ลูกทุกคนก็ย่อมรักและภูมิใจในพ่อของตัวเอง (ตอนนี้อาจจะมีบางคนที่ชักจะเริ่มไม่พอใจอยู่ในข่าว….)
สำหรับนักปั่นเอง การมีพ่อที่เป็นนักปั่นที่ประสบความสำเร็จ ก็เป็นทั้งเรื่องดีและอาจจะไม่ดี เป็นเรื่องดีเพราะพันธุกรรมด้านกีฬานี่เป็นสิ่งที่สืบทอดให้ลูกได้จริง ถ้าพ่อปั่นเก่ง ก็มีโอกาสที่ลูกจะได้รับความสามารถนั้นมาด้วย ซึ่งก็มีตัวอย่างให้เห็นไม่น้อย
แต่ถ้าพ่อเก่งมากๆ แล้วลูกหันมาทำอาชีพเดียวกันก็คงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะถูกเปรียบเทียบผลงานกับพ่อ ถ้าลูกไม่เก่งกว่าพ่อก็คงอยู่ใต้เงาของพ่อไปตลอดกาล
ในวันที่ประโยค “พ่อคุณเคยทำอะไรให้ประเทศชาติบ้าง” กำลังเป็นประเด็น DT เล่าเรื่องราวของลูกชายนักปั่นชื่อดัง 6 คนที่เจริญตามรอยความสำเร็จของพ่อตัวเอง
1. เอริค ซาเบล
ริค ซาเบลเป็นสปรินเตอร์และลีดเอาท์แมนในทีม Katusha-Alpecin
เขาเดินตามรอยเท้าพ่อ ชายที่ชื่อว่า เอริค ซาเบล ถ้าคุณติดตามการแข่งขันจักรยานอาชีพมาสักพักคงได้ยินชื่อนี้มาก่อน…. เอริค ซาเบลเป็นหนึ่งในสปรินเตอร์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก
เขาชนะสเตจใน Tour de France 12 สเตจ, เป็นแชมป์ Milan San Remo 4 สมัย และเป็นแชมป์โลกอีก 2 ครั้ง เขาเคยเป็นโค้ชให้มาร์ค คาเวนดิช และปัจจุบันเป็นโค้ชในทีม Katusha-Alpecin ให้กับมาร์เซล คิทเทล และแน่นอนว่าเป็นทีมเดียวกับที่ลูกชายเขาสังกัดด้วย
ริค ซาเบลเองก็ไม่ใช่ย่อยๆ เขาเคยเป็นแชมป์ Tour of Austria และเป็นสปรินเตอร์ตัวรองของทีม ถึงจะไม่ใช่เอซสปรินเตอร์เหมือนพ่อ แต่เขาก็รับหน้าที่สำคัญเป็นผู้ช่วยสปรินต์ให้กับมาร์เซล คิทเทล
2. จอห์นนี ชเล็ค
จอห์นนี ชเล็คคือพ่อของแอนดี้และแฟรงก์ชเล็ค สองตัวเต็งแกรนด์ทัวร์ที่คนน้อง แอนดี้ คว้าแชมป์ Tour de France ได้สำเร็จในปี 2010 และเป็นคู่นักไต่เขาที่ฝีเท้าดีอันดับต้นๆ ของโลก ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะอำลาวงการไปแล้วก็ตาม
ทั้งคู่มีพ่อที่น่าภูมิใจไม่แพ้ใคร
จอห์นนี ชเล็คเคยลงแข่ง Tour de France 7 ครั้ง ถึงหน้าที่หลักของจอห์นนีจะไม่ใช่หัวหน้าทีม แต่เขาก็เป็นคนสำคัญที่ช่วยเหลือ แจน แจนเซ็น และหลุยส์ โอคานา เพื่อนร่วมทีม คว้าแชมป์ตูร์ได้สำเร็จในปี 1968 และ 1973
3. เดวิส ฟีนนย์
