Bike Spot: Ridley Noah Fast

Ridley Noah Fast  เป็นเสือหมอบแอโรคันแรกๆ ในตลาดจักรยานเสือหมอบเลยก็ว่าได้ ลงตลาดตั้งแต่ต้นปี 2012 และเป็นเสือหมอบแอโรที่ล้ำยุคที่สุดในสมัยนั้น เพราะนอกจากจะออกแบบเฟรมได้ลู่ลมมุดอากาศสุดๆ แล้วยังเป็นเจ้าแรกที่ทำเบรคซ่อนแบบซ่อนไม่ปะทะลม ไม่ใช่เบรคซ่อนหลังตะเกียบธรรมดาเพราะเบรคของ Noah Fast ฝังอยู่ในเฟรม ทีเด็ดอีกอย่างก็คือตัวเฟรมเคลือบสีพิเศษที่ Ridley อ้างว่าช่วยยึดกระแสลมให้ติดกับผิวเฟรม ช่วยลดแรงต้านได้อีก 4% เทียบกับเฟรมแอโรที่เพนท์สีธรรมดา ถึงตอนนี้ก็ยังเป็นเสือหมอบที่ทีม Lotto-Belisol ใช้อยู่ คงคุ้นตากับ Noah Fast สีขาวพาดลายเยอรมันและหัวกอริลลาของสปรินเตอร์สุดแรง Andr-Griepel

เจ้า Noah Fast คันนี้สมาชิก DT Cycle Club ส่งมาจากสกลนครส่งมาแบ่งปันพร้อมมินิรีวิวสั้นๆ ครับ ไปชมกันดีกว่า

Frame: Ridley Noah Fast Size xs ปี 2013
Groupset: Campagnolo Athena / เฟือง Super Record
Crank: Rotor 3D+  / Q-Ring 52-36 BCD110
Wheelset: Enve Smart System 6.7 Tubular
Tires: Continental Competition 22 mm
Saddle: Fizik Arione R3 K:ium
Handlebar: Enve (400mm)
Stem: Enve (110mm)
Pedal: Speedplay Zero Chromoly
Weight Total: 7.4Kg
Rider Height: 173cm / Inseem 83cm

DT: ในบรรดาเฟรมแอโรทำไมถึงเลือก Noah Fast?

ด้วยกระแสรถเสือหมอบแอโร่กำลังมาแรง ซึ่งด้วยการที่ผมเป็นคนที่ไม่ชอบรถที่คนซ้ำเยอะๆ ช่วงแรกเลยได้เล็ง BH G6 ไว้ จนถึงขั้นให้ร้านจักรยานสั่งเฟรม Size XS  มาและเมื่อเฟรมมาถึงก็เกิดปัญหาเพราะหลักอานที่ให้มาสั้นมาก ยาวแค่ 20 กว่าเซ็นติเมตรเท่านั้นเองช่วงนั้นผมกังวลเป็นอย่างมาก เพราะผมอยู่ จ.สกลนคร และเฟรมอยู่กรุงเทพฯ และมันคาใจมาก จนต้องนั่งรถลงมากรุงเทพฯเพื่อวัด และคำนวนความสูงที่สูงที่สุดที่สามารถยืดออกได้ของหลักอาน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถแก้ไขได้เพราะระยะความสูงของอานที่วัดจากกลางกระโหลกยาวไม่ถึงระยะเดิมแน่นอนขาดไป 3-5 เซ็นติเมตรได้ วันนั้นเลยอดหิ้วเฟรม BH G6 กลับบ้าน แต่ระหว่างนั่งเล่นอยู่ร้านทั้งวันเลยเหลือบไปเห็นเฟรม Ridley Noah Fast แขวนไว้อยู่บนผนังร้าน … ผมเลยจัดแจงขอทางร้าน ยกลงมาวัดไซต์ก่อนเลยเพื่อความชัวร์ว่าจากกลางแกนกระโหลกถึงเบาะจะได้ระยะที่ผมนั่งไหม.. ซึ่งโชคเข้าข้างระยะพอดีเป๊ะเลย ไม่ต้องตัดหลักอานออก

DT: เปรียบเทียบกับคันที่เคยใช้? 

รถคันนี้ประกอบราวๆต้นเดือน ธันวาคม ปี 56  คิดเป็นระยะทางจนถึงตอนนี้ก็น่าจะราวๆ 3,000 กว่ากิโลเมตรแล้ว  ก่อนหน้านี้ใช้ Masi Evoluzione ตัว HMC มาก่อนใช้ได้อยู่ปีกว่าๆ แล้วจึงได้เปลี่ยนมาใช้ Ridley Noah Fast ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้เลยคือ คำว่า “กดติดเท้า” มันเป็นยังไง เพราะ Noah Fast กดแล้วพุ่งกว่า Masi คันเดิมอยู่มากเลย  แต่เรื่องความนุ่นปั่นสบาย เวลาเจอทางขรุขระ สู้ Masi ไม่ได้  แต่ก็ต้องทำใจเพราะเลือกรถแอโร่มาแล้วมันก็ต้องแข็งกระด้างเป็นธรรมดา

DT: คิดยังไงกับเฟรมแอโร่บ้าง คุ้มไหมกับที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นแต่ลู่ลม

หากถามว่าปั่นเร็วขึ้นไหม ผมมองเลยว่าแทบจะไม่ต่างกับเฟรมเดิมเลย แต่สิ่งที่ได้มาแทนคือความแข็งกระด้าง กดติดเท้ามากกว่าเดิม  แต่ด้วยความลู่ลมอาจจะสัมผัสได้ยาก ว่ามันลู่กว่าเดิมไหม เพราะซะยังไงจะเร็วก็อยู่ที่แรงคนเป็นหลัก รถเป็นตัวแปรเล็กๆ เท่านั้น ถามว่าคุ้มไหมผมมองว่าผมชอบมันก็พอ แค่นั้นผมก็คุ้มแล้ว