8 รูปที่ดีที่สุดจาก Giro d’Italia สเตจ 14

สเตจ 14 ใน Giro d’Italia ก็เป็นอีกวันที่ผู้เข้าแข่งขันต้องเจอเส้นทางภูเขาสูงชัน ในสเตจนี้มีภูเขาที่ต้องข้ามถึงห้าลูกเลยทีเดียว และรวมระยะ elevation gain ร่วม 4,700 เมตร ถึงเส้นชัยจะไม่ชันเท่ากับในสเตจ 13 แต่ก็ทำให้อันดับเวลาของตัวเต็งเปลี่ยนอีกพอสมควร ลองมาดูกันว่ามีใครได้ และใครเสียจากสเตจ 14 บ้าง

ริชาร์ด คาราพาซ​ นักปั่นชาวเอกวาดอร์วัย 25 ปีคนนี้อาจจะเป็นโปรที่คนไม่รู้จักเท่าไร แต่ถ้าใครจำได้ ปีที่แล้วที่เขาลงแข่งขัน Giro d’Italia เป็นครั้งแรก เขาก็จบรายการด้วยอันดับ 4 เลยทีเดียว ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการไต่เขา

คาราพาซโชว์ฟอร์มที่ไม่ธรรมดาในสเตจเมื่อคืนนี้ เมื่อเขาโจมตีกลุ่มตัวเต็งบนช่วงใกล้ถึงยอดเขารองสุดท้าย ก่อนจะหนียาวหลุดไปคนเดียว คว้าแชมป์สเตจ เข้าเส้นชัยก่อนอันดับสอง, ไซมอน เยทส์ (Mitchelton-Scott) ถึง +1:32 นาที

นอกจากจะได้แชมป์สเตจแล้ว คาราพาซยังทำเวลาได้มากพอจนขึ้นมาเป็นผู้นำเวลารวมคนใหม่ด้วย ก่อนเริ่มสเตจ เขามีเวลาตามหลังพริมอซ​​ โรจ์ลิค (Jumbo-Visma) ตัวเต็งที่มีอันดับเวลารวมดีที่สุดอยู่ 1:57 นาที แต่หลังจบสเตจ เขาขึ้นนำโรจ์ลิค +7 วินาที และนำวินเชนโซ นิบาลี (Bahrain-Merida) ที่อยู่อันดับสาม +1:47 นาที

ภายในสามสเตจภูเขา รวมแล้วคาราพาซทำเวลาตีตื้นคืนมาได้ถึง 4 นาทีกว่า (!)

คาราพาซให้สัมภาษณ์หลังแข่ง: “ช่วงท้ายสเตจ ผมเห็นสีหน้าคู่แข่งหลายคนไม่ค่อยจะสู้ดีนะ ผมรู้ว่าโรจ์ลิคกับนิบาลีเขาจ้องกันเองไม่สนใจคนอื่นอยู่แล้ว ทีมเรามีไพ่สองใบ คือแลนด้ากับผม เราฟอร์มดีทั้งคู่ แต่แลนด้าออกเบรกอเวย์ติดต่อกันสองวันแล้ววันนี้เลยแรงเหลือไม่มาก ผมเลยออกหนีเอง เราไม่ได้คิดว่าจะได้แชมป์สเตจทีแรก แค่คิดว่าจะทำเวลาตีตื้น แต่ผลมันก็ดีกว่าที่คิดครับ”​

ถึงจะเป็นคนที่เสียเวลาเยอะที่สุดในสเตจ 13 และถูกกลุ่มตัวเต็งทิ้งห่างหลายครั้งในสเตจนี้ แต่ช่วงท้ายไซมอน เยทส์พลิกเกมเซอร์ไพรส์คู่แข่ง กระชากหนีกลุ่มออกไล่ตามคาราพาซในทางขึ้นเขาลูกสุดท้าย จนจบสเตจด้วยอันดับสอง และเข้าเส้นชัยก่อนกลุ่มหลัง +22 วินาที (และได้ time bonus อีก 6 วิ) จนตอนนี้เขาขึ้นมาอยู่อันดับ 9 ในตารางเวลารวม ช้ากว่าคาราพาซ +5:28 นาที

“เมื่อวานผมแย่น่ะ ผลงานไม่ได้ดั่งใจ แต่อีกมุมหนึ่งมันก็ทำให้สบายใจนะ เหมือนมันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ผมเห็นว่าวันนี้หลายคนมัวเล็งกันเองอยู่ไม่มีใครโจมตีกันเท่าไร ผมเลยลองหนีดู ไม่แปลกใจหรอกที่เขาจะไม่สนใจผมเพราะผมตามอยู่ตั้งห้านาทีกว่า ผมทำได้แค่สู้ทุกวัน เรายังเหลืออีกหลายวันกว่าจะจบการแข่งขัน ผมรู้ว่ามันยากที่จะกลับมาชนะรายการ คู่แข่งดูแข็งแรงทุกคนเลยครับ” 