เดวิส ฟินนีย์ คือพ่อของเทย์เลอร์ ฟินนีย์ นักปั่นชาวอเมริกันจาก EF Education First
เดวิสเป็นหนึ่งในนักปั่นอเมริกันที่ประสบความสำเร็จที่สุดในยุคสมัยของเขา เขาได้แชมป์สเตจใน Tour de France สองครั้งในปี 1986 และ 1987 และได้อันดับสอง เกือบจะชนะรางวัลผู้นำคะแนนรวมในตูร์ปี 1988 และเคยเป็นแชมป์เสือหมอบอเมริกาด้วย
ลูกชาย เทย์เลอร์ ฟินนีย์เป็นนักปั่นดาวรุ่งจากอเมริกาที่เชี่ยวชาญด้านการปั่นไทม์ ไทรอัล เขาเคยได้แชมป์ TT อเมริกัน แต่ประสบอุบัติเหตุหนักในปี 2014 ที่ทำให้กระดูกหน้าแข้งหัก ตอนนี้เทย์เลอร์รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยคนสำคัญในสนามคลาสสิคและสเตจเรซรายการต่างๆ ให้กับทีม EF Education First
4. สตีเฟน โรช
หนึ่งในคนที่น่าจะภูมิใจกับพ่อตัวเองที่สุดคงไม่พ้นนิโคลาส โรช นักปั่นชาวไอริช ที่ปัจจุบันสังกัดทีม Sunweb
นั่นก็เพราะพ่อของเขา – สตีเฟน โรช คือหนึ่งในนักปั่นที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก สตีเฟนเป็นนักปั่นคนที่สองของโลกที่คว้าแชมป์ Giro d’Italia, Tour de France และแชมป์โลกเสื้อสีรุ้งได้ในปีเดียวกัน! (อีกคนที่ทำได้คือเอ็ดดี้ เมิร์กซ์) จากนั้นมายังไม่มีใครสามารถคว้ารางวัล ‘Tripple Crown” แบบสตีเฟนได้อีกเลย
นอกจากรางวัลสามมุงกฏแล้ว สตีเฟนยังได้แชมป์สเตจเรซดังๆ อีกหลายรายการ
ส่วนลูกชาย นิโคลาส ถึงจะไม่โด่งดังเท่าคนพ่อ แต่ก็เป็นนักปั่น all rounder ที่ทุกทีมต้องการตัว เขาเคยเป็นผู้ช่วยให้อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์, คริส ฟรูม, และริชีย์ พอร์ท เป็นนักไต่เขาที่พึ่งพาได้ เคยได้แชมป์สเตจใน Vuelta 2 ครั้งและติด top 10 overall อีก 2 ครั้ง
5. เอดรี แวน เดอ โพลล์
พ่อลูก แวน เดอ โพลล์ ชาวดัทช์คู่นี้ อาจจะเป็นตัวอย่างของการสืบทอดพันธุกรรมที่ดีที่สุดในวงการจักรยานครับ
นอกจากจะเป็นเทพในวงการ Cyclocross คว้าแชมป์โลกหลายสมัยและชนะแทบทุกรายการที่เขาลงแข่ง แล้ว ปีนี้ แมธธิว แวน เดอ โพลล์ ลูกชายของเอดรี แวน เดอ โพลล์ ยังโชว์ฟอร์มระดับตัวท็อปในสนาม Road Race โดยเฉพาะในรายการคลาสสิค หลายรายการ
แต่คนที่เก่งไม่แพ้กันก็คือพ่อของเขา! เอดรี แวน เดอ โพลล์เป็นอดีตแชมป์โลกไซโคลครอส เป็นแชมป์ซีรย์ CX อย่าง SuperPrestige และ UCI WorldCup
เท่านั้นยังไม่พอ เขายังเป็นนักปั่น one day race ตัวฉกาจในสนาม Road Race ด้วย กวาดแชมป์รายการคลาสสิคเกือบครบทุกรายการไม่ว่าจะเป็น Amstel Gold, Tour of Flanders, Liege-Bastogne-Liege, Brabantse Pijl (ที่แมธธิวเพิ่งชนะไปวันก่อน), Classica San Sebastian, Paris-Tours และ Scheldeprijs อ้อ เขาชนะ 2 สเตจใน Tour de France ด้วย
เอาเป็นว่ายอดชัยชนะแบบนี้ นักปั่นในเปโลตองปัจจุบันยังหาคนมาเปรียบได้ยาก
แมธธิวเองก็กลายเป็นนักปั่นตัวหอม ที่โปรทีมดิวิชัน 1 มารุมตอม อยากจะซื้อตัว แต่เจ้าตัวบอกว่าไม่รีบ ตอนนี้ยังอยากสนุกกับการแข่ง CX, MTB และ Road Race ผสมๆ กัน แถมยังมีสัญญากับทีม Correndon-Circus ยาวไปจนถึงปี 2023
แต่ไม่ว่าจะไปอยู่กับทีมไหนก็น่าจะอนาคตไกลแน่นอน
6. เอ็ดดี้ เมิร์กซ์
และสุดท้าย ผู้ชายคนเดียวที่พูดได้เต็มปากว่า “พ่อผมไร้เทียมทาน” ก็คือ แอ็กเซล เมิร์กซ์ ลูกชายของ เอ็ดดี้ เมิร์กซ์ นักปั่นจักรยานที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก
ด้วยยอดชัยชนะทั้งหมด 525 ครั้ง เมิร์กซ์มีชัยชนะรวมที่มากกว่าโปรทีมหลายๆ ทีมรวมกันตลอดอายุของทีมเสียอีก เขาเป็นแชมป์แกรนด์ทัวร์ 11 ครั้ง โดยชนะแกรนด์ทัวร์มาแล้วทุกรายการ เป็นแชมป์สนามคลาสสิคอีก 28 ครั้ง ชนะสนามระดับ Monument ครบทุกรายการ รายการละหลายสมัย
เอาเป็นว่าไม่มีอะไรที่เมิร์กซ์ยังไม่เคยชนะ อาจจะง่ายกว่ามานั่งไล่ผลงานของเขา
ลูกชายของเขา แอ็กเซล เมิร์กซ์ ก็คยเป็นนักปั่นอาชีพ ถึงจะไม่ประสบความสำเร็จในฐานะนักปั่นเหมือนพ่อ แต่หลังจากที่รีไทร์ในปี 2007 เขากลับพบว่าตัวเองมีความสามารถอื่นที่พ่อเขาไม่มี
นั่นคือการเป็นผู้จัดการทีมจักรยานครับ
แอ็กเซลสร้างทีมจักรยานแรกที่ชื่อว่า Trek-Livestrong โดยเป้าหมายของเขาไม่ใช่การสร้างทีมที่เก่งที่สุดในโลก แต่เป็นการเฟ้นหานักปั่นเยาวชนที่มีความสามารถ แต่อาจจะยังขาดการขัดเกลาที่ดี ปัจจุบันทีมของเขาชื่อว่า Hagens Berman Axeon และเขาปั้นนักปั่นเยาวชนให้เข้าทีมที่ดีที่สุดในโปรทัวร์มาแล้วนับสิบคน ไม่ว่าจะเป็น
เทย์เลอร์ ฟินนีย์ (EF Education First)
บ็อบ ยุงเกลส์ (Quickstep)
อเล็กซ์ ดาวเซ็ตต์ (Katusha-Alpecin)
แยสเปอร์ สตอยเว็น (Trek-Segafredo)
จอร์จ เบนเน็ต (Jumbo-Visma)
คริส ลอว์เลส (Sky)
เป็นต้น!
