กราอีม โอบรีกับความคลั่งในสถิติ Hour Record

ะไรคือรางวัลเกียรติยศสูงสุดสำหรับนักปั่นจักรยาน? เราอาจจะคิดว่ามันคือการเป็นแชมป์สนามแข่งขันรายการใหญ่ เช่น Tour de France หรือ Paris-Roubaix หรือการได้ครองเสื้อสีรุ้งเป็นแชมป์โลกจักรยานถนน

จริงๆ แล้วยังมีรางวัลอีกหนึ่งประเภทที่น้อยคนจะรู้จัก แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถิติที่ทรงเกียรติที่สุดที่นักปั่นหนึ่งคนจะทำได้ สถิตินี้รู้จักกันในนามว่า “The Hour Record” หรือการปั่นจักรยานให้ได้ระยะทางไกลที่สุดในระยะเวลาหนึ่งชั่วโมง และมันคือหนึ่งในสถิติการแข่งขันจักรยานที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

การปั่นจักรยานต่อกันหนึ่งชั่วโมงเป็นยังไง และทำไมมันถึงท้าทาย? ฟังดูเผินๆ เหมือนเป็นกิจกรรมที่ใครๆ ก็ทำได้ แค่คุณขึ้นไปปั่นให้เต็มแรงจนจบ 60 นาทีก็น่าจะสำเร็จแล้ว?

The Hour Record

ความจริงแล้วมันไม่ง่ายอย่างนั้นเลย Hour Record คือสถิติที่นักปั่นทั่วโลกต่างเกรงขาม และน้อยคนนักที่จะกล้าพยายามทำลายสถิติ ปัจจุบันมีนักปั่นไม่ถึง 40 คนที่ทำลายสถิติได้สำเร็จตั้งแต่มีการเริ่มทำสถิติมากว่าร้อยปี

ในการทำสถิติอย่างเป็นทางการ นักปั่นต้องแจ้งให้สหพันธ์จักรยนานาชาติทราบถึงความพยายามที่จะทำลายสถิติเพื่อให้มีกรรมการกลางมาเข้าร่วมตรวจสอบ นักปั่นจะต้องปั่นเพียงคนเดียวในสนามจักรยานเวโลโดรม  จะทำสถิติสำเร็จก็ต่อเมื่อทำระยะทางได้มากกว่านักปั่นคนก่อนหน้าที่ทำสถิติไว้อย่างเป็นทางการ

ผิดกับสถิติการปั่นจับเวลา (Time Trial) ประเภทอื่นๆ ถึงคุณจะพยายามเต็มที่แค่ไหน ปั่นเร็วขึ้นแค่ไหน คุณก็ไม่สามารถหยุดความทรมานได้ มันไมทำให้ถึงเส้นชัยเร็วขึ้น เพราะมันเป็นการปั่นให้ครบชั่วโมง ไม่ใช่การปั่นให้จบระยะทาง ทุกๆ คนต้องปั่นด้วยเวลาเท่ากัน แต่ผู้ชนะคือคนที่ทำระยะทางได้ไกลที่สุด

เช่นนั้นแล้วมันคือบททดสอบความแข็งแกร่งในจิตใจสำหรับนักปั่นขั้นสูงสุด สถิติที่ถูกตั้งไว้นั้นมีระยะทางไกลขึ้นทุกปี สถิติแรกของโลกอยู่ที่ 23.2 กิโลเมตรโดยผู้ก่อตั้งสนามแข่งตูร์ เดอ ฟรองซ์ – อองรี เดอกรานจ์  แต่ปัจจุบันเจ้าของสถิติโลก เซอร์ แบรดลีย์ วิกกินส์ นักปั่นชาวอังกฤษ​ ทำไว้สูงถึง 54.526 กิโลเมตรเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมา 

แน่นอนว่ากฏ Hour Record มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา สหพันธ์จักรยานนานาชาติเปลี่ยนกฏอุปกรณ์ที่ผู้ท้าชิงสามารถใช้ได้ จากเดิมที่ให้ใช้จักรยานทรงโบราณที่ไม่มีความได้เปรียบเรื่องความลู่ลมเหมือนกันทุกคน ปัจจุบัน กฏอนุญาตให้ผู้ท้าชิงใช้จักรยานร่วมสมัยที่ใช้อุปกรณ์ลู่ลมอย่างล้อขอบสูง เฟรมแอโรไดนามิก และท่าปั่นที่ดูแบนราบหลบลมราวกับนอนปั่น

Hour Record จึงเป็นความฝันของนักปั่นทั่วโลก ทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น เพราะมันคือสถิติเดียวที่นักปั่นทุกคนสามารถเทียบความสามารถตัวเองกับนักปั่นอาชีพชื่อดังระดับโลกได้ ทุกคนมีเวลาหนึ่งชั่วโมงเท่ากัน แต่ใครจะทำระยะทางได้ไกลที่สุด? คุณสามารถหยิบจักรยานไปลองปั่นเหมือนโปรในเวโลโดรมวันนี้เลยก็ยังได้

 

กราอีม โอบรี: เมื่อมือสมัครเล่นอยากเทียบชั้นโปร

สถิติ Hour Record อาจจะดูเกินเอื้อมสำหรับนักปั่นธรรมดาที่ไม่ได้ซ้อมแข่งขันเป็นอาชีพ แต่ก็มีคนธรรมดาที่สามารถทำลายสถิตินี้ได้เช่นกัน และมันกลายมาเป็นเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักปั่นทั่วโลก กราอีม โอบรี – นักปั่นสมัครเล่นชาวสก็อตแลนด์​ทำลายสถิติ Hour Record ได้สำเร็จในเดือนกรกฏาคมปี 1993 เขาทำลายสถิตินักปั่นชื่อดังแชมป์โลกและแชมป์รายการใหญ่ในสมัยนั้นได้อย่างเหลือเชื่อ

Obree1

โอบรีเกิดมาในครอบครัวที่ยากลำบาก เขาและพี่ชายเป็นลูกของนายตำรวจและมักจะถูกเพื่อนรังแกบ่อยๆ สมัยเรียน จนพวกเขาทั้งคู่มีจักรยานเป็นทางออกของปัญหาชีวิต ด้วยวัยเพียง 11 ปี โอบรีเริ่มปั่นจักรยานทางไกลกว่า 200 กิโลเมตรกับพี่ชาย และเริ่มหลงไหลในการปั่นจับเวลา (Time Trial) หลังจากที่เห็นฟรานเชสโก้ โมแซร์ แชมป์สนาม Giro d’Italia ทำลายสถิติได้ในปี 1984 และระยะทางของโมแซร์กลายมาเป็นเป้าหมายที่โอบรีอยากจะเอาชนะให้ได้

แต่หนทางสู่ความสำเร็จของเขาเต็มไปด้วยขวากหนาม ด้วยเศรษฐกิจที่ซบเซา ธุรกิจร้านจักรยานของโอบรีไม่รุ่งเรืองอย่างที่เขาคาดหวังและเขาสร้างหนี้ไว้มากมายเกินกว่าครอบครัวจะจ่ายไหวจนเขาเริ่มติดเหล้าและเป็นโรควิตกจริตขั้นร้ายแรงจนพยายามฆ่าตัวตายเพราะคิดว่าชีวิตตัวเองไร้ค่า

Obree6

เมื่อไม่รู้จะหาทางออกยังไง โอบรีตัดสินใจใช้พรสวรรค์และความหลงไหลในการปั่นจักรยานของเขาเป็นทางออก เขาตั้งเป้าจะทำลายสถิติ Hour Record ของโมแซร์ให้ได้ ด้วยหวังว่าความสำเร็จจะนำมาซึ่งชื่อเสียงและเงินทอง เขาสร้างจักรยานจากเศษอะไหล่และเครื่องซักผ้าเพื่อให้ได้จักรยานที่มีท่าปั่นที่ลู่ลมที่สุดในราคาถูกที่สุด เพราะเขาไม่มีสปอนเซอร์เป็นแบรนด์จักรยานระดับโลกเหมือนโมแซร์ เขาทุ่มเทเวลาทั้งหมดในการซ้อมทำลายสถิติ

 

Hitting the Hour

โอบรีแจ้งไปทางสหพันธ์จักรยานานาชาติว่าเขาจะทำลายสถิติ Hour Record ในเดือนกรกฏาคมปี 1993 แต่ทุกอย่างกลับผิดพลาด เมื่อถึงวันที่เขาต้องทำลายสถิติ เขาขาดสมาธิและปั้นได้ไม่ถึงระยะทางของโมแซร์ แต่เขาไม่ปล่อยให้ความล้มเหลวทำร้าย วันรุ่งขึ้น เขาช็อคคนทั้งโลกด้วยการตัดสินใจทำลายสถิติอีกครั้งในวันถัดมา – เป็นเรื่องที่น้อยคนจะกล้าทำ เพราะการปั่น Hour Record ใช้พลังร่างกายหนักเกินกว่าการปั่นจักรยานประเภทไหนๆ ซึ่งแพทย์แนะนำให้เขาต้องพักอย่างน้อยสองสัปดาห์ก่อนจะทำลายสถิติอีกครั้ง

ความแน่วแน่ของโอบรีนำมาซึ่งความสำเร็จ วันรุ่งขึ้นเขาทำระยะทางใหม่ได้ 51.596 กิโลเมตร มากกว่าระยะทางของโมแซร์ร่วม 400 เมตร และชัยชนะครั้งนี้เปลี่ยนชีวิตเขาจากนักปั่นไร้อนาคตเป็นนักปั่นสมัครเล่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกด้วยระยะเวลาเพียงข้ามคืน

นอกจากการเป็นแชมป์สถิติ Hour Record โอบรียังเป็นแชมป์โลก Individual Pursuit ในปี 1993 และ 1995 และเรื่องราวการปั่นของเขากลายมาเป็นภาพยนตร์ฮอลลี่วู้ดในชื่อ “The Flying Scotsman” ความพยายามของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้นักปั่นจักรยานสมัครเล่นทั่วโลกได้พยายามทำสิ่งที่พวกเขาคิดว่าคงไม่มีทางทำได้

* * *

เนื้อหาตอนนี้มาจากส่วนที่ DT เตรียมให้รายการ Life Cycling ช่วง Legend ถ้าขี้เกียจอ่าน จะดูวิดีโอข้างล่างนี้แทนก็ได้ครับ

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *