ่มหนีจนหมด แต่แจกหมัด counter-attack เองด้วยซ้ำในช่วงสุดท้ายที่ส่งจอน อิซาเกอร์เร ยิงหนีตัดหน้าคู่แข่งก่อนจะบังคับให้เบรคอเวย์โดนรวบเพื่อรอหัวหน้าทีมเก็บผลงาน

 

แล้วทีมอื่นจะชนะยังไง?

ด้วย 3 ปัจจัยข้างต้น – ทุกคนรู้ว่าวาวเวอเด้ไม่จำเป็นต้องเบรคอเวย์หนีเดี่ยว แทบทุกครั้งที่เขาชนะ เขาชนะด้วยการสปรินต์จากกลุ่มเล็กๆ นั่นหมายความว่าทีมอื่นไม่สามารถพาเขาไปถึงเส้นชัยแล้วจะรอเสี่ยงดวงสปรินต์ได้ครับ และถึงจะเบรคอเวย์หนี ถ้าลากไม่โหดจริง Movistar ก็น่าจะช่วยกันตามเก็บได้ไม่ยาก

แต่ LBL มีอุปสรรคที่รายการอาร์เดนส์อื่นๆ ไม่มี นั่นคือมันเป็นสนามที่ยากและยาวมาก ยาวเกือบ 260 กิโลเมตร ซึ่งช่วงสุดท้ายลูกทีมของ Movistar (และทีมอื่นๆ) คงแผ่วแรงกันไปหมด เหลือแค่ตัวเต็งและอาจจะเป็นผู้ช่วยคนสุดท้าย ซึ่งก็เอื้อต่อการโจมตีตัดแรงตัวเต็งคู่แข่ง อาจจะใช้แผนเบรคอเวย์หนีที่สัก 20-15 กิโลเมตรสุดท้ายบนเนินลูกสำคัญ ทีมอย่าง Etixx-Quickstep ที่มีแดน มาร์ตินและจูเลียน อลาฟิลลิป ไม่สามารถสู้วาวเวอเด้แบบตัว-ตัวได้ในการสปรินต์แน่นอน วาคิม โรดริเกรซ (Katusha) ก็ด้วย แม้แต่เควียทคอฟสกี้ (Sky) ที่วันนี้จะมีแชมป์ Tour de France อย่างคริส ฟรูมเป็นลูกมือ ก็ต้องหาจังหวะโจมตีก่อนถึงเส้นชัยถึงจะการันตีชัยชนะได้ดีที่สุด

LBL หลายๆ ปีที่ผ่านมา นักปั่นมักจะมาถึงเส้นชัยกันเป็นกลุ่ม การที่ผู้จัดเพิ่มเนินพิฆาต (Cote de la Rue Naniot) ไว้ในช่วงสามกิโลสุดท้ายน่าจะช่วยคัดตัว หรือใช้เป็นแท่นเบรคอเวย์ของตัวเต็งได้ดีกว่าที่ผ่านมา และเป็นจุดที่วาวเวอเด้และ Movistar ต้องระวังให้ดีเช่นกันครับ

Etixx-Quickstep

มาแบบแพคคู่กับมาร์ติน แชมป์เก่า 2014 และอลาฟิลลิป น้องใหม่ไฟแรงชาวฝรั่งเศส ทั้งคู่ติดโพเดี้ยม Fleche Wallonne พ่ายให้กับวาวเวอเด้ แต่ก็เป็นตัวเต็งที่น่ากลัวทั้งสองคน อลาฟิลลิปสปรินต์ได้ดีกว่ามาร์ติน EQS คงต้องการแชมป์สนามนี้มากกว่ารายการไหนๆ เพราะเป็นโอกาสสุดท้ายแล้วในการทำผลงานสนามคลาสสิค หลังจากที่ยังไม่ชนะสนามสำคัญไหนๆ เลย

Sky

ส่งมิฮาล เควียทคอฟสกี้เข้าประกวด แชมป์สนาม Amstel Gold ปีก่อนและเส้นทางสนามที่เขาได้แชมป์โลกก็ไม่ต่างจาก LBL มากนัก ดูน่าจะเป็นตัวเต็งที่น่ากลัวคนหนึ่งที่มีลุ้นโพเดี้ยม ปีนี้ได้คริส ฟรูมมาช่วยเป็นหัวลากและยังมีเวาท์ โพลส์เป็นลูกมืออีกคนด้วย ปกติฟรูมไม่ค่อยถูกกับ LBL ปั่นไม่จบบ้าง อันดับไม่ดีบ้าง ก็ต้องดูว่าจะช่วยอดีตแชมป์โลกได้ดีขนาดไหน

