4 ผู้ชนะและ 5 ผู้แพ้จาก Giro d’Italia สเตจ 13

สเตจ 13 ใน Giro d’Italia เมื่อคืนนี้เป็นวันแรกที่ผู้เข้าแข่งขันต้องปั่นข้ามภูเขาสูงชันอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก กับเส้นชัยที่สูงเหนือระดับน้ำทะเลร่วม 2250 เมตร อิลเนอร์ ซาคาริน (Katusha-Alpecin) หนีเดี่ยวไปคว้าแชมป์สเตจและทำเวลาตีตื้นคู่แข่งจนเลื่อนตัวเองขึ้นมาอยู่อันดับสามในอันดับเวลารวม ในขณะที่ตัวเต็งคนอื่นๆ มีทั้งทำเวลานำตีตื้นได้เพิ่มแต่บางคนก็แรงตก หลุดกลุ่มยาวจนแทบจะหมดสิทธิท้าชิงแชมป์รายการ

ผู้ชนะ 1 – อิลเนอร์ ซาคาริน

สเตจ 13 เมื่อคืนก็เป็นอีกวันที่เบรกอเวย์กลุ่มใหญ่ถึง 26 คนหนีพ้นการคุมเกมของเปโลตอง ซาคารินก็เป็นหนึ่งในคนที่หนีไปได้ และกลายเป็นนักปั่นที่ฟอร์มดีที่สุดในสเตจ ค่อยๆ ทิ้งกลุ่มเบรกอเวย์ไปทีละคนสองคนจนสุดท้ายเหลือตัวคนเดียว

มิเคล เนียเว (Mitchelton-Scott) นักไต่เขาผู้ช่วยไซมอน เยทส์เป็นคนสุดท้ายที่เหลือรอดคู่กับซาคาริน แต่ก็ยังไม่แรงเท่ากัปตันทีม Katusha สุดท้ายเนียเวทำได้เพียงอันดับสอง เข้าเส้นชัยหลังซาคาริน +35 วินาที

ซาคารินเป็นนักปั่นชาวรัสเซียวัย 29 ปี ที่ผ่านมาเขาเคยคว้าอันดับ 3 ใน Vuelta a Espana ปี 2017  แต่ระหว่างปี 2018-2019 ก็ไม่มีผลงานใหญ่ๆ เลย ก่อนหน้านี้เขาเคยได้แชมป์สเตจใน Giro หนึ่งครั้งในปี 2015 และก็มาจากการหนีเดี่ยวในสเตจภูเขาแบบเมื่อคืนนี้เช่นกัน

“ผมไม่ได้คิดว่าจะชนะสเตจวันนี้”​ ซาคารินกล่าว “ผมตั้งใจว่าถ้าไปกับกลุ่มหนีได้ก็น่าจะทำเวลาคืนได้บ้าง จริงๆ ผมแปลกใจที่ชนะด้วยซ้ำ เพราะไม่คิดว่าข้างหลังเขาจะปล่อยให้ผมหนี ตอนจะเข้ากลุ่มเบรกอเวย์ก็ไม่ได้วางแผนไว้ แต่จังหวะมันได้พอดี” 

ชัยชนะของซาคารินน่าจะพอย้อมใจทีม Katusha ได้บ้าง เพราะตั้งแต่เริ่มฤดูกาลมานี้ทีมแค่ 2 ชัยชนะเท่านั้น น้อยที่สุดในบรรดาทีมโปรทัวร์ทั้งหมด ยังไม่รวมเรื่องที่ทีมเสียมาร์เซล คิทเทลที่ประกาศยกเลิกสัญญากับทีมไปเมื่อเดือนที่แล้ว ผลงานสเตจนี้ทำให้ซาคารินกลับขึ้นมาอยู่ในอันดับสามในตารางเวลารวม ตามหลังแจน โพแลงค์ (UAE) ผู้นำเวลารวม +2:56 นาที และตามพริมอซ โรจ์ลิค (Jumbo-Visma) +31 วินาทีเท่านั้น

ผู้ชนะ 2: มิเคล แลนด้า 

สเตจภูเขาผ่านไปสองวันเราได้เห็นมิเคล แลนด้า กัปตันทีม Movsistar โจมตีคู่แข่งทั้งสองสเตจ และตีตื้นอันดับเวลารวมมาได้ถึง 2 นาที (!) แลนด้าโจมตีกลุ่มเปโลตองระหว่างทางขึ้นเขาสุดท้าย ไล่จนทันเบรกอเวย์ข้างหน้าเกือบทุกคน จนไปจบสเตจด้วยอันดับสาม ตามหลังซาคารินและเนียเว เข้าเส้นชัยก่อนนิบาลีและโรจ์ลิค +1:37 นาที

