[dropcap letter=”ใ”]นบทสัมภาษณ์ล่าสุดกับ นสพ. The Times เซอร์ แบรดลีย์ วิกกินส์มั่นใจว่าเขาจะทำลายสถิติ Hour Record ได้แน่นอน กับเป้าหมายระยะทาง 55 กิโลเมตร และเขาคิดว่าสถิตินี้น่าจะไม่มีใครทำลายได้เป็นเวลาอย่างน้อย 20 ปี
สถิติปัจจุบันเป็นของอเล็กซ์ ดาวเซ็ตต์ นักปั่นชาวอังกฤษที่ตั้งระยะทางไว้ 52.937 กิโลเมตร แต่วิกกินส์เชื่อว่าในเวลาอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนเขาจะเป็นคนจารึกสถิติใหม่
“มันอาจจะฟังดูแย่นะ แต่ผมมั่นใจว่าผมทำลายสถิติพรุ่งนี้เลยก็ได้ แต่ผมไม่ได้อยากแค่จะทำลายสถิติ ผมอยากทำให้สถิติมันสูงที่สุด ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้”
วิกกินส์อธิบายว่าความพยายามในการทำลายสถิติ Hour Record ไม่ได้ต่างไปจากการปีนเขาสูงชันอย่าง Mount Ventoux ใน Tour de France แต่ก็รู้ดีว่าถึงร่างกายจะพร้อม อารมณ์และความรู้สึกก็อาจจะเป็นอุปสรรคต่อเป้าหมายของเขา
“ผมรู้ว่าผมสามารถปั่นได้ 430 วัตต์เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ความท้าทายคือการต่อสู้กับอุณหภูมิ ผู้ชม และการควบคุมความเร็วของผม (pacing) ต้องมีสติและต้องควบคุมทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบที่สุดในการปั่น 220 รอบ”
“ผมหาช่างมาสร้างห้องกระจก เพื่อที่จะสามารถซ้อมบนเทรนเนอร์ในอุณหภูมิ 32 องศาเซลเซียสได้ตลอดเวลา”
วิกกินส์ทิ้งท้ายว่า จริงๆ เขาจะอยู่ต่อกับ Sky อีกปีหรือสองปีก็ได้ แต่ไม่อยากเป็นเหมือนสตีเฟ่น เจอร์ราด นักฟุตบอลชื่อดังที่ช่วงท้ายของอาชีพตกต่ำลงเรื่อยๆ จนผู้คนคิดว่าทำไมเขายังไม่เลิกแข่งสักที การที่เขาย้ายมาอยู่กับทีม WIGGINS ซึ่งเป็นทีมระดับ continental ดิวิชัน 3 วิกกินส์เปรยว่าเหมือนการย้ายจากทีม Real Madrid มาแข่งในลีกท้องถิ่น แต่ความสำคัญคือ เขาจะได้ช่วยพัฒนานักปั่นรุ่นใหม่และเป็นแรงสนับสนุนในการปั้นแชมป์ Tour de France ชาวอังกฤษคนใหม่ให้ได้ จากประสบการณ์การแข่งขันของเขา
“ผมอยากให้ผลงานที่เหลือในชีวิตมันมีความหมาย ไม่ใช่แค่มาเป็นบอสในทีมเล็กๆ”
เป้าหมายสุดท้ายของวิกกินส์คือการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกใน Rio 2016 ประเภท Team Pursuit
