[dropcap letter=”วั”]นอาทิตย์ที่ 21 นี้สนามแข่งชิงแชมป์โลกก็จะเริ่มกันแล้วครับ เปิดวันแรกกันด้วยการแข่งขัน Team Time Trial หรือแข่งจับเวลาประเภททีมที่ทาง UCI นำกลับมาบรรจุลงในประเภทการแข่งขันได้ 2 ปีแล้ว ทีม Omega Pharma-Quickstep เป็นเจ้าของเหรียญทองทั้งสองปีที่ผ่านมา แต่เส้นทางปีนี้ยากกว่าปีที่แล้วพอสมควร ทีมจะป้องกันแชมป์ได้หรือเปล่า? ลองมาดูเส้นทาง ตัวเต็งและกฏการแข่งขันกัน
1. วันเวลาถ่ายทอดสด
เริ่มแข่งขัน 19:00 / ถ่ายทอดสดทาง UCI Youtube (คลิก) Eurosport ไม่ถ่ายทอดสด
2. รางวัล
ผิดกับรางวัลแชมป์โลกประเภทอื่นๆ รายการนี้ไม่มีเสื้อสีรุ้งให้กับทีมผู้ชนะ แต่สิ่งที่ได้จะเป็นโลโก้เล็กๆ ที่จะติดอยู่บนเสื้อทีมทั้งทีมในฤดูกาลหน้า
3. ทีมชาติหรือทีมอาชีพ?
ปกติแล้วการแข่งขันชิงแชมป์โลกนั้นทีมที่เขาแข่งขันจะเป็นทีมชาติเกือบทุกประเภท ไม่ใช่ทีมอาชีพอย่าง OPQS, BMC, Sky… แต่มีข้อยกเว้น นั้นก็คือการแข่งประเภทจับเวลาทีมครับ ประเภทนี้จะใช้ทีมอาชีพแข่ง ทีมที่ต้องลงแข่งก็คือทีมระดับ UCI Pro Tour ทั้ง 18 ทีม (ทีมดิวิชัน 1) และจะมีทีมที่ได้รับเชิญจากลีก UCI Europe, Asia, America, Ocenia Tours และ 25 ทีมหญิงที่มีคะแนนสูงสุด ทีมรับเชิญนั้นจะมาแข่งหรือไม่มาก็ได้
4. ทีมละกี่คน?
ลงได้ทีมละ 6 คน ซึ่งถือว่าน้อยกว่าที่ลงกันทีละ 9 คนในรายการแกรนด์ทัวร์พอสมควร หมายความว่าแต่ละทีมต้องคัดนักปั่นที่แข็งแกร่งที่สุดในการปั่นไทม์ไทรมาแข่ง จะไม่สามารถช่วยอุ้มนักปั่นที่อาจจะไม่เก่งไทม์ไทรอย่างนักไต่เขาได้ ประกอบกับระยะทางที่ยาวกว่าสเตจ TTT ในแกรนด์ทัวร์แล้ว ถ้าไม่พร้อมเพรียงและไม่ส่ง A Team ก็ยากที่จะขึ้นโพเดี้ยมแน่นอน
5. เส้นทาง
สนามนี้แข่งกันในเมืองพอนเฟอร์ราดา ประเทศสเปน ระยะทาง 57.10 กิโลเมตร และไม่ใช่ทางราบเรียบเหมือนในฟลอเรนซ์เมื่อปีที่แล้ว โดยเฉพาะช่วงหลังที่เป็นทางขึ้นเนินแถมยังมีจังหวะกระดกชันถึงสองครั้ง
ช่วงแรกค่อนข่างง่ายสักหน่อย เป็นทางลงเนิน มีโค้งสับไปมาเล็กน้อยแต่ไม่น่าจะยากอะไร ก่อนถึงเช็คพอยท์แรก นักปั่นต้องเจอเนินโรลลิ่งแบบฟันปลา ก่อนจะเจอเนิน Alto Pieros ที่ยาว 700 เมตรและชัน 8% แล้วดิ่งลงยาวสลับเนินไปเช็คพอยท์ที่สอง
พ้นเช็คพอยท์สองแล้วจะเป็นทางลงเนินยาวที่แทบไม่มีโค้งเลย ซึ่งน่าจะเร่งทำเวลากันตรงนี้ได้ ทางขึ้นเช็คพอยท์ 3 เป็นเนินชันเฉลี่ยเริ่มจาก 2% ไปจบที่ 4% บนยอด (ดูชันกว่านั้นในรูปโปรไฟล์) ไม่ชันบ้าบอแต่ก็ดูดแรงพอสมควร
ช่วง 3 กิโลเมตรสุดท้ายเป็ทางลงเนิน 800 เมตร วงเวียนและโค้งหักๆ อีกนิดหน่อยก็ถึงเส้นชัย
นักปั่นน่าจะเจอลมตลอดเส้นทางเพราะคอร์สเปิดโล่ง เนินชันๆ แบบนี้เหมาะกับนักปั่นที่แรงดี ตัวใหญ่ อัดความเร็วขึ้นเนินได้ ไม่จำเป็นต้องใช้อัตราเร่งเยอะมาก ซึ่งเราก็ได้เห็นหลายๆ ทีมเลือกโดเมสติกความเร็วสูงมาเป็นตัวช่วยกันเยอะทีเดียว
6. Startlist
ดูรายชื่อนักปั่นทั้งหมดได้จาก ลิงก์นี้
7. ทีมไหนมีลุ้น?
