ใครจะเป็นแชมป์ La Fleche Wallonne 2017?

La Flèche Wallonne 2017, 19 เมษายน 
ถ่ายทอดสด: 19:30-21:30 ที่ duckingtiger.com/live

วันพุธนี้เป็นแมทช์สำคัญอีกหนึ่งสนามในซีรีย์อาร์เดนส์คลาสสิค กับรายการ La Fleche Wallonne ครับ เป็นสนามอุ่นเครื่องก่อนจะปิดท้ายกันที่ Liege-Bastonge-Liege วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้

ถึงจะเป็นรายการคั่นกลางก็ใช่ว่าไม่น่าชม เพราะนักปั่นตัวเต็งระดับดาวดังก็ยังมากันอย่างคับคั่ง ลงแข่งกัน 22 ทีม 248 คน

 

สนามนี้น่าสนใจตรงไหน?

Fleche  Wallonne มีแลนด์มาร์คสำคัญที่เป็นซิกเนเจอร์ของรายการนี้ ซึ่งก็คือเนิน Mur de Huy ซึ่งเป็นเส้นชัยของวันแต่ชันระดับพระกาฬ เนินนี้ความยาวแค่ 1,300 เมตร แต่มีความชันเฉลี่ยถึง 9.3% และชันสูงสุดถึง 26% ครับ และแข่งกันมา 81 ปีแล้ว สนามนี้มีชื่อเล่นว่า World Hill Climb Championship เพราะเหมือนเป็นสนามประลองกำลังของเหล่านักไต่เขา และสายระเบิดเนิน ระยะทางรวม 200 กิโลเมตร แต่ส่วนใหญ่นักแข่งจะออมแรงมาซัดกันที่ตีนเนิน Huy ทีเดียวครับ

ด้วยที่เป็นเนินสั้น ชัน ทีมใหญ่มักจะพยายามคุมเกมไล่จับกลุ่มหนีให้ทันก่อนขึ้นเนินพอดี เพื่อวางตำแหน่งให้เอซอยู่หน้ากลุ่มก่อนขึ้นเนิน น้อยครั้งมากที่จะจบเกมด้วยเบรคอเวย์

รายการนี้มีแชมป์ตัวท็อปอยู่หนึ่งคน เขาคืออเลฮานโดร วาวเวอเด้ (Movistar) เป็นแชมป์ 4 สมัย (มากที่สุด) และสามสมัยล่าสุดเขากก็ชนะมาตลอดทุกปี โดยเฉพาะสองปีที่ผ่านมาที่เขากะจังหวะพิชิตคู่แข่งแม่นยำเหมือนจับวางแทบจะแบเบอร์มาเลยทีเดียว

วิดีโอข้างบนนี้ ของปี 2014 เป็นปีที่โชว์ศักยภาพของวาวเวอเด้เป็นอย่างดีครับ ที่ตีนเขา AG2R เปิดเกมหนีก่อนเพื่อชงให้คาร์ลอส เบทันเคอร์ แต่เป็นเบาเก้ โมเล็มม่าและมิฮาล เควียทคอฟสกี้ที่ขึ้นไล่ เควียทคอฟสกี้ยิงก่อน ตามด้วยแดน มาร์ติน เราแทบไม่เห็นวาวเวอเด้จนไม่กี่เมตรหน้าเส้นชัยที่เขาทิ้งห่างทุกคนแบบขาดลอย จากนั้นเขาก็ยังไม่เคยแพ้ในรายการนี้อีกเลย

 

เส้นทางเป็นยังไง?

PROFIL

เช่นเดียวกับสนามอาร์เดนส์อื่นๆ รายการนี้เนินเยอะครับ แต่เนินตัดสินจริงๆ ก็อย่างที่บอก อยู่ที่เส้นชัย แต่เราไม่ได้ขึ้น Mur de Huy แค่ครั้งเดียวนะ เราต้องขึ้นถึงสามครั้งที่ 58, 29 และ 1.3 กิโลเมตรสุดท้าย

เนิน Huy เองนั้นทางขึ้นค่อนข้างแคบครับทำให้ positioning สำคัญมาก ถ้าถูกบล็อคก็ไม่ต้องหวังขึ้นแซงคนอื่นเลย ตรงที่ชันที่สุดชัน 26% (ตรงด้านในโค้ง) แต่ถ้าเลือกฝั่งนอกโค้งที่ไม่ชันก็จะชันแค่ 19% แต่ยาวกว่า ถึงจะชันแบบนี้แต่โปรหลายคนอัดขึ้นเนินนี้ด้วยจานหน้าใหญ่ 53t ครับ

ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลมากนัก ไม่เหมือนรายการคลาสสิคอื่นๆ ตัวเต็งมักจะเกาะกลุ่มรวมกันได้จนถึงเนินสุดท้าย ทำให้ชัยชนะเป็นเรื่องของจังหวะ (timing) และตำแหน่ง (positioning) – เป็นเกมแนวแทคทิคัลนั่นเอง ต้องหาสมดุลระหว่างจะเปิดโจมตีตอนไหน ถ้าเปิดยาวไปรับรองโดนทับไลน์ แต่ถ้าเปิดช้าไปอาจจะขึ้นสปรินต์ไม่ทัน

ไม่ใช่การขึ้นเขายาวๆ แบบในแอลป์หรือโดโลไมท์ ไม่ใช่เขาสำหรับตัวเต็ง GC ที่จะเพซความเร็วขึ้นไปเองครับ เราเลยเรียกมันว่าสนามแห่งการแข่งสปรินต์ขึ้นเขานั่นเอง

 

ใครจะเป็นแชมป์?

เป็นสนามสำหรับนักปั่นสไตล์ Puncheurs (Puncher) หรือคนที่กระชากขึ้นเนินแบบไฮสปีด ต้านแลคติคระดับ VO2Max ได้มากกว่าคนอื่น ซึ่งตัวเต็งเบอร์หนึ่งก็จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ The Green Bullet อเลฮานโดร วาวเวอเด้ จาก Movistar ครับ (★★★★★)

สิ่งที่ทำให้ Bala ชนะบ่อยๆ ไม่ใช่แค่ความสามารถในการสปรินต์ขึ้นเนิน (นักไต่เขาส่วนมากไม่ explosive เท่าวาวเวอเด้) แต่เป็นเรื่องประสบการณ์การตัดสินใจและไหวพริบ แทบทุกปีที่เขาชนะ เขาไม่ใช่นักปั่นที่แรงดีที่สุด แต่จังหวะดีกว่าคนอื่นเสมอ มีหลายครั้งถ้าเราไปย้อนดูรีเพลย์จะเห็นว่าเขาอยู่หลังคนอื่นตลอด จนช่วงตัดสิน 100 เมตรหน้าเส้นชัยที่โผล่ขึ้นมาแบบคนอื่นตามไม่ทัน

ปีนี้วาวเวอเด้ฟอร์มดีชนะสเตจเรซมาถึงสามรายการ ใน Amstel Gold เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาอาจจะหลุดกลุ่มตัวเต็งไป แต่ก็ยังอยู่แถวหน้าของขบวนในช่วงคับขันครับ เพราะงั้นฟอร์มก็น่าจะยังสดอยู่

คนที่พอจะชนะเขาได้ก็ไม่ได้มาแข่ง นั่นคือ ฟิลลิป จิลแบร์ (Quickstep Floors) ที่ไตช้ำจากการล้มใน Amstel Gold ที่เขาได้แชมป์ ในขณะที่จูเลียน อลาฟิลลิปเพื่อนร่วมทีมก็ป่วย (เคยติดโพเดี้ยม) และเวาท์ โพลส์ (Sky) ที่เป็นแชมป์ Liege ปีก่อน ก็ไม่ได้ลงแข่งเช่นกัน

แล้วเหลือใครบ้าง? ยังมีเควียทคอฟสกี้และเซอร์จิโอ้ เฮนาว (Sky ★★★★) ที่ทำงานแพคคู่กันได้ดุเดือดใน Amstel Gold ที่น่าจับตามอง, ริกโอเบอร์โต้ อูราน และไมเคิล วูดส์ (Cannondale-Drapac ★★★) ก็ฟอร์มดี, แดน มาร์ติน (Quickstep ★★★) น่าจะมีลุ้นโพเดี้ยม, เอสเตบาน ชาเวซ (Orica-Scott ★★★★) ก็น่าจะถนัดเส้นทางแบบนี้

ทาง Trek ส่งยาลินสัน พานทาโน่ (★★★) เข้าท้าชิง เป็นอีกคนที่แรงระเบิดดีครับ เห็นลากให้คอนทาดอร์ในช่วงสำคัญบ่อยๆ ในฤดูกาลนี้, อย่าลืมดู รูย คอสต้า (Team UAE ★★) และไมเคิล อัลบาซินี (Orica-Scott ★★), ราฟาล ไมย์ก้า (Bora-Hansgrohe ★★) และทิม เวลเลนส์ (Lotto-Soudal ★★★)  


 

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *