Paris-Nice 2017: เฮนาวคว้าแชมป์รายการ, เฉือนคอนทาดอร์ 2 วินาที

Stage 8

กฏอย่างไม่เป็นทางการข้อหนึ่งของรายการ Paris-Nice คือมันมักจะจบด้วยเวลาที่เฉียดฉิวระหว่างอันดับหนึ่งและสองทุกปีครับ

และปีนี้ก็เป็นอีกปีที่ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เมื่อเซอร์จิโอ้ เฮนาว (Sky) เอาชนะอัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (Trek-Segafredo) ด้วยเวลารวมที่ห่างกันเพียงสองวินาที

สเตจ 8 วันสุดท้ายของการแข่งขันเมื่อคืนนี้เป็นอีกหนึ่งสเตจภูเขาสูงชันที่นักปั่นต้องผ่านอุปสรรคสุดท้ายของวันคือภูเขา Col d’Eze แต่เกมเดือดขึ้นเมื่อคอนทาดอร์ตัดสินใจฉีกกลุ่มบนเนิน Cote de Pelille ที่อยู่ห่างเส้นชัยไปร่วม 50 กิโลเมตร

ถึงจะเป็นการโจมตีที่เด็ดขาด แต่คู่แข่งเบอร์หนึ่งและสอง – แดน มาร์ติน (Quickstep Floors) และเซอร์จิโอ้ เฮนาว (Sky) ก็ตามมาอย่างรวดเร็ว คอนทาดอร์กระแทกหนีอีกครั้งและครั้งที่สองเขาหนีสำเร็จ เฮนาวต้องกลับไปรวมกลุ่มกับตัวเต็ง GC Top 10 ที่เหลือเกือบทุกคนในรายการเพื่อไล่ตามในขณะที่เพื่อนร่วมทีม Sky เริ่มแรงตกไปทีละคนสองคน

คอนทาดอร์ต้องการเวลา +32 วินาทีเพื่อชนะเฮนาว เขาหนีไปจับเบรคอเวย์สุดท้ายของวันที่มีเดวิด เดอ ลาครูซ (Quickstep Floors) และมาร์ค โซเลอร์ (Movistar) ถึงตีนเขาลูกสุดท้าย Col d’Eze คอนทาดอร์เริ่มนำกลุ่มของเฮนาวได้ร่วมนาทีเต็ม แต่กลุ่มหนีก็ไม่มีใครยอมใคร – คอนทาดอร์ต้องการ time bonus 10 วินาทีเพื่อสร้างระยะห่างระหว่างเขากับเฮนาวให้ได้มากที่สุด แต่เดอลาครูซและโซเลอร์ก็ต้องการแชมป์สเตจ

โซเลอร์โจมตีกลุ่มหนีบนยอดเขา Col d’Eze แต่ในกลุ่มของเฮนาวก็ความเร็วไล่คอนทาดอร์ขึ้นสูงเรื่อยๆ เมื่อริชีย์ พอร์ท (BMC), แดน มาร์ติน, และจูเลียน อลาฟิลลิป (Quickstep Floors) ผลัดกันโจมตีกลุ่ม เฮนาวต้องปิดการโจมตีของคู่แข่งด้วยตัวเอง

ด้านหน้าคอนทาดอร์ไล่จับโซเลอร์กลับเข้ากลุ่มลากเอา เดอลาครูซมาด้วย ส่วนเฮนาวได้แรงจากทีม Bahrain-Merida ขึ้นช่วยทำความเร็วไล่ ระยะห่างระหว่างสองกลุ่มแขวนอยู่ที่ราวๆ 30 วินาที ซึ่งไม่มากพอจะให้คอนทาดอร์ได้แชมป์รายการถ้าเขาไม่ได้แชมป์สเตจ

แต่ถึงตีนเขา Col d’Eze และเป็นทางราบก่อนเข้าเมือง Nice เส้นชัยประจำวัน คอนทาดอร์อยู่ในสถานการณ์ในฝันเมื่อเพื่อนร่วมเบรคอเวย์หลุดกลุ่มไปทั้งสองคน แต่ก็ฝันสลายในเวลาไม่กี่นาทีต่อมาเมื่อเดอลาครูซค่อยๆ ไล่ตามเขากลับมาและขึ้นแซงสปรินต์ที่หน้าเส้นชัย คว้าแชมป์สเตจให้ Quickstep ได้สำเร็จ คอนทาดอร์เข้าเป็นอันดับสองและเริ่มนับถอยหลัง