1. OPQS: Tony Martin, Tom Boonen, Michał Kwiatkowski, Niki Terpstra, Peter Serry and Julian Vermote
เป็นแชมป์สองสมัย แต่ปีนี้ผมคิดว่าเส้นทางอาจจะไม่เอื้อให้เขาป้องกันแชมป์สักเท่าไรครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทีมขาดนักปั่นคนสำคัญอย่าง ซิลเวน ชาวาเนล, ปีเตอร์ เวลิทส์, และคริสทอฟ แวนเดอเวลด์ ซึ่งเป็น 3 คนที่ช่วยพา OPQS คว้าแชมป์ในปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี โทนี มาร์ตินหนึ่งคนน่าจะเทียบได้กับนักปั่น TT สองคนช่วยกัน ก็จะได้เปรียบตรงนี้ เควียททอฟสกีก็แรงใช้ได้ เทิรป์สตราไม่ใช่โปรไทม์ไทร แต่เครื่องใหญ่ ที่น่าเป็นห่วงคือปีเตอร์ เซอร์รีและจูเลียน เวอร์โมต OPQS น่าจะได้โพเดี้ยม แต่แชมป์รายการ? มีเสียวครับ
2. Orica-GreenEdge: Luke Durbridge, Michael Hepburn, Damien Howson, Brett Lancaster, Jens Mouris, Svein Tuft
OGE คือทีมคู่แข่ง OPQS ในประเภท TTT และผมคิดว่าน่าจะเป็นทีมที่ชนะรายการในปีนี้ ดูจากหน่วยก้านแล้วคนที่ส่งมาเป็นอดีตหรือแชมป์ Time Trial ประเทศคนปัจจุบันแทบทั้งนั้น OGE ได้เหรียญทองแดงในปี 2012 และเหรียญเงินในปี 2013 บวกกับผลงานแชมป์สเตจ TTT ในจิโรและตูร์ช่วงสองปีที่ผ่านมา อาจจะไม่มีขาโหดแบบ OPQS แต่เรื่องความสามัคคี ทีมนี้น่าจะได้เปรียบพอสมควร
3. BMC: Rohan Dennis, Silvan Dillier, Daniel OSS, Manuel Quinziato, Tejay Van Garderen, Peter Velits
น่ากลัวใช้ได้โดยเฉพาะโรฮาน เดนนิสที่เพิ่งย้ายมาจาก BMC และปีเตอร์ เวลิทส์ที่เป็นคนสำคัญของ OPQS ในรายการนี้เมื่อปีที่แล้ว ทีเจย์นั้นหายห่วงได้เรื่องไทม์ไทรเพราะคว้าแชมป์มาหลายรายการ ที่เหลืออย่างออส ดิเลียร์ และควินซิอาโต้ก็ช่วย BMC ทำเวลาได้ดีในสเตจ TTT ทุกครั้ง มีลุ้นชิงโพเดี้ยมกับทีม Sky
4. Sky: Dario Cataldo, Vasil Kiryienka, Salvatore Puccio, Kanstantin Sitsou, Geraint Thomas, Bradley Wiggins
อีกหนึ่งทีมที่น่ากลัวมากๆ เซอร์วิกโก้เราไม่ต้องบรรยายคุณศัพท์ เกอเรนท์ โทมัสก็อดีตเหรียญทองโอลิมปิก Team Pursuit, คิริเยนกาและซิทโซเป็นอดีตแชมป์ TT ประเทศคนละอย่างน้อย 2 สมัย ผมว่าน่าจะมีลุ้นโพเดี้ยม หรืออย่างน้อยๆ Top 5 แน่นอน
5. Trek: Fabian Cancellara, Kristoff Vandewalle, Jesse Sergent, Yaroslav Popovych, Markel, Irizar
แคนเชอลารา แวนเดอเวล เซอร์เจนท์ ตัวโหดไทม์ไทรทุกคน เสียดายไม่มีเจ้าของรางวัล Hour Record มาลงด้วย ;)
ม้ามืด: จับตา Movistar, Tinkoff-Saxo และ Astana (ตามลำดับ) แต่ผมคิดว่า Top 5 ไม่น่าหลุดทีมที่บอกข้างต้นครับ
