[dropcap letter=”ไ”]ม่บ่อยที่ DT จะแนะนำให้คุณย้อนดูการแข่งขันแบบทั้งสเตจ ตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะว่ากันจริงๆ แล้วงานแข่งจักรยานโดยมากมันจะสนุกที่ประมาณควอเตอร์สุดท้าย แต่สเตจ 4 ใน Giro d’Italia เมื่อวานนี้ไม่ใช่การแข่งขันจักรยานที่คุณเคยดูกแน่นอนครับ ดาวิเด้ ฟอร์โมโลดาวรุ่งจาก Cannondale-Garmin อาจจะได้แชมป์สเตจ และ GreenEdge รักษาเสื้อผู้นำเวลารวมไว้ได้อีกหนึ่งวัน แต่ด้านหลังเป็นศึกการชิงเวลาของบรรดาทีมตัวเต็งที่เดือดที่สุดที่เราเคยเห็นในรอบหลายปี เกิดอะไรขึ้นบ้าง? เรามาย้อนรอยกันแบบช็อตต่อช็อตดีกว่า
ที่สุดแห่งความเดือด
ลองดูเส้นทางสเตจเมื่อคืนนี้กันอีกรอบครับ มันมีไฮไลท์อยู่สองอย่างที่ทำให้สเตจนี้สนุกและเดือดมาก หนึ่งคือเส้นทางมันสั้น เมื่อเทียบกับสเตจอื่นๆ ระยะทางที่สั้นทำให้นักปั่นเล่นกันหนัก ใช้ความเร็วสูง บวกกับทางแบบโรลลิ่ง ขึ้นๆ ลงๆ ทำให้ peloton คุมเกมเบรคอเวย์ได้ยาก เชื่อว่าทุกทีม (และคอมเมนเตเตอร์) หวังว่าสเตจนี้จะเป็นวันของเบรคอเวย์ ง่ายๆ สบายๆ แต่มันเกินความคาดหมายทุกประการ ทั้งสำหรับทีมผู้นำเวลารวม Orica-GreenEdge ทีม GC อย่าง Tinkoff, Astana และ Sky เบรคอเวย์เริ่มหวดหนีกันตั้งแต่กิโลเมตรที่ 1 นักปั่นขาแรงระดับซุปเปอร์โดเมสติกร่วม 30 คนหนีไปได้ ซึ่งมีระดับ โรมัน ครอยซิเกอร์ (Tinkoff), คอนสแตจติน ซิทซูว์ (Sky), ดาริโอ้ คาทาลโด้ (Astana), เอสตาบาน ชาเวซและไซมอน คลาร์ค (GreenEdge) ยังไม่รวมทีมดิวิชันสองอีกหลายคน จนกลุ่มหนีตีห่างกลุ่มตัวเต็งได้เป็นสิบนาที
รวมๆ แล้วในกลุ่มหนีมีนักปั่นจากทีมใหญ่ทุกคน ซึ่งพอจะเข้าใจได้ว่าทำไม peloton ไม่ยอมไล่ มีนักปั่นในกลุ่มหนีแล้วไม่มีใครอยากไล่ทีมตัวเองครับ แต่พอ Tinkoff เห็นว่า peloton หนีได้ไกลเกินไป สถานการณ์ชักไม่ดี เพราะทีมมาแข่งให้คอนทาดอร์ ไม่ใช่ครอยซิเกอร์ (ซึ่งอาจจะโดนจับแบน เพราะคดีโด้ปส่วนตัวของเขายังไม่จบ) Tinkoff เริ่มตั้งแถวไล่ลูกทีมตัวเอง…