โซเลอร์เข้าเป็นอันดับ 3 ที่ +5 วินาที, ซันนี โคลเบรลลี (Bahrain-Merida) เป็นคนแรกของกลุ่มเฮนาวที่เข้าเส้นชัยที่ +21 วินาที กรรมการเริ่มนับเวลา คอนทาดอร์สีหน้าเครียดอยู่หน้าเส้นชัย แต่ผลออกมาเข้าข้าง Sky เมื่อเฮนาวได้เวลารวมดีกว่าคอนทาดอร์  2 วินาที และเป็นแชมป์รายการ Paris-Nice ครั้งที่ 5 ของทีม Sky ในรอบ 6 ปี

ในปี 2016 คอนทาดอร์ก็พ่ายให้กับเกอเรนท์ โทมัส (Sky) เพียง +4 วินาที

คอนทาดอร์: “ครึ่งนึงผมก็ดีใจมากครับ เพราะจะโจมตีแบบนั้นได้ต้องฟอร์มดีพอสมควร ทุกคนรู้ว่าผมจะโจมตีกลุ่ม ทีมผมช่วยตั้งความเร็วแต่มันก็ยากที่จะหนีคนเดียวให้รอด อีกครึ่งก็น่าเสียใจเพราะผมพ่ายเพียง 2 วินาที เป็นที่สองของรายการนี้สองปีติดกัน ผมก็อยากชนะครับแต่มันก็คือกีฬาน่ะนะ”

เดอลาครูซ: “ตอนผมเห็นคอนทาดอร์ตามมา ผมรู้ว่าต้องเกาะเขาให้ได้เพราะเขาจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะถึงเส้นชัย  ผมแทบหมดแรงครับแต่ก็ยังตามเขาได้ พอผมรู้ว่ากลุ่มหลังไล่เราไม่เข้าแล้วผมเลยหาทางชนะเขาที่เส้นชัย”

เฮนาว: “นี่เป็นชัยชนะที่ใหญ่ที่สุดของผม แล้วการชนะที่วินาทีสุดท้ายนี่มันเหลือเชื่อครับ มันยากมาก ผมเจ็บจนนาทีสุดท้าย แต่ก็รู้ว่าต้องทน และต้องทำ”​

DT วิเคราะห์: แชมป์ที่ 5 ของ Sky ใน Paris-Nice ด้วยนักปั่นที่ไม่ซ้ำกันเลย 4 คน (!!) ถึงการโจมตีระยะไกลของคอนทาดอร์จะทำให้เราเสียวไส้กันจนวินาทีสุดท้าย แต่ต้องยอมรับในความสามารถของเฮนาวครับ เขาตามกลุ่มหน้าได้ในทุกการโจมตีของรายการนี้ ทั้งสเตจทางราบที่เจอลมข้าง และทุกภูเขาที่ไม่ได้ยาวนัก

คอนทาดอร์ปีนเขายาวได้ดีกว่าเฮนาว แต่ในสเตจ 6 เฮนาวทำเวลาแซงคอนทาดอร์ได้ 21 วินาทีจากการขึ้นเขาสั้นๆ และนี่คงเป็นรายการสุดท้ายที่เขาได้ขึ้นนำทีม Sky เพราะต่อไปก็ต้องรับหน้าที่ช่วยเหลือคริส ฟรูมใน Tour de France และรายการสเตจเรซอื่นๆ ในยุโรป

สำหรับคอนทาดอร์นั้นยังแข่งได้เร้าใจให้เราใจเต้นได้เสมอ ถึงแม้จะเสียเวลาไปร่วมนาทีกว่าตั้งแต่สเตจแรก แต่ก็ไล่เก็บมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะในสเตจ Time Trial ที่เขาทำเวลาได้ดีเป็นอันดับสองและโจมตีกลุ่มต่อเนื่องแทบทุกวันจนไล่กลับมาเกือบจะพลิกเป็นแชมป์รายการ

