Corratec อาจจะไม่ใช่ยี่ห้อจักรยานที่เรารู้จักกันดีครับ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์คุณภาพจากเยอรมันที่เพิ่งจะเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยได้ไม่นาน เช่นเดียวกับแบรนด์เยอรมันยี่ห้ออื่นๆ อย่าง Canyon, Steven, Cube เรามักไม่ค่อยได้เห็นแบรนด์เหล่านี้ทำการตลาดโปรโมตอะไรมากมายนัก (ยกเว้น Canyon ที่สนับสนุนทีมอาชีพระดับโลกสองทีม)
จุดเด่นของจักรยานเยอรมันแทบทุกยี่ห้อจะอยู่ที่คุณภาพต่อราคาที่จะโดดเด่นกว่าแบรนด์ดังเจ้าอื่นๆ ด้วยความใส่ใจในเรื่องของ R&D ที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีในจักรยานของเขามากกว่าเรื่องการตลาด
Corratec เป็นผู้ผลิตจักรยานจากเยอรมันจากแคว้นบาวาเรียที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1990 ถึงตอนนี้ก็ร่วม 25 ปีแล้ว ด้วยที่ตั้งของบริษัทแม่และสตูดิโอออกแบบของ Corratec อยู่ในบาวาเรีย ติดเทือกเขาแอลป์เลย แบรนด์นี้เลยจะโด่ดังเรื่องจักรยานเสือภูเขาเป็นพิเศษครับ Corratec เป็นผู้พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ในวงการจักรยานมาหลายปีไม่ว่าจะเป็นยาง Diamant Slick Tires ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นยางเสือภูเขาที่น้ำหนักเบา เกาะถนนดี แต่ก็ลื่นไหลทำความเร็วได้ดีกว่าคู่แข่งในยุคสมัยนั้น จนถึงการออกแบบเฟรม Bow design ทรงคันธนู และระบบซับแรงกระแทกในช่วงหางหลังของจักรยาน Hardtail
ช่วงปีหลังๆ Corratec หันมาพัฒนาจักรยานเสือหมอบมากขึ้น มีการสปอนเซอร์ทีมอาชีพ และยังคงรักษาจุดเด่นเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่ตลอด สำหรับในไลน์เสือหมอบก็มีตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นอย่างเฟรม Dolomiti ที่เราจะรีวิวกันในวันนี้ไปจนถึงเฟรมน้ำหนักเบาตัวท็อปที่ประสิทธิภาพเทียบเท่ากับแบรนด์ใหญอย่าง Cervelo RCA และ Trek Emonda แต่ก่อนที่จะไปถึงตรงนั้น ตอนนี้มาดูเจ้า Dolomiti ที่ราคาตั้งเพียง 21,900 บาทเท่านั้น ขอส่งต่อหน้าที่รีวิวให้คุณแมวทอง Reviewer ประจำเว็บ DT ของเราครับ
ก่อนปั่น
วันนี้เราได้มีโอกาสทดสอบจักรยาน Corratec รุ่น Dolomiti จักรยานเสือหมอบรุ่นเริ่มต้น สำหรับนักปั่นหน้าใหม่ หรือผู้ที่เริ่มเดินทางด้วยจักรยานใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่เมื่อผู้ทดสอบได้เห็นตัวเป็นๆของเจ้า Dolomiti แล้ว บอกได้เลยว่า เจ้านี้แอบซิ่งครับ แต่มันจะมีอะไรซ่อนอยู่ในจักรยานเสือหมอบคันนี้บ้าง ไปดูกันครับ
แรกที่ได้เห็นเจ้าเสือหมอบ Corratec ผมก็นึกย้อนไปหลายปีที่แล้ว เพราะบ้านเราก็พอมีคนซื้อมาปั่นบ้างเหมือนกัน แต่ก็หายไปนาน จักรยานแบรนด์เยอรมันยี่ห้อนี้เปิดตัวมาจนถึงวันนี้ก็ร่วม 25 ปี แล้ว ใน Corratec รุ่นก่อนๆ มักจะมีเทคโนโลยีล้ำๆ หลายส่วนในการออกแบบเฟรม ไหนลองดูซิว่า จุดเด่นเรื่องการซ่อนเทคโนโลยีแสบๆให้กับเฟรมจักรยานแต่ละรุ่น จะยังคงเป็นจุดขายของจักรยานแบรนด์นี้หรือไม่ ผมจึงเริ่มสำรวจ ออพชั่นสำหรับเฟรมจักรยานเสือหมอบในยุคปัจจุบันว่ามีอะไรบ้าง ปกติแล้วในระดับราคาเดียวกันเราก็จะได้
- ชุดล้อติดรถธรรมดา น้ำหนักไม่เบา
- แฮนด์ สเต็มหลักอาน แบรนด์ แต่ก็เป็นรุ่นล่างๆ น้ำหนักไม่เบา