ส่วนในเบรคอเวย์ก็อลหม่านไม่แพ้กันเพราะไม่มีใครยอมใครครับ หลายทีมพยายามกระชากหนีให้ได้กลุ่มนำที่มีขนาดเล็กและทำงานร่วมกันได้ Tinkoff ลดระยะห่างได้เหลือราว 8 นาทีจน Astana ตัดสินใจเข้าช่วย เพราะครอยซิเกอร์ไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้หนีไปได้ไกลๆ ถ้าจับกลุ่มไม่ได้แล้วครอยซิเกอร์เข้าเส้นชัยนำเกิน 5 นาที Giro d’Italia อาจจะได้ผู้ชนะเลยตั้งแต่วันนี้ ว่าแล้ว Astana ก็ใช้กำลังพลทั้งหมดที่มีเดินเครื่องเต็มสปีด จนกระทั่งผู้นำเวลารวม ไมเคิล แมธธิวส์ (OGE) และนักปั่นอีกหลายสิบคนเริ่มหลุดออกจากกลุ่มตัวเต็ง สุดท้ายกลุ่มตัวเต็งเหลือไม่ถึง 20 คน และนี่คือ 20 คนที่แกร่งที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ พอร์ท คอนทาดอร์ พอร์ท อยู่ครบ แต่อูราน และ Movistar เกือบทั้งทีมหลุดหายไปหมด จากระยะห่างของเบรคอเวย์ 7 นาทีค่อยๆ หดเหลือ 3 นาที ก่อนถึงทางขึ้นเขาลูกสุดท้าย
Formolo’s Attack
ด้านหน้ากลุ่ม ดาวิเด้ ฟอร์โมโล่ นักปั่นอิตาเลียนวัย 21 ปี ออกกระชากหนีกลุ่มเบรคอเวย์ก่อนขึ้นเขา Biassa ดูก็รู้ว่าฟอร์โมโล่ยังแรงดีที่สุดในกลุ่ม มีแค่ Movistar และ BMC ที่ออกไล่ตาม ด้านหลังพอ peloton มาถึงเขา Biassa ฟาบิโอ้ อารู ออกยิงกลุ่มทันที แต่พอร์ท และคอนทาดอร์ตามปิดได้ทัน ทั้งสามคนหนีจากกลุ่ม peloton ไปเชื่อมกับกลุ่มเบรคอเวย์ที่ฟอร์โมโล่ทิ้งห่าง แต่ในกลุ่มนั้น อารูและพอร์ทมีเพื่อนร่วมทีมคอยอยู่ ส่วนฟอร์โมโล่หนีไปได้ประมาณ 45 วินาที
แล้ว GreenEdge ทำยังไงเมื่อแมธธิวส์จะเสื้อหลุดแน่ๆ? ในเบรคอเวย์ OGE มีนักปั่นสองคนคือเอสตาบาน ชาเวซและไซมอน คลาร์ค ทั้งคู่อยู่ในอันดับ Top 10 GC และถ้าเข้าเส้นชัยได้พร้อมกลุ่มนี้ ไม่คนใดก็คนหนึ่งจะรับเสื้อชมพูต่อจากแมธธิวส์ จริงๆ คลาร์คหลุดกลุ่มเบรคอเวย์ไปพักหนึ่ง และพยายามไล่กลับเข้ากลุ่มแบบสุดชีวิต ด้านหน้า ฟอร์โมโล่โซโล่เข้าเส้นชัย คว้าแชมป์สเตจในแกรนด์ทัวร์ครั้งแรกในชีวิต ส่วนคลาร์คที่กลับเข้ากลุ่มเบรคอเวย์ได้ทัน ขึ้นแซงทุกคนเพื่อคว้าอันดับสอง ป้องกันเสื้อชมพูให้ทีมได้สำเร็จ
เกิดอะไรขึ้นในสเตจนี้!?