 

Stage 7 พอร์ทรวบแชมป์ควีนสเตจ, เฮนาวเก็บเสื้อเหลือง

ไม่ใช่ Paris-Nice ที่ดีที่สุดสำหรับริชีย์ พอร์ท (BMC Racing) เมื่อเขาเสียเวลารวมให้คู่แข่งไปหลายนาทีตั้งแต่สองวันแรกของการแข่งขัน แต่ด้วยดีกรีแชมป์เก่าสองสมัย เมื่อคืนนี้พอร์ทโชว์ฟอร์มการไต่เขาที่สยบคู่แข่งได้ทุกราย ออกหนีกลุ่มที่ทางขึ้นเขาที่โหดที่สุดของรายการในช่วงสามกิโลเมตรสุดท้าย คว้าแชมป์สเตจก่อนอันดับสอง +21 วินาที ในขณะที่เซอร์จิโอ้ เฮนาว (Sky) ขึ้นเป็นผู้นำเวลารวมคนใหม่

อุปสรรคที่ยากที่สุดในสเตจเมื่อคืนนี้คือเขา Col de la Couilloe ความสูง 1,688 เมตร และเป็นจุดที่สูงที่สุดของรายการ Paris-Nice ครับ

จูเลียน อลาฟิลลิป (Quickstep Floors) ผู้นำเวลารวมจากสเตจ 6 หลุดกลุ่มตั้งแต่ตีนเขาและเข้าเส้นชัยหลังผู้ชนะร่วมสองนาทีครึ่ง แต่ ข้างหลังการโจมตีของริชีย์ พอร์ท เป็นอัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (Trek-Segafredo) ที่พยายามไล่ทำเวลาตีตื้น และเข้าเส้นชัยตามาเป็นอันดับสอง ที่ +21 วินาที

ด้านหลัง แดน มาร์ติน (Quickstep Floors) ออกตามคอนทาดอร์มาคู่กับเฮนาว มาร์ตินเข้าเป็นอันดับสาม และเฮนาวอันดับสี่ แต่เฮนาวพลิกกลับขึ้นมานำเวลารวม นำมาร์ตินที่ +30 วินาที และนำคอนทาดอร์ +31 วินาที

สเตจสุดท้ายวันนี้เป็นสเตจภูเขาที่ประกอบด้วยเขาชัน 5 ลูก แต่เป็นทางลงเขาไปถึงเส้นชัย

“วันนี้ก็ไม่แย่ครับ ต้องรอดูว่าสเตจสุดท้ายเป็นยังไง ผมว่าน่าจะยาก โดยเฉพาะ แดน มาร์ตินที่เป็นตัวอันตราย ลองดูอย่างวันนี้ที่เขาค่อยๆ ไล่กลับขึ้นมาหน้ากลุ่มสิ ทีมเขายังมีอลาฟิลลิป และคอนทาดอร์ก็ไม่ใช่คนที่จะประมาทได้เลย”​ – เอซทีม Sky กล่าว

Stage 6

ถึงจะเสียเวลารวมไปตั้งแต่สเตจแรก แต่ไซมอน เยทส์ (Orica-Scott) ก็ทำผลงานให้ทีมได้สำเร็จ ด้วยการเบรคอเวย์หนีกลุ่มระหว่างทางขึ้นเขาก่อนถึงเส้นชัย คว้าแชมป์สเตจก่อนหน้าอันดับสอง เซอร์จิโอ้ เฮนาว (Sky) ถึง 17 วินาที  ริชีย์ พอร์ท (BMC) คว้าอันดับสามที่ +26 วินาที

เบรคอเวย์ใน สเตจ 6 เหลือเพียงสองคนจาก BMC และ Fortuneo-Vital Concept ถึงระยะ 25 กิโลเมตรสุดท้ายก่อนเส้นชัย ทั้งคู่มีเวลานำกลุ่มแค่ราว 30 วินาที และเป็นทีม Sky ที่ขึ้นตั้งความเร็วกลุ่มเปโลตอง รวบจับกลุ่มหนีได้ที่ 21 กิโลเมตรสุดท้าย

