ด้วยเส้นทางที่ยากขึ้นในทุกๆ สเตจ ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของ Giro d’Italia นี้เลยเป็นโอกาสดีของนักปั่นและทีมที่ยังไม่มีผลงาน ที่จะลุ้นชิงหนีกลุ่มตัวเต็งออกไปคว้าแชมป์สเตจกัน สเตจ 17 ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เบรกอเวย์ชนะ จากที่กลุ่มตัวเต็งเลือกที่จะไม่เร่งความเร็วคุมกลุ่มหนี แทคติคนี้ไม่ใช่อะไรที่แปลก เพราะการต้องเร่งจับกลุ่มหนีที่ไม่มีตัวอันตรายต่ออันดับเวลารวมไม่ค่อยจะมีประโยชน์เท่าไรและไม่เปลืองแรงทีมที่หวังแชมป์รายการด้วย
1) สำหรับสเตจ 17 ก็เป็นอีกวันที่กลุ่มหนีได้แชมป์สเตจ ปีเตอร์ แนนส์ (AG2R) นักปั่นชาวฝรั่งเศสที่หลุดมากับกรุ่มเบรกอเวย์ 18 คน ออกหนีกลุ่มตั้งแต่ 15 กิโลเมตรสุดท้าย แต่ไม่มีคู่แข่งคนไหนออกไล่ตามเขา ซึ่งก็เป็นอะไรที่น่าสนใจเหมือนกัน อาจจะเพราะเขาเป็นนักปั่นโนเนม? หรือเพราะเขาดูทรงตัวใหญ่ไม่น่าจะหนีรอด โดยเฉพาะในช่วงสุดท้ายที่เป็นทางขึ้นเขา แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะแนนส์หลุดยาวไปจนถึงเส้นชัย ก่อนเอสเตบาน ชาเวซ (Mitchelton-Scott) อันดับสองถึง 1:34 นาที เป็นผลงานชัยชนะครั้งแรกในชีวิตของเขา และเป็นชัยชนะแรกของทีม AG2R ในสนามนี้ด้วย
2) ด้วยเส้นทางที่เป็นเนินซึมยาวขึ้นเขาไปเรื่อยๆ ก็เป็นโอกาสดีที่กลุ่มตัวเต็งจะประลองกำลังกันด้วยเหมือนกัน สเตจนี้เป็นมิเคล แลนด้า (Movistar) ที่อาศัยความได้เปรียบของทีมที่มีตัวเต็งถึงสองคน โจมตีกลุ่มที่ราว 10 กิโลเมตรสุดท้าย
คนที่ตามแลนด้ามาก็คือฮิวจ์ คาทีย์ นักปั่นชาวอังกฤษวัย 24 ปี ดาวรุ่งจาก (EF Education First) ที่เริ่มฟอร์มดีตั้งแต่สเตจ 16 ตามการโจมตีของวินเชนโซ นิบาลีบนทางขึ้นเขา Motirolo ได้ และกลายเป็นนักปั่นที่อันดับเวลารวมดีที่สุดในทีม EF ที่อันดับ 13 กับเวลารวม +14:42 นาที ตามหลังริชาร์ด คาราพาซ
3) ทั้งคู่เข้าเส้นชัยได้ก่อนกลุ่มตัวเต็งของโรจ์ลิคและนิบาลี +19 วินาที ทำให้ตอนนี้เขามีเวลาตามโรจ์ลิค +47 วินาที และอยู่ในอันดับ 4 ของตารางเวลารวม คงไม่ง่ายที่แลนด้าจะปัดโรจ์ลิคตกโพเดียม นอกจากเขาจะหาทางโจมตีทำเวลาเพิ่มเติมได้อีก ที่ยากยิ่งกว่าคงเป็นการได้แชมป์รายการ เพราะเวลารวมเขาตามริชาร์ด คาราพาซเพื่อนร่วมทีมถึง +3:03 นาที
4) หลังจากแลนด้าโจมตีไปได้ไม่นาน มิกูเอล โลเปซ กัปตันทีม Astana ก็ออกกระชากกลุ่มตัวเต็งด้วยที่ 3 กิโลเมตรสุดท้าย แต่เขาไม่ได้มาคนเดียว เมื่อริชาร์ด คาราพาซ ผู้นำเวลารวมขึ้นตามประกบอย่างรวดเร็ว
5) การโจมตีของทั้งคู่ทำบังคับให้กลุ่มหลังต้องเร่งตาม แต่ก็ชัดเจนว่าฟอร์มของคาราพาซนั้นยังดีกว่าทั้งโรจ์ลิคและนิบาลี
6) โลเปซกับคาราพาซช่วยกันผลัดนำจนเข้าเส้นชัยก่อนกลุ่มหลัง 7 วินาที ถึงการแข่งขันจะเหลืออีกแค่ 4 สเตจ แต่ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด หรือคาราพาซไม่เสียเวลาให้คู่แข่งอีก เขาก็น่าจะได้แชมป์รายการค่อนข้างชัดเจนแล้ว หลังจบสเตจ 17 เขามีเวลานำนิบาลี +1:54 นาที และนำโรจ์ลิค +2:16 นาที
7) กัปตันทีม Movistar ให้สัมภาษณ์หลังแข่ง: “ผมเห็นโลเปซออกหนี ผมเลยลองตามดู พอเห็นว่าข้างหลังไล่ไม่เข้า เราก็ช่วยกันผลัดนำ ก่อนจะถึงสเตจ time trial ผมต้องการทุกวินาทีตุนไว้ก่อน ให้มันอุ่นใจครับ เราไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในสเตจที่เหลือ แต่ทีมเรามั่นใจพอสมควร”
8) “ด้วยเวลานำที่เก็บไว้ได้ตอนนี้ ผมก็อุ่นใจขึ้นนะ สิ่งที่แลนด้าทำวันนี้มันเพอร์เฟ็คมาก เขาเองก็ทำเวลานำเพิ่มได้ แล้วผมก็ได้โอกาสโจมตีด้วย”
9) ส่วนนิบาลีก็บอกว่าเขารู้ว่าคงโดนโจมตี แต่ก็ยังอยู่ในระยะห่างที่พอรับได้
“ผมเดาว่าต้องมีใครโจมตีนั่นแหละ แล้วผมเองวันนี้ก็รู้สึกไม่ดีเท่าไร แต่ก็ไม่เป็นไร เราไม่ได้เสียเวลามากนัก”
ด้วยที่เป็นเส้นทางขึ้นเขาเกือบ 130 กิโลเมตรในสเตจนี้ ภาพที่เหลือเป็นบรรยากาศสวยๆ จากสเตจ 17 ครับ
ผลการแข่งขัน
วิดีโอไฮไลท์