อันดับแรก ลองดูเวลาม้ามืดและตัวเต็งบางคนครับ…. อูราน (EQS) และแวนเดนโบรค (Lotto) หลุดกลุ่มตัวเต็ง เสียเวลาไป +42 วินาที ในขณะที่ม้ามืดอย่าง เนียมิช (Lampre) เสียไป +2:56, ไออน อิซาเกอร์เร (Movistar) +4:22, เฮซเชดาล (Cannondale) +5:25, อิงชอสตี้ (Movistar) +9:21, อิกอร์ แอนตั้น (Movistar) +13:15, คาร์ลอส เบทันเคอร์ (AG2R) +13:15 และอิลเนอร์ ซาคาริน (Katusha) +17:23 นั่นคือม้ามืดแทบทุกคนโดนหวดจนหมดสิทธิท้าชิงอันดับโพเดี้ยมแล้ว ยกเว้น อูรานที่ยังพอมีหวัง เพราะยังถือว่าเสียเวลาไม่เยอะ แต่ดูอย่างเฮซเชดาล เสียไปห้านาที AG2R ยิ่งหนักเพราะเสียเอซของทีม พอซโซวิโว่จากอุบัติเหตุ และเบทันเคอร์ตอนนี้ก็ตามเป็นสิบนาทีแล้ว Movistar ก็หมดไพ่เลยเหมือนกัน ทีมเล็กโดนทีมใหญ่ (โดยเฉพาะ Astana) ลงดาบตายเกลี้ยง
ที่น่าแปลกใจที่สุดก็คือกลยุทธ์ของทีมใหญ่ – Sky, Astana และ Tinkoff ในสเตจนี้ครับ Astana และ Sky ทำไมปล่อยให้ครอยซิเกอร์หนีไปได้เป็นสิบนาทีก่อนจะเริ่มลงมือไล่จับ? Sky นี่ไม่ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ ถือเป็นความเสี่ยงมหาศาล ถ้าไม่ได้ Astana ช่วยไล่นี่อาจจะมีพลิกล็อกครับ อย่างไรก็ดี เห็นได้ชัดว่า Astana มีทีมช่วยอารูที่แข็งที่สุดในงานแข่ง แม้แต่ Tinkoff ก็เอาไม่อยู่จนคอนทาดอร์ไม่เหลือผู้ช่วยทั้งๆ ที่ไม่ใช่สเตจภูเขาด้วยซ้ำ ส่วน Sky ที่ไม่ออกชงเกมอาจจะเป็นได้ว่าทีมไม่ได้แข็งพอที่จะคุมการแข่งขันเหมือนสนามก่อนๆ หรือไม่ก็เก็บแรงไว้ใช้ในวันที่สำคัญจะดีกว่า อย่าลืมว่านี่แค่วันที่ 4 ของการแข่ง เรายังไม่เจอสเตจภูเขาสูงชันจริงๆ จังเลยสักครั้งเดียว คำถามคือ Astana และ Tinkoff จะต้องจ่ายดอกเบี้ยในสัปดาห์สุดท้ายหรือเปล่าที่เร่งรีบเดินเกมรุกหนักตั้งแต่อาทิตย์แรก? ผมว่า Sky เดินหมากได้ดีกว่าเพื่อน และพอร์ทเองก็ดูจะมั่นใจกับฟอร์ม ไม่สะทกสะท้านอะไรเท่าไร
ที่แน่ๆ ตอนนี้ อารู พอร์ท คอนทาดอร์คงเป็นสามคนที่ติดโพเดี้ยม (ถ้าไม่มีอุบัติเหตุหรือวันแย่ๆ สำหรับใครคนหนึ่ง) ฟอร์มสามคนนี้เหนือกว่าหัวหน้าทีมอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด แม้แต่ผู้ช่วยอารูนี่ยังดูแรงกว่าอูรานเสียอีก! ถ้าเกมการแข่งมันเดือดแบบนี้ทุกวัน รับรองว่าจิโรปีนี้จะสนุกอย่างที่คุณไม่เคยดูมาก่อนแน่นอนครับ
ผลการแข่งขัน
วิดีโอไฮไลท์
Cyclingnews Highlight 4 นาที
Full Stage Replay 3 ชั่วโมง
Gallery
Photo Credit: RCS Sport/ Giro Official
***