คาเวนดิช: “ถ้าครั้งนี้ยังไม่ได้เหรียญ มันก็คงไม่ใช่โอกาสของผม”

หลังจากที่ทีมชาติเกรทบริเทน เปิดตัวในสนามแข่งลู่วันแรกด้วยการชนะทุกประเภทการแข่งขัน ทั้ง Team Pursuit และ Team Sprint ความคาดหวังการคว้าเหรียญทองก็สูงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับนักกีฬาที่ยังไม่ได้ลงแข่ง หนึ่งในนั้นคือมาร์ค คาเวนดิช สปรินเตอร์ตัวเต็งจาก Team GB ที่จะมาลงประเภท Omnium ท้าชิงกับคู่แข่งชื่อดังอีกหลายคน

สัปดาห์ก่อนคาเวนดิชให้สัมภาษณ์กับ Sky Sports เรื่องสนามโอลิมปิก ทั้งเรื่องความคาดหวังและฟอร์มการปั่น มาฟังกันครับว่าเขาพูดอะไรบ้าง

คาเวนดิชจะไม่ลงประเภท Team Pursuit

ในฐานะตัวแทนทีมชาติประเภท Track Endurance คาเวนดิชเป็นส่วนหนึ่งของชุดนักปั่นประเภท Team Pursuit ทั้งหมด 5 คน แต่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่าคงไม่ได้ลงแข่งประเภทนี้ (ซึ่งนำทีมโดยแบรดลีย์ วิกกินส์) Team Pursuit ใช้นักปั่น 4 คนในการแข่งขัน และคาเวนดิชได้บอกว่า ทีมชาติตัดสินใจไม่ใช้คาเวนดิชเลยในการแข่งประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็นรอบคัดเลือก หรือรอบชิงเหรียญรางวัลก็ตาม (ปกติทีมมักจะสลับตัวใช้นักปั่นทั้ง 5 คนตามความฟิตและกลยุทธ์การแข่งทุกๆ รอบ)

ชุด Team Pursuit หลัก 4 คนจะประกอบด้วยแบรดลีย์ วิกกินส์, โอเว็น โดลล์, เอ็ด แคลนซี่ และ สตีเฟน เบิร์ค

คาเวนดิชกล่าวว่าเขาผิดหวังเล็กน้อย แต่ไม่มีปัญหาอะไรกับทีม

“คุณคงไม่ได้เห็นผมในชุด Team Pursuit – จริงๆ มันเป็นเหตุผลหลักที่ผมแข่งตูร์ไม่จบ เพราะผมอยากกลับมาซ้อม Team Pursuit เพื่อเป็นตัวช่วยของทีม จริงๆ ถ้าผมแข่งตูร์จนจบมันจะดีกับผมว่าสำหรับการแข่ง Omnium ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของผม แต่ผมเห็นว่าทั้ง 4 คนซ้อมด้วยกันมาตลอด ผมก็ไม่ติดใจอะไรครับ แบรด (แบรดลีย์ วิกกินส์) ดูจะอยากแข่งเองทั้งหมดกับทีมของเขา เพราะงั้นผมคงมุ่งเป้าไปที่ Omnium แล้วถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับทีม ผมถึงจะได้ไปช่วย” 

แข่งลู่กับถนนพร้อมกันยากแค่ไหน?

เมื่อถามว่าการเปลี่ยนรูปแบบการซ้อมระหว่างสนามถนนกับลู่มันยากแค่ไหน คาเวนดิชตอบว่า:

“ผมว่าผมเป็นคนที่โชคดีมาก มีนักปั่นไม่กี่คนในโลกนี้ที่ลงแข่งทั้งสองประเภทได้เต็มที่ มีผมมีแบรด (วิกกินส์) แต่มันต้องใช้ความพยายามในการเตรียมพร้อมมากๆ ครับ ทุกวันในการซ้อมของคุณต้องเป๊ะ แม้แต่วันว่างก่อนลงแข่ง Tour de France ก็มีผลกับการซ้อมโอลิมปิกของผม…แต่ตอนนี้ผมรู้สึกฟอร์มดีครับ น่าจะทำผลงานได้ดี”

รางวัลสุดท้ายที่คาเวนดิชยังไม่ได้

ด้วยผลงานแชมป์สเตจในตูร์เดอฟรองซ์ที่มากเป็นอันดับสองของโลก เจ้าของเสื้อเขียว เสื้อเหลือง และเสื้อผู้นำทุกตัวในแกรนด์ทัวร์ พร้อมแชมป์โลกจักรยานถนน คาเวนดิชคือนักปั่นที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เขายังขาดเหรียญรางวัลจากโอลิมปิก ซึ่งเป็นรายการที่เขาพยายามมาสองครั้งแล้วแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ

ในปี 2008 ที่ปักกิ่ง คาเวนดิช (และวิกกินส์) ลงแข่งในประเภท Madison แต่พ่ายไม่ได้เหรียญรางวัล และเป็นนักปั่นอังกฤษคนเดียวในปีนั้นที่ไม่มีเหรียญรางวัลกลับบ้าน ในปี 2012 เขาพยายามอีกครั้งในประเภทจักรยานถนนแต่ก็พ่ายให้กับเกมเบรคอเวย์ที่อเล็กซานเดอร์ วิโนคูรอฟ จากคาซัคสถานคว้าเหรียญทองไป

“ทั้งสองครั้งที่ผมพลาด ผมว่าผมไม่ได้ทำอะไรพลาด แต่สถานการณ์บางอย่างมันก็ยากที่จะควบคุม ที่ปักกิ่ง ผมว่าผมเป็นนักปั่นลู่ที่ฟอร์มดีที่สุดในสนาม ในวันนั้น ที่ลอนดอน ทีม GB เป็นทีมที่แกร่งที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ผมเตรียมตัวพร้อมทุกอย่าง แต่แพ้ก็คือแพ้ครับ มันไม่ง่ายอย่างที่หลายๆ คนคิด”

ปีนี้คาเวนดิชอายุย่างเข้า 31 ปี และมันคงเป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะได้แข่งโอลิมปิกในฟอร์มที่พร้อมชนะเหรียญรางวัล

“ถ้าครั้งนี้ผมยังไม่ได้เหรียญ มันก็คงไม่ใช่โอกาสของผมแล้วหละ”