[dropcap letter=”ใ”]นบทสัมภาษณ์กับนิตยสารจักรยานฝรั่งเศส เบอร์นาร์ด อินอลท์ แชมป์ Tour de France 5 สมัยพูดถึงเรื่องนักปั่นแอฟริกาได้น่าสนใจทีเดียวครับ ช่วง 8 ปีที่ผ่านมา อินอลท์ได้ไปช่วยงานเป็นฑูตการแข่งขันให้สนาม Tropicale Amissa ในประเทศกาบอน ซึ่งสนามแข่งจักรยานถนนที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกา อินอลท์บอกสื่อว่าระหว่างที่เขาไปคลุกคลีกับวงการนักปั่นแอฟริกัน เขาเห็นพัฒนาการของนักปั่นแอฟริกันโตขึ้นแบบก้าวกระโดดในระดับที่ใกล้เคียงหรือเทียบเท่านักปั่นยุโรปในดิวิชัน 1 และ 2 แล้ว ล่าสุดนักปั่นแอฟริกันชนะสนาม Amissa สองปีซ้อน ซึ่งที่ผ่านมาแชมป์จะตกเป็นของนักปั่นยุโรปทั้งหมด
แชมป์ปี 2013 Nathanel Berhane กระโดดขึ้นไปเป็นนักปั่นให้ทีม Europcar และทำผลงานได้น่าประทับใจในสนาม Tour de France ปี 2014 และแชมป์คนล่าสุด Rafaa Chtioui เป็นนักปั่นชาวตูนิเซีย
“ความได้เปรียบของนักปั่นที่ไม่ใช่ชาวยุโรป อย่างแอฟริกันและจีนคือพวกเขามีความมุ่งมั่นสูงมาก เขาลงแข่งเพื่อชนะ ผมว่าอีกไม่นานชาติอื่นๆ ที่ไม่ใช่ชาวยุโรปน่าจะมีโอกาสคว้าแชมป์สนามใหญ่”
“สิ่งที่นักปั่นยุโรปไม่มีเหมือนชาวแอฟริกันคือความกระหายชัยชนะ กว่าพวกเขาจะก้าวมาถึงจุดนี้เขาต้องฝ่าอุปสรรคมากมาย อุปกรณ์ไม่มี การฝึกซ้อมก็ยังขาดโค้ช คงเหมือนพวกเราชาวยุโรปที่ต้องก้าวข้ามจากการเป็นชาวนาและแรงงานมาเป็นนักปั่นอาชีพเมื่อ 60 ปีก่อน”
“ผมว่านักปั่นแอฟริกันหลายๆ คนฝีเท้าไม่แพ้นักปั่นยุโรปแล้ว ทวีปนี้มีนักกีฬาเก่งเยอะครับ สิ่งที่เขายังขาดคือโค้ชที่ดีและสมาคมจักรยานที่มีประสิทธิภาพและพร้อมจะสนับสนุนเขาอย่างแท้จริง”
“MTN-Qhubeka (โปรทีมจากแอฟริกา) เป็นตัวอย่างที่ดีมาก พวกเขาใช้เวลานานสร้างทีมจนกว่าจะมาถึงจุดนี้ (ปีนี้ MTN ได้รับเชิญให้แข่ง Tour de France) ถึงทีมจะมีนักปั่นยุโรปเยอะ แต่ก็มีนักปั่นจากรวันดาและเอริเทรียด้วย จากที่ผมเห็น ไต่เขาเก่งกันทุกคน ทีมนี้เป็นเหมือนภาพสะท้อนกลุ่มนักปั่นโคลอมเบียที่เริ่มดังในช่วงปี 80s และวันนี้พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาเอาชนะชาวยุโรปได้ (ไนโร คินทานาคว้าแชมป์ Giro d’Italia 2014)”
♦♦♦