“ผมจะโจมตีทุกวันจนกว่าจะไม่เหลือแรง ผมหวังว่าจะยังมีแรงสู้ได้ไปจนถึงสเตจสุดท้าย มันเร็วเกินไปที่จะพูดอะไรตอนนี้ ใน Giro อันดับเวลามันเปลี่ยนได้ทุกวัน เราต้องดูกันวันต่อวันครับ”​

ผู้ชนะ 3: แจน โพแลงค์

ถึงจะไม่ใช่นักไต่เขาที่ฟอร์มดีที่สุดในรายการและเข้าเส้นชัยช้ากว่าตัวเต็งคนอื่นๆ เกือบทั้งหมด แต่แจน โพแลงค์ก็ยังรักษาเสื้อผู้นำเวลารวมไว้ได้อีกหนึ่งวัน โพแลงค์เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 15 ช้ากว่าแชมป์สเตจ +4:39 นาที แต่ก็ยังนำอันดับเวลารวมเหนือโรจ์ลิค +2:25 นาที

“วันนี้ผมรู้ว่ามันยากแน่ๆ ที่จะป้องกันเสื้อ ผมเลยคิดว่าตอนขึ้นเขาลูกสุดท้ายคงตามคนอื่นไม่ได้ ต้องปั่นด้วยเพซตัวเอง มันเป็นสเตจที่ยากจริงๆ ครับ เหมือนที่เห็นในทีวี ตอนสุดท้ายนี่มันเป็นจังหวะที่ตัวใครตัวมันมากๆ ผมรู้ว่าคงรักษาเสื้อไว้ได้อีกไม่นานหรอกครับ ผมว่าทั้งโรจ์ลิคและนิบาลีเป็นสองคนที่ฟอร์มดีที่สุดตอนนี้ ซาคารินก็ปั่นดีมาก”

ผู้ชนะ 4: ผู้ชมทางบ้าน

สเตจ 13 นี้ปั่นผ่านเส้นทางที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นช่องเขาที่สวยที่สุดในยุโรป เราก็เลยได้ภาพสวยๆ มาให้ชมกันอย่างที่เห็นข้างบนนี้ครับ สังเกตว่าที่เส้นชัยนั้นมีสันเขื่อนกั้ทะเลสาปอยู่ด้วย เส้นชัยนี้อยู่ในเมืองเล็กๆ ที่ชื่อ Ceresole Reale ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของ Turin อยู่ติดชายแดนฝรั่งเศส เขื่อนนี้ช่วยผลิตกระแสไฟฟ้าให้ Turin และสร้างไว้ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง

ผู้แพ้ 1: วินเชนโซ นิบาลี 

ระหว่างทางขึ้นเขาสุดท้าย เราได้เห็นนิบาลีและโรจ์ลิคตามจี้กันโดยไม่สนใจว่าคู่แข่งคนอื่นจะแซงไปได้ หรือหลุดไปไกลแค่ไหน ราวกับว่าทั้งคู่มองว่าแต่ละคนคือตัวอันตรายที่สุดในรายการนี้

นิบาลีเองไม่พอใจเท่าไรที่โรจ์ลิคปั่นแบบไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น ไม่ออกช่วยไล่ตามคนอื่นๆ ด้วยที่ว่าโรจ์ลิคมีเวลานำคู่แข่งอย่างแลนด้าหรือซาคารินหลายนาที โรจ์ลิคออกตามแค่เวลาที่นิบาลีโจมตีเท่านั้น แต่เมื่อนิบาลีถูกรวบ โรจ์ลิคก็เบาแรงลง

ในสถานการณ์นี้ คนที่เสียเปรียบที่สุดคือนิบาลี เพราะเขายังตามโรจ์ลิคอยู่ +1:44 นาที ขณะเดียวกันในสเตจเดียวเขาโดนทั้งบอเก้​ โมเล็มม่า (Trek-Segafredo) และอิลเนอร์ ซาคาริน (Katusha-Alpecin) ทำเวลานำไปแล้ว เขาให้สัมภาษณ์:

“โรจ์ลิคปล่อยให้ทั้งคาราพาซ และไมย์ก้าหนีไป และหวังว่าจะให้ผมเป็นคนไล่คนเดียว ผมไม่เอาแล้ว! ผมบอกเขาว่า ถ้านายอยากจะชนะ Giro ก็ต้องทำงานด้วย”

“ผมรู้ว่าอันดับเวลารวมเขาดีกว่าคนอื่น เขาเลยขี่แบบนั้นได้ แต่ผมบอกเลยว่าถ้ามัวแต่ขี่แบบนี้ ไม่มีทางชนะแน่นอน”

จบสเตจ นิบาลีอยู่ที่อันดับ 5 ในตารางเวลารวม ช้ากว่าโมเล็มม่าและซาคารินร่วมหนึ่งนาทีเต็ม

ผู้แพ้ 2: พริมอซ โรจ์ลิค 

อย่างที่บอกไปข้างต้น โรจ์ลิคเองก็โดนคู่แข่งหลายคนทำเวลานำ แต่เขาอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่านิบาลีมาก เพราะอะไร?