- ชุดขับชิมาโน่ รุ่น Sora 9 สปีด
- เบาะติดรถนุ่มนั่งพอใช้ได้
- เฟรมอลูมิเนียม ท่อกลมใหญ่ น้ำหนักเบา
- ถ้วยคอทรงเทเปอร์
- ตะเกียบคาร์บอนซางอลู
ออพชัน 3 อย่างหลังนี่ อาจจะหาไม่ค่อยได้ในรถราคาระดับนี้ โดยเฉพาะตะเกียบคาร์บอนและท่อคอแบบเทเปอร์แต่ Corratec Dolomiti ให้มาเต็ม และยังมีเทคโนโลยีที่เป็นจุดเด่นของ Corratec มาแต่ไหนแต่ไรนั่นก็คือ เชนสเตย์แบบเว้าที่เรียกว่า LPC (Low Profile Chainstay) ซึ่งความเจ๋งของมันคือเวลาเราปั่นตกหลุมบ่อแล้วโซ่จะไม่ฟาดเชนสเตย์ให้เป็นรอย ทรงของเชนสเตย์แบบนี้ยังช่วยเพิ่มความมั่นงคงให้กับช่วงหลังของเฟรมจักรยาน แน่ใจนะว่านี้คือสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในจักรยานคันที่ถ้าซื้อสดอาจจะไม่ถึงสองหมื่น…
สำหรับคอมโพเนนท์ อะไหล่ต่างๆ ที่ให้มานั้น ส่วนใหญ่เป็นยี่ห้อ ZZYZX ซึ่งเป็นแบรนด์ In-house ของ Corratec เองตั้งแต่ล้อ หลักอาน เบาะ แฮนด์ สเต็ม และผ้าพันแฮนด์ ชุดเกียร์เป็น Shimano Sora 9 Speed
แน่นอนว่ารถระดับนี้เราคงคาดหวังรอยเชื่อมเนี้ยบแบบเฟรมอลูตัวท๊อปราคาสี่ห้าหมื่นไม่ได้ แต่โดยรวมแล้วงานสี งานเชื่อมก็อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานครับ เฟรมที่เราทดสอบเป็นไซส์ XS มากับตัวถังสีดำ คาดลายขาวเขียว
ดูภาพรวมแล้วสเป็คจัดว่าโอเคในราคาระดับนี้ แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าเราหยิบมันออกไปปั่นใช้งานมันจริงๆกันเลยตอนนี้ งั้นไปกันเลยดีกว่า…
หลังปั่น
Comfort: เราเทสต์เจ้า Dolomiti ไปลองปั่นเล่นกันในสวนสาธารณะก่อน ด้วยน้ำหนักจักรยาน 10.5 กก.โดยประมาณ สิ่งที่ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะได้จากมันคือเรื่องของ อัตราเร่งที่ปรู๊ดปร๊าดเหมือนพวกตัวแรงน้ำหนักพิกัดต่ำกว่า 8 กก. ผมคาดหวังว่า มันคงเป็นจักรยาน อลูมิเนียมที่แข็งๆ ทื่อๆ แต่เมื่อลองปั่นจริง สิ่งที่สื่อออกมาจากเจ้า Dolomiti นั้นสร้างความประหลาดใจในส่วนของการซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนน ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากยาง Continental Ultra Sport ที่ติดมากับรถด้วย แต่เมื่อปั่นไปเรื่อยจึงพบว่า ตัวเบาะที่พอจะนุ่มกำลังดี ก็มีส่วนสร้างความรู้สึกเหล่านี้ขึ้นมา
ขั้นต่อไปเราลองปั่นลุยลูกระนาด ผ่านพื้นหินปูลายตารางหมากรุก ซึ่งเฟรมนี้ก็สามารถซับแรงสะเทือนได้ดีระดับนึงหากจะเปรียบเทียบกับจักรยานคลาสเดียวกันในตลาดเจ้า Dolomiti ถือว่าอยู่หัวแถวครับ
Acceleration: หลังจากนั้นผมจึงอยากจะทดสอบอัตตราเร่งว่าด้วย น้ำหนักตัว 10.5 กก.โดยประมาณ จะมีผลมากน้อยแค่ไหนสำหรับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ผมจึงได้เลี้ยวออกจากสวนสาธารณะ มุ่งสู่ถนนวิภาวดี รังสิต สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือเกียร์ที่ให้มามีอัตราทดเกียร์กำลังดีสำหรับมือใหม่ จากชุดขับเคลื่อน Shimano Sora 9 สปีด สิ่งที่ช่วยให้อัตราเร่งของจักรยานคันนี้ทำได้ดีระดับหนึ่งคือ ท่อเฟรมอลูมิเนียมทรงกลมใหญ่ ที่ช่วยลดการบิดตัวของตัวถังในเวลาที่กระทืบลูกบันไดหนักๆ และ สิ่งที่ผมแปลกใจนิดนึงคือ เบรกติดรถแบรนด์โรงงานที่ดูเผินๆ ไม่น่าจะทำงานดีมากนัก แต่ใช้จริงก็ถือว่าโอเคในการชะลอระหว่างปั่นบนถนนใหญ่ที่การจราจรติดเยอะ
