[dropcap letter=”เ”]มื่อวานนี้สหพันธ์จักรยานนานาชาติหรือ UCI ประกาศรายชื่อทีมจักรยานอาชีพทั้งหมดในระดับดิวิชัน 1 และ 2 มีหลายประเด็นที่น่าสนใจสำหรับแฟนๆ จักรยาน DT สรุปมาให้ฟังกันเป็นข้อๆ ครับ อันดับแรกมาดูกันก่อนว่ามีทีมไหนอยู่ดิวิชันอะไรบ้าง บางทีมก็ได้สปอนเซอร์ใหม่ ชื่อทีมก็เปลี่ยนไปครับ
UCI World Tour (Division 1) | UCI Pro Continental (Division 2) |
AG2R La Mondiale | Androni Giocattoli |
Astana | Bardiani-CSF |
BMC Racing | Bora-Argon 18 (Netapp-Endura) |
Cannondale Pro Cycling (Cannondale+Garmin) | Bretagne-Séché |
Etixx – Quick Step (OPQS) | Caja Rural |
Europcar | CCC Sprandi Polsat |
FDJ.fr | Cofidis |
Team Giant – Alpecin (Giant-Shimano) | Cult Energy* |
Katusha | Drapac |
Lampre-Merida | IAM |
Team Lotto – Jumbo (Belkin) | MTN-Qhubeka |
Lotto-Soudal (Lotto-Belisol) | Nippo-Vini Fantini* |
Movistar | Novo Nordisk |
Orica-Greenedge | Roompot Orange* |
Team Sky | RusVelo |
Tinkoff-Saxo | Topsport Vlaanderen |
Trek Factory Racing | UnitedHealthcare |
Wanty Gobert | |
Yellow Fluo |
[separator type=”thin”]
1. ฤดูกาล 2015 ดิวิชัน 1 จะมีแค่ 17 ทีม
ปกติแล้วทีมดิวิชันหนึ่งที่เราเรียกชื่อแบบเต็มยศว่า UCI Pro Team ((ปีนี้เปลี่ยนเป็น UCI World Team)) จะมีทั้งหมด 18 ทีม ไม่มากไม่น้อยกว่านี้ ทว่าช่วงกลางปีที่ผ่านมา ทีม Cannondale ตัดสินใจยุบรวมกับ Garmin-Sharp (กลายเป็น Cannondale Pro Cycling) ก็ทำให้ทีมหายไป 1 ทีม เหลือ 17 ทีม และไม่มีทีมจากดิวิชัน 2 ขอเลื่อนขึ้นมาเป็นดิวิชัน 1
2. ทำไมไม่เลื่อนมาเป็นดิวิชัน 1 หละ?
ตอนนี้ทีมดิวิชัน 2 มีทีมใหญ่หลายทีมทีเดียวครับทั้ง MTN Qhubeka ที่เพิ่งจะซื้อตัวนักปั่นชื่อดังอย่างเอ็ดวาล์ด โบสซัน ฮาเกน (SKT), แม็ท กอส (OGE) และไทเลอร์ ฟาร์รา (Garmin) ไหนจะ IAM Cycling และ Cofidis ที่มีทุนทรัพย์และนักปั่นมากพอจะขึ้นดิวิชัน 1 แต่ทุกทีมกลับเลือกไม่เลื่อนขั้น
ต้องอธิบายอย่างนี้ ในการแข่งขันจักรยาน ดิวิชัน 1 และ 2 ไม่เหมือนในฟุตบอลครับ ไม่ได้แยกลีกแข่งกันลักษณะนั้น สิทธิพิเศษของทีมดิวิชัน 1 คือการันตีว่าจะได้ลงสนามที่ใหญ่ที่สุดตลอดทั้งฤดูกาล ประโยชน์คือทีมได้แข่งสนามใหญ่ สปอนเซอร์ได้ออกสื่อเยอะกว่า แต่การที่ทีม “ต้อง” ลงแข่งนั้นเป็นกฏข้อบังคับ ถ้าไม่ไปแข่งสนามไหนก็จะโดน UCI ปรับเงิน สังเกตว่ามันคือ “ความรับผิดชอบ” ซึ่งถ้าทีมมีนักปั่นไม่เยอะ หรือมีเงินและการบริหารที่ไม่ดีพอก็เป็นเรื่องยากที่จะต้องส่งนักปั่นลง 2-3 สนามพร้อมๆกันตลอดทั้งปี
ทีมดิวิชัน 2 ส่วนใหญ่ เงินไม่ถึงและมีนักปั่นไม่พอจะแบ่งลงทุกสนามที่ถูกบังคับ การที่เขาไม่ได้สิทธิการันตีลงสนามใหญ่อย่างแกรนด์ทัวร์นั้นอาจจะเป็นข้อเสีย แต่ผู้จัดแข่งก็จะรับเชิญทีมที่มีนักปั่นชื่อดังอยู่แล้ว เพราะงั้น ทีมดิวิชัน 2 หลายๆ ทีมอย่างที่ยกตัวอย่างข้างบนก็น่าจะได้ลงแกรนด์ทัวร์และสนามคลาสสิค เช่น Cofidis ทีมฝรั่งเศส ไม่ต้องแคร์เลยว่าจะอยู่ดิวิชัน 1 หรือเปล่า เพราะผู้จัดตูร์ เดอ ฟรองซ์ เชิญเขาแทบทุกปี เนื่องจากเป็นทีมดังของชาติ ทีมอย่าง Netapp-Endura ก็ได้ลงทั้งตูร์และวูเอลต้า
เพราะงั้นถึงทีมดิวิชัน 1 จะมีแค่ 17 ทีม แต่เวลาผู้จัดแข่งเขาเชิญไปแข่ง เขาก็จะเชิญให้ครบโค้วต้า 22 ทีมอยู่ดี ก็กลายเป็นว่ามีทีมรับเชิญจากดิวิชัน 2/3 5 ทีม + ทีมดิวิชัน 1 17 ทีม สรุปมีค่าเท่าเดิม
3. ทีม Alonso หายไปไหนแว้?
