วินาทีแห่งชัยชนะ: 2015 Amstel Gold Race

มิฮาล เควียทคอฟสกี (Etixx-Quickstep) แชมป์โลกจักรยานถนน สปรินต์คว้าแชมป์รายการ Amstel Gold Race ครั้งที่ 50 เอาชนะไมเคิล แมธธิวส์ (GreenEdge) และอเลฮานโดร วาวเวอเด้ (Movistar) ท่ามกลางกลุ่มตัวเต็งนับสิบคน เขาทำได้ยังไง และชัยชนะครั้งนี้มีความหมายอะไรต่อเควียทคอฟสกีและทีม Quickstep? DT

สนาม Ardennes รายการแรก

Amstel Gold  (4 of 6)

ในบรรดาสนามคลาสสิค เราจะแบ่งออกเป็นสองประเภท นั่นคือ Cobbled Classics (Flemish) หรือสนามแข่งวันเดียวที่มีอุปสรรคสำคัญเป็นช่วงถนนหินและส่วนมากแข่งในเบลเยี่ยม ก็เช่น Omloop, Tour of Flanders, Ghent-Wevelgem, E3 Harelbeke ตบท้ายด้วย Paris-Roubaix

สนามคลาสสิคอีกประเภทเราเรียกว่า Ardennes Classics ครับ ซึ่งเป็นสนามแข่งวันเดียวเก่าแก่เหมือนกัน มีทั้งหมด 3 รายการ คือ Amstel Gold Race, La Fleche Wallonne, และ Liege-Bastonge-Liege ทั้งสามรายการแข่งอยู่ในประเทศเบลเยี่ยมติดๆ กับป่าอาร์เดนส์ ซึ่งทำให้เหมาะกับตัวเต็งอีกประเภทหนึ่ง อุปสรรคสำคัญไม่ใช่ถนนหินเหมือนใน Cobbled Classics แต่เป็นเนินเขาชันหลายสิบลูกต่อๆ กันในวันเดียว

Stage-1427962350
2015 Amstel Gold Profile

รายการ Ardennes จะเอื้อให้นักปั่นสไตล์ “Puncheur” หรือเรียกง่ายๆ ว่านักปั่นที่ถนัดการเร่งขึ้นเนินสั้นๆ ด้วยความเร็วสูง เช่น ฟิลลิป จิลแบร์ (BMC), อเลฮานโดร วาวเวอเด้ (Movistar), ไซมอน เจอร์รานส์ (GreenEdge), แดน มาร์ติน (Cannondale-Garmin) รวมถึงนักไต่เขาและนักปั่น GC บางคนเช่น แฟรงก์ ชเล็ค (Trek), และวินเชนโซ นิบาลิ (Astana) เป็นต้น

2015 Amstel Gold Race

Amstel Gold ปีนี้ดุเดือดที่ช่วง 10 กิโลเมตรสุดท้าย แต่ช่วงแรกที่กลุ่มเบรคอเวย์เริ่มทำงานก็ถือว่าเป็นจุดสำคัญที่ชงรูปเกมให้จบอย่างที่เราเห็นผลเช่นกัน โทนี มาร์ติน, วินเชนโซ นิบาลิ, ไซมอน คลาร์ค และเดวิด แทนเนอร์เริ่มเปิดเกมหนีกลุ่ม แต่โดนทีมตัวเต็งแชมป์เก่าปีที่แล้วอย่าง BMC ช่วยกันไล่จับได้ที่ 16 กิโลเมตรสุดท้าย ไซมอน คลาร์ค (GreenEdge) ยอดนักหลบหนีไม่ยอม กระตุกห่างจากกลุ่มอีกครั้ง BMC ไล่เก็บคลาร์คจนได้ แต่คราวนี้เป็นยาค็อบ ฟูลก์แซง (Astana) ที่ออกชงเกมให้เอซของทีมบ้าง BMC ส่งแวน เอเวอร์มาร์ตไล่ประกบ

Amstel Gold  (1 of 6)

การออกตามฟูลก์แซงของ GVA ไม่ใช่เพื่อพยายามหนีเก็บแชมป์เหมือนในสนามคลาสสิคเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่เป็นการรวบตัวอันตรายเพื่อที่จะให้ฟิลลิป จิลแบร์ หัวหน้าทีมได้ออกโจมตีกลุ่มบนเนินสำคัญ Cauberg ที่ 2 กิโลเมตรหน้าเส้นชัย

ที่ตีนเนิน Cauberg, BMC ใช้แทคติคเดียวกับปีที่แล้ว ส่งเบ็น เฮอร์แมนส์ ออกยิงทีมคู่แข่ง (ปีที่แล้วใช้ซามูเอล ซานเชซ) ซึ่งบังคับให้ตัวเต็งทีมอื่นต้องไล่ตาม ถึงกลางเนิน จิลแบร์ ออกกกระแทกซ้ำ จังหวะนี้ถือว่าเป็น Winning Move ท่าไม้ตายของเขาเลยก็ว่าได้เพราะเป็นการโจมตีที่ทำให้เขาได้แชมป์รายการนี้สองครั้ง และแชมป์โลกเสือหมอบหนึ่งครั้ง (ปีที่จิลแบร์ชนะแชมป์โลก เส้นชัยอยู่หลังเนิน Cauberg)