ถึง 18 กิโลเมตรสุดท้าย ไซมอน เยทส์ (Orica-Scott) ออกหนีกลุ่มและทำระยะห่างได้ถึง 45 วินาที ด้านหลังริชีย์ พอร์ท (BMC) ที่เวลารวมหมดหวังลุ้นแชมป์แล้วก็ออกโจมตีเช่นกัน ตามมาด้วยผู้นำเวลารวมจูเลียน อลาฟิลลิป (Quickstep Floors) ที่พยายามรักษาเสื้อเหลือง

แต่อลาฟิลลิปตามได้ไม่นานเมื่อพอร์ทออกเร่งหนีอีกครั้ง เป็นเซอร์จิโอ้ เฮนาวที่ขึ้นจับพอร์ทและออกแซงทิ้งห่าง แต่ก็ยังไม่เร็วพอจะจับเยทส์ที่หนีออกไปก่อน ทำได้เพียงอันดับสองของสเตจ

ด้านหลัง แดน มาร์ตินขึ้นมาช่วยอลาฟิลลิปลากเข้าเส้นชัย เซฟเสื้อเหลืองไว้ได้อีกหนึ่งวัน

อลาฟิลลิปยังคงมีเวลารวมนำอันดับสอง (โทนี กาโลแพน Lotto-FIXALL) +36 วินาที, นำอันดับสามเฮนาวที่ +46 วินาที

Stage 5: ไกรเปิลออกโรง

อังเดร ไกรเปิล (Lotto Fixall) ยังคงฟอร์มสปรินเตอร์หัวแถว คว้าแชมป์สเตจ 5 ในสนาม Paris-Nice เมื่อคืนนี้ เขาสปรินต์ชนะอานอร์ด เดอแมค์ (FDJ) และดีแลน โกรนเวเกน (LottoNL-Jumbo) กับการสปรินต์ทวนลมในสเตจระยะทาง 200 กิโลเมตรเมื่อคืนนี้

ด้วยเส้นทางที่เป็นทางราบตลอดทั้งสเตจ ไม่ใช่เรื่องง่าที่เบรคอเวย์จะหนีกลุ่มไปได้ กลุ่มหนีเริ่มถูกจับตั้งแต่ 45 กิโลเมตรสุดท้ายก่อนถึงเส้นชัยด้วยลีดเอาท์ของ Katusha-Alpecin และ FDJ คนสุดท้ายโดนรวบที่ 12 กิโลเมตรหน้าเส้นชัย

ที่ปลายสเตจ เดอแมค์ (FDJ) ฉีกตัวสปรินต์เป็นคนแรก และไกรเปิลยิงทงขึ้นมาจากด้านหลังได้จังหวะดีกว่า โกรนเวเก็น แชมป์เสือหมอบเนเธอร์แลนด์ปิดโพเดี้ยมเป็นอันดับสาม

สเตจ 6 วันนี้เป็นสเตจภูเขาสูงชัน นักปั่นต้องเจอภูเขาถึง 6 ช่วงในระยะ 80 กิโลเมตรสุดท้ายของสเตจซึ่งน่าจะมีผลต่ออันดับเวลารวมมากทีเดียวครับ

Stage 4: คอนทาดอร์พ่ายม้ามืด Quickstep

ใครจะรู้ว่าเด็กใหม่ไฟแรงอย่างจูเลียน อลาฟิลลิป (Quickstep Floors) จะโชว์ฟอร์มการไต่เขาได้ดีกว่านักปั่นตัวเต็ง GC คนอื่นๆ เลยเป็นที่แปลกใจเล็กน้อยเมื่ออลาฟิลลิปคว้าแชมป์สเตจ 4 กับการแข่ง Time Trial ขึ้นเขาเมื่อวานนี้ ทำเวลาดีกว่าอันดับสองของสเตจ อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (Trek-Segafredo) +19 วินาที และอันดับสาม โทนี กาโลแพน (Lotto Fixall) +20 วินาทีครับ

อลาฟิลลิปลงแข่งในฐานะตัวอิสระของทีมที่จะเล่นตำแหน่งไหนก็ได้ และเขาเป็นหนึ่งในเบรคอเวย์ในสเตจแรกที่หนีตัวเต็ง GC จากทีมอื่นจนทำเวลารวมนำได้พอสมควร เขาต่อยอดด้วยการคว้าแชมป์สเตจ 4 ปลดเสื้อเหลืองจากอานอร์ด เดอแมค์ (FDJ) กลายเป็นผู้นำเวลารวมคนใหม่

อลาฟิลลิป นำกาโลแพน +33 วินาที และนำกอร์ค่า อิซาร์เกอเร (Movistar) +47 วินาที

แดน มาร์ติน เพื่อนร่วมทีม Quickstep อยู่อันดับ 5 ที่ +1:20 นาที, คอนทาดอร์อันดับ 8 ที่ +1:31 นาที ตามหลังซาคาริน (Katusha-Alpecin) ที่อยู่อันดับ 7 ที่เวลา + 1:28 นาที

Stage 3: Breakthrough ของแซม เบ็นเน็ต

ไม่บ่อยที่เราจะได้เห็นสปรินเตอร์เบอร์รองจากทีมใหม่ๆ ทำผลงานแซงหน้าขาแรงรุ่นพี่ครับ แต่เมื่อคืนนี้ใน Paris-Nice สปรินเตอร์ชาวไอริช แซม เบ็นเน็ต (Bora-Hansgrohe) ที่เพิ่งจะขึ้นมาจากดิวิชัน 2 กลับพลิกเกม สปรินต์แซงเอซสปรินเตอร์ชื่อดังทุกคน คว้าแชมป์สเตจ 3 ไปครอง – อเล็กซานเดอร์ คริสทอฟ (Katusha-Alpecin) ตามเป็นที่สองและมาร์เซล คิทเทล (Quickstep Floors) คว้าอันดับสาม

เบรคอเวย์สเตจนี้เริ่มด้วยปิแอร์ ลาทัวร์ (AG2R) และเบ็น คิง (Dimension Data) และนักปั่นจากทีมท้องถิ่นอีกหนึ่งคน แต่ด้วยสภาพเส้นทางที่เป็นทางราบเกือบทั้งหมด เปโลตองไม่ยอมปล่อยกลุ่มหนีหลุดง่ายๆ และไล่จับได้ทันในช่วงกิโลเมตรสุดท้ายพอดี ลีดเอาท์เทรนนำโดย Quickstep Floors ตามด้วย Katusha-Alpecin แต่เป็นเบ็นเน็ต นักปั่นจาก Bora-Hansgrohe ที่เซอร์ไพรส์ทุกคน ขึ้นแซงทั้งคิทเทลและคริสทอฟทิ้งระยะเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก

เป็นแชมป์ในสนามระดับ WorldTour เป็นครั้งแรกของเบ็นเน็ต ปีนี้เขาฟอร์มค่อนข้างดีตั้งแต่เริ่มฤดูกาล สปรินต์ได้อันดับ 3 ใน Tour Down Under เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา

Stage 2: แชมป์แรกของ Bahrain-Merida

สเตจ 2 ใน Paris-Nice ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่สภาพอากาศไม่อำนวยครับ ด้วยอุณหภูมิ 1 องศาเซลเซียสและฝนที่ตกกระหน่ำตลอดการแข่งขัน ซึ่งถึงแม้เส้นทางจะเป็นทางราบเรียบแต่เกมก็ไม่ได้จบด้วยการสปรินต์กลุ่ม กลับเป็นเปโลตองกลุ่มเล็กที่แย่งชิงแชมป์สเตจกัน เป็นซันนี โคลเบรลลี (Bahrain-Merida) ที่สปรินต์ชนะจอห์น เดเกนโคลบ์ (Trek-Segafredo) – อันดับสามเป็นอานอร์ด เดอแมค์ (FDJ) แชมป์สเตจเมื่อวาน