เคสของมิเคล แลนด้ากัปตันทีม Movistar นี่มีอะไรให้คิดหลายอย่างเลยทีเดียว จากที่อันดับเวลาหลุดไปเยอะในสเตจ Time Trial ทั้งสองสเตจในสัปดาห์แรก แต่ตอนนี้เขาไล่ตีตื้นขึ้นมาจนมาอยู่อันดับ 5 ตามหลังคาราพาซ เพื่อนร่วมทีม 2:50 นาที ซึ่งก็อยู่ในะระยะหวังผลโพเดี้ยมรายการได้ และถ้าดูจากฟอร์มแล้ว ทั้งแลนด้าและคาราพาซอาจจะเป็นนักไต่เขาที่ฟอร์มดีที่สุดในสนามตอนนี้

อย่างไรก็ดี คำถามแรกที่แลนด้าถามโค้ชทีมหลังจบสเตจคือ “แล้วตอนนี้ใครเป็นผู้นำทีม?” แลนด้าหนีการเป็นม้ารองบ่อนจากทีม Astana และ Sky หวังว่าจะได้มาเป็นผู้นำทีมเพียงคนเดียวใน Movistar แต่ความเป็นจริงตอนนี้ก็คือ คาราพาซดูเป็นคนที่พึ่งได้มากกว่าสำหรับทีม และเมื่อคาราพาซได้เสื้อผู้นำเวลารวมแล้ว แลนด้าอาจจะถูกห้ามไม่ให้โจมตีหัวหน้าทีมตัวเอง ไม่ต่างอะไรกับตอนที่เขาปั่นให้คริส ฟรูม (Sky) เมื่อสองปีก่อน

ทั้งนี้ Movistar อยู่ในสถาการณ์ที่ได้เปรียบครับ เพราะสามารถส่งแลนด้าเป็นตัวโจมตีตัดแรงคู่แข่งคนอื่นๆ ได้ และถ้าใครสังเกตในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา คาราพาซเป็นคนเดียวที่หนีได้ขาด ในขณะที่ทั้งนิบาลีและโรจ์ลิคเร่งได้ไม่แรงพอจะทิ้งกลุ่มได้ ถ้า Movistar คงโมเมนตั้มนี้ไว้ได้ ก็จะเป็นทีมที่รับมือได้ยากทีเดียว

คนที่เสียหายหนักชวันนี้อาจจะเป็นวินเชนโซ นิบาลี (Bahrain-Merida) ที่ตอนนี้ตามคาราพาซที่ชัดเจนว่าไต่เขาได้ดีกว่าเกือบสองนาที นั่นหมายความว่าในสเตจต่อจากนี้นิบาลีจะปล่อยให้คาราพาซหนีไปไกลไม่ได้อีกแล้ว ในขณะที่พริมอซ โรจ์ลิค (Jumbo-Visma) ยังพอจะเพิกเฉยการโจมตีของคู่แข่งคนอื่นๆ ได้บ้าง จากที่เขามีข้อได้เปรียบในสเตจ Time Trial สุดท้าย

อิลเนอร์ ซาคาริน (Katusha-Alpecin) แชมป์สเตจ 13 แรงตกในสเตจ 14 หลุดกลุ่มตัวเต็งและเข้าเส้นชัยช้ากว่าแชมป์สเตจถึงเจ็ดนาที จากที่เมื่อวานอยู่อันดับสามในตารางเวลารวม วันนี้เขาตกไปอยู่อันดับ 11 ตามคาราพาซ +6:04 นาที ถ้าเรียกฟอร์มกลับมาไม่ได้ จะไล่กลับขึ้นอันดับโพเดี้ยมก็คงไม่ง่ายแล้ว

พาเวล ซิวาคอฟ (Team Ineos) กำลังคูลดาวน์หลังจบสเตจ ถึงจะไม่ใช่คนที่ฟอร์มดีมากๆ แต่ก็ยังรักษาอันดับเวลารวมได้ดีพอสมควร ตอนนี้เขารั้งอันดับ 8 ตามหลังคาราพาซ​ +4:55 นาที แต่ขึ้นนำรางวัล Best Young Rider หรือนักปั่นที่เวลารวมดีที่สุดที่มีอายุน้อยกว่า 25 ปี

อานอด์ เดอมาร์ (Groupama-FDJ) ยังคงครองเสื้อเจ้าความเร็ว หรือเสื้อผู้นำคะแนนรวม ระหว่างสเตจภูเขาที่ผ่านมานี้ เขาทำคะแนนนำปาสคาล แอคเคอร์แมน (Bora-Hansgrohe) มาได้อีกนิดหน่อย ตอนนี้เดอมาร์มี 194 คะแนน นำแอคเคอร์แมนอยู่ 11 คะแนน

ผลการแข่งขัน

วิดีโอไฮไลท์

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!