เฟอร์นันโด อลอนโซ นัก F1 ชื่อดังที่ประกาศว่าจะตั้งโปรทีม มาสักพักใหญ่ๆ ตอนนี้คือยังเป็นโปรเจ็คในฝันอยู่ครับ เขาออกสื่อหลายต่อหลายครั้งว่าโครงการก้าวหน้าไปมากแล้ว เซ็ตอัปหลายๆ อย่างเรียบร้อยแล้ว แต่พอถึงวันเดดไลน์จริงๆ ปรากฏว่าทีม Alonso ไม่ได้ยื่นขอไลเซ่นส์กับ UCI ด้วยซ้ำ นั่นแปลว่าเราจะไม่ได้เห็นทีม Alonso ในฤดูกาลหน้าเพราะนักปั่นมีสังกัดกันหมดแล้ว
เขาอยากจะตั้งทีมใหม่หมดจด แบบไม่ใช่การไปเซ้งต่อทีมเก่า แต่มันก็เป็นเรื่องยาก เพราะเขาเดินเรื่องช้ามาก และดูจะไม่เข้าใจกฏการว่าจ้างนักปั่นเท่าไร จนทีมอื่นซื้อขายแลกเปลี่ยนกันไปหมดแล้ว ถ้าจะมีจริงๆ (ซึ่งเป็นเรื่องดีนะ) ก็คงเป็นฤดูกาล 2016 อย่างเร็วที่สุด และอาจจะเริ่มจากทีมระดับดิวิชัน 2
(ใครสนใจเรื่องโปรเจ็คขายฝันของ Alonso ตามไปอ่านได้ที่ Cyclingtips)
4. ทำยังไงถึงจะได้ขึ้นดิวิชัน 1?
คำถามนี้มีคนถามมามาก หลักๆ ก็คือจะขึ้นดิวิชัน 1 ได้ต้อง
a.) มีเงินจ่ายค่าไลเซ่นส์ (ซึ่งแพงกว่าดิวิชัน 2) บางทีก็ให้ไลเซ่นส์หลายปี บางทีก็ให้ปีเดียว เหมือนการออกวีซ่า แต่ทุกๆ ปี UCI ต้องพิจารณาไลเซ่นส์ของทุกๆ ทีม ตามข้อสอง
b.) ต้องผ่านเกณฑ์การประเมินของ UCI ในด้าน: การกีฬา, คุณธรรม, การบริหาร, และการเงิน
ทีมไหนผลงานดี แต่เงินไม่ถึง ก็อาจจะไม่ได้ไลเซ่นส์ หรือถ้าทุกอย่างดีแต่มีนักปั่นโด้ป ก็มีสิทธิไลเซ่นส์หลุดเหมือนกัน ทีมอย่าง Katusha เคยไลเซ่นส์หลุดเพราะปัญหาการโด้ป และเรื่องบัญชีที่ดูจะใช้เงินแบบร่ำรวยผิดปกติ….
5. ทำไมลีกจักรยานมันดูซับซ้อนจังเลย!?
ถ้าจะให้อธิบายกฏระเบียบของทีม ลีก ดิวิชันภายใน 5 นาที ผมเชื่อว่าคนคงเบื่อจนเลิกสนใจไปก่อน แต่มันคือจุดบอดของลีกการแข่งขันจักรยานในตอนนี้ครับ เหตุผลคือมันเป็นกีฬาที่ยึดติดกับประวัติศาสตร์และธรรมเนียมมากๆๆๆๆ เช่นว่าทำไมแกรนด์ทัวร์ต้องแข่งตั้ง 21 วัน ซึ่งการแข่งยาวนานแบบนี้ทำให้นักปั่นตัวเต็งลงได้แค่ปีละ อย่างมากก็ 1-2 สนาม แถมปีๆ นึงยังมีสนามแข่งเป็นร้อยๆ สนาม จนคนดูตามกันไม่หมด (อารมณ์เดียวกับสนามใจเกินร้อยบ้านเราที่มีให้แข่งทุกสัปดาห์) มันก็เลยดูขาดระเบียบ ทำให้ติดตามได้ยาก จนเป็นกีฬาที่มีคนดูน้อยนั่นเอง
ทาง UCI ก็วางแผนจะปรับเปลี่ยนโครงสร้างการแข่งกันยกใหญ่ โดยกำหนดดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2020 นี้ครับ หลักๆ ที่เขาจะทำก็คือลดจำนวนนักปั่นต่อทีม (จาก 30 ให้เหลือไม่เกิน 25 คน) และจัดระเบียบตารางแข่ง ให้แต่ละสนามมีระยะเวลาแข่งสั้นลง ลดจำนวนสนามแข่งลง ซึ่งก็จะช่วยให้นักปั่นสามารถแข่งแต่ละสนามได้เต็มที่มากขึ้น ไม่ใช่ไปแข่งสนามเล็กแทนการซ้อมเค้นฟอร์ม เพื่อไปลงสนามใหญ่เหมือนที่ผ่านมา