Ridley NOAH Fast อาจจะเป็นหนึ่งในเสือหมอบแอโรที่ลู่ลมไม่แพ้เฟรมคู่แข่งตัวไหนๆ แต่ปัญหาคือน้ำหนักตัวที่มากเป็นพิเศษซึ่งอาจจะทำให้หลายๆ คนมองตัวเลือกอื่น แต่ Ridley ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ล่าสุดเปิดตัวเสือหมอบแอโรโฉมใหม่หมดกับน้ำหนักเฟรมไซส์กลางเพียง 950 กรัม ในชื่อ Ridley NOAH SL
DT สอบถาม Ridley ว่าเจ้าคันนี้มันต่างกับ NOAH และ NOAH Fast ยังไงก็ได้คำตอบว่า เป้าหมายหลักๆ คือทีมงานต้องการสร้างเฟรมแอโรน้ำหนักเบาที่ใช้งานได้สะดวก น้ำหนักตัวที่หายไปร่วม 200 กรัมเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนนั้นมาจากเทคโนโลยีเรซินและการพันคาร์บอนแบบใหม่ที่ช่วยลดน้ำหนักแต่ยังรักษาความสติฟไว้ได้ดี ส่วนเรื่องความแอโรนั้น Ridley เพิ่ม F-Surface หรือขึ้นรูปท่อให้มีเส้นนูนบริเวณด้านปะทะลม ซึ่ง Ridley อ้างว่าช่วยให้ลู่ลมได้ดีกว่าเดิม ((เทคโนโลยีนี้มีให้เห็นเยอะพอสมควรครับ ทั้ง Swirl Lip Generator ของล้อ Reynolds และรอยเส้นนูนของล้อ FFWD ก็มาจากคอนเซปต์เดียวกัน))

บริเวณท่อล่าง (Down Tube) และท่อนั่ง (Seat Tube) ก็ได้รับการออกแบบใหม่เช่นกันมีการตัดเว้าเพื่อให้รับกับล้อและจัดการกระแสลมปะทะได้สมูทกว่าเดิม ส่วนบริเวณ seat stay นั้นมีขนาดสั้นกว่า NOAH Fast เป็นการช่วยลดน้ำหนักและเนื้อคาร์บอนที่ใช้ไปในตัว
ตามที่เห็นในภาพ NOAH SL ใช้เบรคปกติ เบรคหลังไม่ซ่อนใต้กระโหลก และเบรคหน้าไม่ได้ฝังอยู่ในตะเกียบเหมือน NOAH Fast
NOAH SL ใช้ตะเกียบ Split Fork เหมือน NOAH Fast ซึ่ง Ridley อ้างว่าช่วยลดแรงต้านลมได้กว่า ตะเกียบออกแบบมาให้ฝังลงไปอยู่กับท่อคอและท่อล่างตามเทรนด์การออกแบบหมอบแอโรสมัยใหม่
ท่อคอเป็นแบบ tapered headtube เพื่อเพิ่มความสติฟและหน้าตัดที่เล็กลงก็ช่วยลดแรงปะทะลมได้ด้วย ส่วนกระโหลกใช้มาตรฐาน PressFit 30
ท้ายสุด เฟรมใช้หลักอานแบบถอดได้ ไม่เป็น integrated seatpost เหมือน NOAH Fast ซึ่งก็น่าจะช่วยให้การขนย้ายเดินทางแพ๊คลงกระเป๋าสะดวกกว่าเดิม
Ridley NOAH SL ถือเป็นเฟรมรุ่นรอง NOAH Fast ถึงแม้จะมีน้ำหนักเบากว่าแต่ Ridley ยังยืนยันว่าเฟรม NOAH Fast แอโรตัดลมได้ดีกว่า สเป็คและราคา (ยูโร) ตามข้างล่างนี้ครับ
- Noah SL 10 (SRAM Red 22) – €7,999
- Noah SL 15 (Campagnolo Chorus EPS) – €6,699
- Noah SL 20 (Shimano Dura-Ace) – €5,999
- Noah SL 30 (Shimano Ultegra) – €3,699
- Noah SL frame and fork – €2,999