AG2R

ส่งนักไต่เขามาหลายคน ทั้งโรเมน บาร์เดต์, พอซโซวิโว่ และคริสทอฟ เพโรด์ ซึ่งเป็นชุดที่ลงแข่ง Giro del Trentino มาหยกๆ และฟอร์มดีทีเดียวครับ ทั้งหมดเป็นนักไต่เขา แต่รายการนี้เป็น pure climber อย่างเดียวอาจจะไม่พอ จุดเด่นของ AG2R อยู่ที่จำนวน แต่ถ้าว่ากันแบบตัวตัวแล้วก็ยังขาดประสบการณ์และไม่เด่นเหมือนตัวเต็งคนอื่นๆ ครับ

Orica-GreenEdge

มีไซมอน เจอร์รานส์ แชมป์ปี 2014 และ LBL เป็นรายการที่เขา target อยากจะเอาชนะให้ได้ทุกปี ปีนี้ก็ดูฟอร์มดีทีเดียว ได้ที่ 11 ใน Amstel Gold Race และรู้จักเส้นทางรายการนี้ดี ทีมมากับผู้ช่วยเก่งๆ หลายคน ทั้งดาริล อิมปีย์, ไมเคิลอัลาซินี และพี่น้องเยทส์ที่น่าจะเป็นแผนสองได้

Astana

มีวินเชนโซ นิบาลิ ที่เคยติดโพเดี้ยมในปี 2012 และยาค็อป ฟูลก์แซงผู้ช่วยคนสำคัญ ทั้งคู่เพิ่งลงแข่ง Giro del Trentino แต่ฟอร์มนิบาลิในรายการนั้นต้องบอกว่าไม่ดีเลยครับ หลุดกลุ่มตัวเต็งแทบทุกวันเวลาขึ้นเขา แต่ก็จะเป็นคนที่ประมาทไม่ได้ในสนามแข่งวันเดียว

Wanty Groupe-Gobert

มีเอนริโค แกสพาร็อตโต้ ที่ฟอร์มดีมากหลังจากชนะ Amstel Gold มาหยกๆ เป็นม้ามืดและตัวเต็งคนหนึ่งที่มีลุ้นในรายการนี้ แต่สนามนี้เขาจะไม่ถูกปล่อยหนีได้ง่ายๆ อีกแล้วเพราะทุกทีมคงหมายหัวเขาตามเนินสำคัญไม่ปล่อยให้รอดแน่นอนยกเว้นว่าเขาจะแข็งแกร่งจนหนีคนอื่นได้แบบขาดๆ เหมือนทีเราเห็นเมื่อวันอาทิตย์ก่อน

Katusha

มากับวาโรดริเกรซ หนึ่งในตัวเต็งสนามอาร์เดนส์ แต่ปีนี้ดูไม่ค่อยมีฟอร์ม ไม่รู้เป็นเพราะอายุมากขึ้นหรือปัจจัยอื่น แต่เขาก็ติดโพเดี้ยมมาหลายปีในรายการนี้ครับ มีเรคอร์ดที่ดีไม่แพ้วาวเวอเด้ (ถึงจะยังไม่เคยชนะก็ตาม)

คนอื่นๆ ที่น่าจับตามองอย่าลืม รูย คอสต้าและดิเอโก้ อูลิซซี่ (Lampre), Louis Mantjes และสตีฟ คัมมิงส์ (Dimension Data), ทิม เวลเลนส์ และโทนี่ กาโลแพน (Lotto-Soudal), ซามูเอล แซนเชส และริชีย์ พอร์ท (BMC), ไมเคิล วูดส์ (Cannondale), โรมัน ครอยซิเกอร์และราฟาล ไมย์ก้า (Tinkoff)

 * * *

ไฮไลท์ปีที่ผ่านมา

2013 

2014 

2015 

 

ถ่ายทอดสดเริ่ม 19:00-22:00 ติดตามได้ที่ duckingtiger.com/live เหมือนเดิมครับ

 * * *

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *