มาร์ค คาเวนดิช (Dimension-Data) อาจจะเป็นสปรินเตอร์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในการแข่งขันตูร์ เดอ ฟรองซ์ ด้วยผลงานแชมป์ 29 สเตจ มากเป็นอันดับสองของโลก และเป็นนักปั่นเจ้าความเร็วที่ฟอร์มดีที่สุดในตูร์ปีนี้เมื่อเขาคว้าแชมป์ได้ 3 สเตจในระยะเวลาแค่ 6 วัน
แต่คาเวนดิชยอมรับว่าเขาไม่สามารถผูกขาดการแข่งได้เหมือนสมัยก่อนอีกต่อไป เขามีคู่แข่งเพิ่มขึ้นมากมาย และตัวแปรอื่นๆ อย่างเรื่องอุปกรณ์และแอโรไดนามิกก็มีผลต่อการแข่งชัดเจน คาเวนดิชคิดยังไงกับการสปรินต์ในโปรทัวร์ตอนนี้? นี่คือบทสัมภาษณ์กับ Cyclingweekly ของเขาครับ
“ผมไม่สามารถพูดได้ว่าตัวเองคือสปรินเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกอีกต่อไปแล้ว มันไม่เหมือนเหมือน 10 ปีก่อน ที่ตอนนั้นยังไม่มีสปรินเตอร์คนไหนระเบิดพลังได้ 2000 วัตต์หน้าเส้นชัย ไม่มีจักรยานแอโร ไม่มีหมวกแอโร สกินสูท และคุณต้องไต่เขาได้ดีกว่าตอนนี้ด้วยถ้าจะชนะสเตจ”
“แต่ตอนนี้คุณสามารถสปรินต์ได้เร็วกว่าเดิม มีนักปั่นร่างใหญ่ที่แรงเยอะกว่าผม และคนตัวเล็กกว่าผมที่สปรินต์ได้ดีไม่แพ้กัน มันไม่มีสูตรสำเร็จหรือลักษณะร่างกายแบบไหนที่จะนิยามความเป็นสปรินเตอร์ได้ชัดเจน” (DT Note: ตัวเล็กก็เช่นไบรอัน โคคอร์ และคาเล็ย ยวน สปรินเตอร์ตัวใหญ่ก็เช่นมาร์เซลคิทเทล และอังเดร ไกรเปิล)
“การแข่งขันจักรยานเป็นกีฬาที่มีเอกลักษณ์ตรงที่นักปั่น ไม่ว่าจะมีร่างกายแบบไหน จะขนาดตัวใหญ่หรือเล็กก็สามารถแข่งด้วยกันได้อย่างเท่าเทียม คุณก็ต้องแค่เค้นเอาศักยภาพร่างกายออกมาให้เต็มที่เพื่อชนะ”
“ผมโชคดีที่มีโค้ชอย่างรอล์ฟ อัลแด็ก มันไม่น่าแปลกใจหรอกถ้าคุณจะเห็นเขาอยู่กับผมมาเป็นสิบๆ ปี เขาเห็นสิ่งที่ผมไม่เห็น เขามองหาจุดอ่อนของผมได้ เขายอมฟังเสียงด่นด่าและคำบ่นของผม และพยายามทุกอย่างที่จะแก้ปัญหาให้ผม ตอนนี้ผมมีรอล์ฟและ (โรเจอร์) แฮมมอนด์ ทีม Dimension Data ของเรามีโค้ชที่ตัดสินใจเก่งที่สุดในสนามตอนนี้”
“มันไม่ใช่ว่าผมมาตัดสินใจเอาหน้างานตอนจะเปิดสปรินต์กัน แต่ละวันเรามีแผนชัดเจนว่าสมาชิกในทีมแต่ละคนจะต้องทำอะไรบ้าง ในจุดไหนของการแข่ง และการที่ผมชนะก็เป็นเพราะพวกเขาทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันบ่งบอกถึงความสามารถของทีมมากกว่าผมเสียอีก ต้องขอบคุณพวกเขาครับ”
Via: Cyclingweely