จริงๆ แล้วโรจ์ลิคแทบไม่ต้องโจมตีใครเลยก็ได้ เขามีเวลาตุนนำห่างคู่แข่งที่อันดับ GC ใกล้เขาที่สุด (ซาคาริน) ประมาณสามสิบวินาที แต่เขานำนักปั่นอย่างแลนด้า คาราพาซ​ ไมย์ก้า โลเปซ และเยทส์ เกิน 4 นาทีทั้งหมด และต่อให้คู่แข่งพวกนี้จะโจมตีเยอะแค่ไหน สุดท้ายโรจ์ลิคยังมีไพ่สำคัญเป็นสเตจ Time Trial สุดท้ายที่เขาน่าจะทำเวลานำเพิ่มได้อีก เช่นนั้นแล้ว ถ้าเขาเข้าเส้นชัยได้พร้อมๆ กับคู่แข่งคนอื่นๆ ไม่ต้องยิงนำก็สามารถคว้าแชมป์รายการได้

แต่ก็อย่างที่นิบาลีบอก มันอาจจะไม่ง่ายอย่างที่โรจ์ลิคคิด เพราะถึงจะปล่อยให้คู่แข่งหนีไปได้บ้าง แต่ถ้าเจอโจมตีทุกวันและยังใจเย็นแบบวันนี้ก็อาจจะเสียแชมป์ได้ง่ายๆ เหมือนกัน เขาให้สัมภาษณ์หลังแข่ง:

“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องได้เสื้อผู้นำในวันสุดท้ายของการแข่งขัน ไม่จำเป็นต้องได้ก่อน”

เป็นแผนที่ดีครับ เพราะถ้าโรจ์ลิคไม่รีบชิงเสื้อผู้นำคืนมา ก็หมายความว่าทีมอื่นต้องรับหน้าที่คุมเกมเปโลตองแทนทีม Jumbo-Visma ของเขา ช่วยประหยัดแรงลูกทีมได้อีกหลายวัน

ผู้แพ้ 3: ไซมอน เยทส์ 

เยทส์เป็นตัวเต็งที่ฟอร์มแย่ที่สุดในสเตจนี้ เข้าเส้นชัยช้ากว่าแชมป์สเตจถึง ห้านาที และอันดับเวลารวมร่วงลงไปที่ +8:14 นาทีตามหลังผู้นำเวลารวม และยังช้ากว่าเยทส์และนิบาลีร่วม 6 นาที ถ้าพลิกฟอร์มกลับมาในสเตจที่เหลือไม่ได้ก็ไม่น่าจะมีหวังคว้าแชมป์รายการหรือขึ้นโพเดียมแล้ว

ผู้แพ้ 4: มิกูเอล โลเปซ​

ที่ 12 กิโลเมตรสุดท้ายโลเปซยางรั่ว ซึ่งเป็นระหว่างทางขึ้นเขาพอดี ทำให้หลุดจากกลุ่มตัวเต็งและเสียเวลาให้ทั้งโรจ์ลิคและนิบาลีนาทีเศษๆ

ผู้แพ้ 5: ทีม Ineos 

ทีม Ineos ต้องเสียตัวเต็งไปหนึ่งคน เมื่อ เทโอ โกเกน ฮาร์ท กัปตันทีมรถล้มที่กลางสเตจ บาดเจ็บจนไม่สามารถแข่งต่อได้ ทำให้ทีมเหลือแค่พาเวล ซิวาคอฟที่ยังพอจะมีโอกาสลุ้นอันดับ top 10 overall ซิวาคอฟจบสเตจที่อันดับ 9 ช้ากว่าแชมป์สเตจ +3:34 นาที

* * *

พรีวิวสเตจ 14: อีกหนึ่งวันที่โหดหินสุดๆ ระยะทางสั้นแค่ 131 กิโลเมตรแต่นักปั่นต้องข้ามเขา 5 ลูก ที่หน้าเส้นชัยก็เป็นทางขึ้นชัน 6-7% น่าจะเป็นอีกวันที่อันดับเวลารวมเปลี่ยนแปลงเยอะพอสมควรครับ

 

ผลการแข่งขัน

วิดีโอไฮไลท์

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!