แต่ก็นั่นหละครับ ด้วยน้ำหนักตัวของ Dolomiti หากจะทำความเร็ว เกิน 35 กม/ชม. ผู้ปั่นมันจะต้องเป็นผู้ที่มีความอึดแข็งแรงอยู่ไม่น้อยโดยเฉพาะถ้าต้องออกกระชากตามกลุ่มกันบ่อยๆ แต่ถ้าเป็นความเร็วเดินทางที่ 29–30 ในทางราบก็ไม่มีปัญหาอะไร
แน่นอนว่าเทสต์รถในกรุงเทพเราคงหาภูเขาให้ทดลองไม่ได้ ก็ต้องเลือกสถานที่ปีนเนินกันหน่อยจะได้เทสต์กันครบๆ ครับ ปั่นๆ มาตามถนนวิภาวดีเผลอแป๊บเดียวผมก็ปั่นมาถึงห้างสรรพสินค้าใหญ่ ไม่รอช้า ลองไปปีนลานจอดรถสูง 10 ชั้นกันดู กับความชันอยู่ที่ 10–12 % ผมบอกได้เลยทันทีว่า ถึงแม้มันจะไม่ได้ขึ้นเนินชันได้เร็วเหมือน จักรยาน น้ำหนัก 7 กิโลกรัม แต่ความรู้สึกดีระหว่างยืนขโยกลูกบันไดขึ้นไป เจ้า Corratec รุ่น Dolomiti เป็นจักรยานที่มีมุมองศาการขี่เป็นแบบจักรยานขึ้นเขา เพราะได้ Geometry องศารถมาคล้ายๆ กับเฟรมคาร์บอนรุ่นสูงกว่าในไลน์ และเป็นอะไรที่หลายๆ แบรนด์นิยมทำกัน นั่นคือ ทำ R&D ทุ่มวิจัยหาองศารถที่เป็นคาแรคเตอร์ของแบรนด์ที่คิดว่าปั่นได้ดีที่สุดแล้วจับใส่ในเฟรมรุ่นท๊อป แล้วเอาเทคโนโลยีการออกแบบเดียวกันมาใช้กับรถในรุ่นรองๆ ลงมา แน่นอนว่าเรื่องวัสดุเฟรมคงไม่เหมือนกัน แต่คาแรคเตอร์รถ ความรู้สึกในการปั่นก็จะดีไม่ต่างกันมากนัก
Handling: เมื่อขึ้นถึงลานจอดชั้นดาดฟ้าแล้วเราก็ต้องลองทดสอบการบังคับ handling ระหว่างลงเนินบ้าง (ลานจอดรถ) จึงเริ่มขับลงชั้นล่าง ด้วยความเร็วในระดับนึง เนื่องจากเคยชินในเส้นทางนี้ พบว่าชุดยาง Continental หน้ากว้าง 25mm ที่ให้มา สร้างความมั่นใจในการบังคับได้มาก ตามเทรนด์ล้อและยางสมัยใหม่ที่นิยมทำให้ขอบล้อกว้าง ใช้ยางกว้างขึ้นเพื่อให้การบังคับรถดีขึ้นและซับแรงกระแทกดีขึ้น ตัวจักรยานก็เข้าโค้งมั่นคงดี แต่จะมีอาการไวต่อการเลี้ยวเข้าโค้งนิดนึงตามนิสัยของเฟรมจักรยานองศาขึ้นเขา
Overall: โดยรวมแล้วสรุปได้ว่าจักรยานเสือหมอบ Corratec รุ่น Dolomiti เป็น จักรยานเสือหมอบ สำหรับผู้ที่รักการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน หรือ เป็นจักรยานที่ใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป ในราคาระดับเริ่มต้น โดยสิ่งที่เป็นจุดเด่นของเจ้าเสือหมอบคันนี้คือ ความมั่นคงในการควบคุม ชุดเกียร์ที่นุ่มนวลไว้ใจได้ ตัวถังจักรยานที่มีมาตรฐานการผลิตที่ดี (แต่รอยเชื่อมน่าจะเนียบกว่านี้) ทั้งนี้ประสิทธิภาพตัวเฟรมถือว่าอยู่ในหัวแถวกับจักรยาน Completed Bike ในระดับราคาเดียวกันครับ
จักรยาน: Corratec Dolomiti
ราคาตั้ง: 21,900 บาท
ตัวแทนจำหน่าย: บริษัท PTT Progress
Facebook: PTT Progress
Official Site: Corratec.com
Specification / Geometry
FRAME Corratec Dolomiti SIZE XS-S-M
FORK Corratec Dolomiti Carbon Tapered
REAR DERAILLEUR Shimano Sora
FRONT DERAILLEUR Shimano Sora
SHIFTING LEVER Shimano Sora
BRAKE ZZYZX R340 Caliper
CRANKSET Shimano Sora (50-34)
WHEELSET / HUBS ZZYZX Race Attack 3.0, 32H
TIRE Conti Ultra Sport 700 x 25 C
SADDLE Corratec Sport Saddle
STEM ZZYZX 6 Series 3D Forged. 31.8. 6 degree
HANDLE BAR ZZYZX Compact Road. 6 Series Ergo
Gallery