Amstel Gold  (2 of 6)
Amstel Gold  (3 of 6)

แต่คราวนี้จิลแบร์หนีไม่สำเร็จ เมื่อไมเคิล แมธธิวส์ (GreenEdge) ไล่ตามไม่ปล่อยให้ห่างแม้แต่ครึ่งล้อ การโจมตีของแมธธิวส์ถือว่าเด็ดขาด แต่ก็เป็นยาพิษที่ฆ่าเขาทีหลังเช่นกัน ถึงยอดเนิน Cauberg ทั้งจิลแบร์และแมธธิวส์เริ่มหมดแรง คู่แข่งทีมอื่นไล่ขึ้นมารวบ โดยเฉพาะมิฮาล เควียทคอฟสกี (EQS) และวาเวอเด้ (Movistar) ที่ตามดูเชิงขึ้นมาตั้งแต่ทางขึ้นเนิน เควียทคอฟสกีลากทีมอื่นขึ้นมาอีกกว่าสิบคน วาวเวอเด้ไล่จับจิลแบร์ก่อนถึงเส้นชัย และทั้งหมดรวมกลุ่มมาตัดสินกันด้วยการสปรินต์ และเป็นเควียทคอฟสกีที่เร็วกว่าทุกคน คว้าแชมป์สนาม Ardennes ครั้งแรก แก้มือให้ทีม Quickstep ที่ไม่มีผลงานในช่วงฤดูกาลคลาสสิคเลย

ผลงานแรกของแชมป์โลก

สำหรับเควียทคอฟสกี ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในฐานะแชมป์โลกจักรยานถนน ซึ่งเป็นเรื่องดีครับ เพราะถ้าใครสังเกตนักปั่นที่เป็นแชมป์โลกชนะน้อยมากในปีที่ผ่านมา ทั้งจิลแบร์เอง และรูย คอสต้าที่แทบไม่มีผลงานเลยในฤดูกาลที่แล้ว

ที่ผ่านมาเควียทคอฟสกีเคยติด Top 5 ในสนาม Ardennes สองครั้ง ความรอบด้านของเขาที่ขึ้นเนินสั้นๆ ได้ดีและมีลูกสปรินต์น่าจะทำให้เขาเป็นตัวเต็งใน Fleche Wallone และ Liege ที่จะแข่งกันในสัปดาห์นี้ ส่วนทางทีม Quickstep เองก็น่าจะมีกำลังใจดีเพราะเป็นชัยชนะสนามคลาสสิครายการแรกของฤดูกาลหลังจากที่พ่ายใน Cobbled Classics มาแทบทุกสนาม

เควียทคอฟสกีเป็นนักปั่นอีกคนที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย (ปีนี้เขาอายุ 25) แต่ผมคิดว่า Quickstep ปั้นเขาได้ดีและไม่สร้างแรงกดดันมากเกินไปเหมือนที่ปีเตอร์ ซากานกำลังประสบอยู่ในทีม Tinkoff-Saxo ตอนนี้ แผนของ Quickstep คือค่อยๆ ให้เเควียทคอฟสกีลองแข่งทุกๆ รูปแบบตั้งแต่ Classics ไปจนถึงสเตจเรซและแกรนด์ทัวร์ ความสามารถรอบด้านของเขาทำให้เขาเป็นนักปั่นที่ทำได้ทุกหน้าที่ในทีม ทำให้น่าจับตามองว่าในอีก 2-3 ปีเขาจะกลายมาเป็นนักปั่นที่เชี่ยวชาญสนามประเภทไหน?

Amstel Gold  (6 of 6)สำหรับคนอื่นๆ เราเริ่มเห็นฟอร์มของตัวเต็ง GC เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น นิบาลิและวาวเวอเด้ชอบสนามอาร์เดนส์มาแต่ไหนแต่ไร แต่สงสัยว่าเนินยังไม่ชันพอสำหรับวาวเวอเด้ แฟนๆ Movistar คงต้องรอดู Fleche Wallone วันพุธนี้ที่เขาจะป้องกันแชมป์ ซึ่งเนินตรงเส้นชัยนั้นชันกว่า Cauberg​ มาก

BMC ปั่นได้ aggressive ดุดันเหมือนเดิม ส่งทั้งเบรคอเวย์ตัวแรง ทั้งไล่จับตัวเต็งทีมคู่แข่ง และเปิดเกมบนทางขึ้นเนินลูกตัดสิน แต่ไฟและฟอร์มของจิลแบร์อาจจะไม่เด็ดขาดเหมือนในปีก่อนๆ แล้ว โดยเฉพาะเมื่อเจอดาวรุ่งสไตล์เดียวกับเขาอย่างแมธธิวส์และเควียทคอฟสกี?

Team Sky มีการบ้านเพิ่มอีกหนึ่งอย่าง เพราะ Ardennes Classics ยังเป็นรายการที่ทีมไม่มีผลงานเลย และแทบไม่มีบทบาทในการแข่งเมื่อคืนนี้  โทนี กาโลแพน (Lotto-Soudal) และรูย คอสต้า (Lampre) ยังคงฟอร์มดี ติด Top 10 ทั้งคู่แต่ต้องดูว่าจะพัฒนาผลงานได้หรือเปล่าในสนามต่อไป

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *