เปิดตัว: Wilier Zero SLR

Wilier แบรนด์จักรยานเก่าแก่จากอิตาลี วันนี้เปิดตัวเสือหมอบแข่งขันแนว all round รุ่นล่าสุด Wilier Zero SLR ที่มีโจทย์การออกแบบว่าต้องทำเสือหมอบดิสก์เบรกซ่อนสายให้มีน้ำหนักเบากว่า 6.8 กิโลกรัม

Wilier Zero SLR

เฟรม Wilier SLR ก็ออกแบบมาในรูปทรงสมัยนิยม เหมือนเสือหมอบ all round เจอเนอเรชันใหม่ที่ทยอยเปิดตัวในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ นั่นคือ

  • รูปทรงเฟรมแอโรไดนามิกพอประมาณ
  • มากับระบบดิสก์เบรก ซ่อนสายเคเบิลหมดทั้งคัน
  • ซีทสเตย์กดต่ำ เชื่อมที่ด้านล่างยอดของท่อนั่ง เพื่อให้หลักอานซับแรงสะเทือนได้ดีกว่าเดิมและเพิ่มความลู่ลม
  • หลักอานรูปทรงตัว D เพื่อความแอโรไดนามิก
  • ชุดแฮนด์และสเต็มแบบอินทิเกรท

ทั้งหมดนี้เป็นฟีเจอร์ใหม่ใน Wilier Zero SLR ที่พัฒนาออกมาแทนรุ่นก่อน Zero.7 และ Zero.6 โดยที่ลดน้ำหนักลง จนตัวเฟรมหนักเพียง 780 กรัมในไซส์ M (เฟรมสีดำด้าน) และตะเกียบหนัก 345 กรัม ขณะเดียวกันก็เพิ่มความสติฟฟ์ได้ถึง 24%

เปรียบเทียบน้ำหนักและความสติฟฟ์กับเฟรม Zero รุ่นก่อน

Wilier เคลมว่าหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้ลดน้ำหนักเฟรมในขณะที่เพิ่มความสติฟฟ์ได้มาจากการใช้คาร์บอนไฟเบอร์แบบใหม่ที่เป็นเส้นใยแบบสาร (mesh) ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเฟรม ทำให้ใช้ปริมาณคาร์บอนรวมน้อยลง นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเนื้ออีลาสโตเมอร์เพื่อช่วยซับแรงสะเทือนแทรกไว้ในชั้นคาร์บอน คล้ายๆ กับเทคโนโลยี CV ที่ใช้ในจักรยาน Bianchi ด้วย

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ได้จักรยานแข่งขันที่ทันสมัยที่สุดในยุคนี้ – น้ำหนักเบากว่ากฏ UCI, ซ่อนสายเคเบิ้ลทั้งหมด, ดิสก์เบรก, รองรับชุดขับเคลื่อนไฟฟ้า, ลู่ลมพอสมควร, นิ่มสบายและควบคุมได้ดั่งใจ

นอกจากนี้ยังมีการปรับจูนรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ให้การใช้งานเฟรมตัวนี้สะดวกขึ้น ถึงจะเป็นการเดินสายภายในเฟรมทั้งหมด แต่ Wilier ก็ปรับช่วงคอรถให้ใช้แหวนรองคอแบบถอดแยกชิ้นได้ ทำให้การปรับความสูงคอรถสะดวกขึ้น ไม่ต้องรื้อชุดแฮนด์ออกทั้งหมด แหวนรองคอรองได้สูงสุด 30mm โดยที่มากับรถจะมีทั้งความสูง 10mm และ 5mm

แฮนด์แอโรรุ่นใหม่เป็นแบบอินทิเกรท แฮนด์และสเต็มทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ชิ้นเดียวและเดินสายเบรกและเกียร์ภายในทั้งหมด รูปทรงแฮนด์เป็นแบ ergonomic ให้จับได้สะดวกเต็มมือ ไม่ได้เป็นทรงแอโร 100% เหมือนในแฮนด์ที่ใช้กับ Cento10 Air เฟรมแอโรจาก Wilier ตัวแฮนด์มีให้เลือก 5 ไซส์ และน้ำหนักแฮนด์ในไซส์ 100x420mm อยู่ที่ 330 กรัม

Wilier เคลมว่าเฟรมตัวนี้ออกแบบคู่กับการทดสอบในอุโมงค์ลม ถึงจะไม่ใช่เฟรมแอโรเต็มตัวแต่ก็ปรับรูปทรงท่อต่างๆ ทั้งตะเกียบ ท่อล่าง ท่อนั่ง และหลักอานให้ลู่ลมกว่ารถ all round เจเนอเรชันก่อนๆ

จุดที่ Wilier เน้นย้ำเป็นพิเศษคือขาตะเกียบที่เป็นทรงแอโร และโก่งออกจากตัวล้อ เคลมว่าช่วยให้อากาศไหลผ่านได้สมูทกว่าตะเกียบที่อยู่ชิดล้อไม่สร้าง drag กินแรงนักปั่น

หลักอานเป็นรูปทรง D-shape ตามสมัยนิยม พร้อมระบบรัดหลักอานที่ซ่อนอยู่ในเฟรม ตัวหลักอานมีให้เลือกแบบตรงและแบบเยื้องหลัง 15mm

ฟีเจอร์อื่นๆ ก็เช่นการออกแบบเฟรมแบบอสสมาตร ที่ออกแบบให้เชนสเตย์ กะโหลก ซีทสเตย์ ตะเกียบฝั่งขวาอวบใหญ่กว่าฝั่งซ้ายเพราะต้องรับแรงกด แรงบิดจากจุดติดตั้งชุดขับเคลื่อน ขณะเดียวกันก็ปรับจูนตะเกียบให้ฝั่งซ้ายแข็งแรงกว่าฝั่งขวาเพราะต้องใช้ติดตั้งดิสก์เบรกด้วย ซางรถใช้ขนาด 1¼ เพื่อความสติฟฟ์เหมือนที่ใช้ในจักรยาน Canyon และ Giant

ระบบดิสก์เบรกของ Wilier ZERO SLR ใช้แกนปลด thur-axle Mavic Speed Release ที่ช่วยให้ถอดเปลี่ยนล้อได้ไวกว่าแกนปลด thur axle ระบบอื่นๆ Mavic ถึงกับเคลมว่าถอดเปลี่ยนได้ไวกว่าแกนปลดที่ใช้ในล้อริมเบรกเสียอีก ภายในแกนปลดมี limiter ช่วยคุมแรงขันไม่ให้ขันแน่นเกินจนทำลายขาตะเกียบ

เฟรมมีให้เลือกทั้งหมด 6 ไซส์ จาก XS ถึง XXL จำหน่ายเฉพาะคอมพลีทไบค์ แต่มีให้เลือก 12 สเป็ค เริ่มต้นราคาที่  7,700 ยูโรหรือประมาณ 270,000 บาท (ไม่รวมภาษี) มากับชุดขับ SRAM Force AXS และล้อคาร์บอนจาก Wilier เอง จนถึงรุ่นท็อปที่มากับกรุ๊ปเซ็ต SRAM Red AXS รคา 11,200 ยูโรหรือประมาณ 390,000 บาท

มีให้เลือก 3 สี สีดำน้ำหนักเบาที่สุด ส่วนสีแดงกับน้ำเงินเพิ่มน้ำหนักประมาณ 90 กรัม

เฟรมรองรับชุดขับไฟฟ้าเท่านั้น และทุกคันมากับแฮนด์อินทิเกรท

ข้อมูลเพิ่มเติม: Wilier.com

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!