นอกจากฝนแล้วกระแสลมยังแรงตั้งแต่กิโลเมตรแรกจนกลุ่มเปโลตองแตกย่อยเป็น echelon หลายกลุ่ม ช่วงสุดท้ายของการแข่งขัน ฟิลลิป จิลแบร์ (Quickstep Floors) ออกหนีเดี่ยวเมื่อกลุ่มเบรคของเขาใกล้จะโดนจับได้ เข้าสู่  8 กิโลเมตรสุดท้าย จิลแบร์มีเวลานำกลุ่มเพียง 25 วินาที แต่สุดท้ายก็ต้องยอมมอบตัวกลับเข้ากลุ่มไป

อเล็กซี่ ลุทเซ็งโก (Astana) เปิดเกมหนีที่ 4.3 กิโลเมตรสุดท้าย แต่ทีม Sky และ Quickstep ขึ้นไล่รวบอย่างรวดเร็ว มีการโจมตีจากกลุ่มอีกเล็กน้อย แต่ไม่มีใครหนีได้สำเร็จ เข้าสู่กิโลเมตรสุดท้าย ลีดเอาท์เทรนของสปรินเตอร์แต่ละทีมทำงานจนหมดสภาพ กลายเป็นการสปรินต์แบบตัวใครตัวมัน ซึ่งคนแรกที่เปิดสปรินต์ – โคลเบรลลี จาก Bahrain-Merida กลับเป็นคนที่แรงดีที่สุดในกลุ่ม ทิ้งระยะห่างคู่แข่งคนอื่นไม่มีใครขึ้นแซงเขาได้ และคว้าแชมป์สเตจไปในที่สุด

ผู้นำเวลารวมยังคงเป็นเดอแมค์ แต่ริชีย์ พอร์ท (BMC) กลับเสียเวลาเพิ่ม หลุดกลุ่มและตามเข้าเส้นชัยมาเกิน 15 นาทีหลังกลุ่มหน้า หมดโอกาสคว้าแชมป์รายการ

สเตจ 1: GC พลิกล็อค!

สเตจ 1 ใน Paris-Nice เมื่อคืนนี้เป็นวันที่ย่ำแย่สำหรับนักปั่นทีเดียวครับเมื่อสภาพฝนฟ้าอากาศไม่เป็นใจเอาเสียเลย จากสเตจที่ดูเหมือนจะจบด้วยการสปรินต์สนุกๆ ไม่มีผลต่ออันดับเวลารวมอะไร กลายเป็นสเตจที่พลิกชะตาตัวเต็งว่าที่แชมป์รายการกันไปหมด

แชมป์สเตจตกเป็นของอานอค์ด เดอแมร์ (FDJ) ที่สปรินต์เอาชนะจูเลียน อลาฟิลลิป (Quickstpe Floors) ด้วยการสปรินต์หน้าเส้น แต่ทั้งคู่ทำเกมหนีกลุ่มเบรคอเวย์ออกมาอีกทีหนึ่งก่อนถึงเส้นชัยสองกิโลเมตรเท่านั้น ขณะเดียวกันตัวเต็ง GC เสียเวลาแบบที่ไม่ควรจะเสียกันทุกคน มีแค่แดน มาร์ติน (Quickstep Floors) และเซอร์จิโอ้ เฮนาว (Team Sky) ที่ไม่เสียเวลาให้คู่แข่งเพราะหนีมาทันกลุ่มเบรคอเวย์ตัดสินของวัน

นอกจากฝนจะตกแล้ว สภาพลมเป็นตัวกำหนดรูปเกมวันนี้ ช่วงกลางสเตจเบรคอเวย์ชุดใหญ่ที่ประกอบด้วยนักปั่นคลาสสิคชื่อดังหลายคนและสปรินเตอร์ – อังเดร ไกรเปิล (Lotto-Soudal), มาร์เซล คิทเทล, แดน มาร์ติน, จูเลียน อลาฟิลลิป, ฟิลลิป จิลแบร์ (Quickstep Floors), เซอร์จิโอ้ เฮนาว (Sky), อเล็กซานเดอร์ คริสทอฟ (Katusha-Alpecin), อานอค์ด เดอแมร์ (FDJ) และนักปั่นทีมอื่นรวม 12 คนฉีกหนีกลุ่มเปโลตองออกมาได้

คนที่ถูกทิ้งไว้มี GC หลายคน ไม่ว่าจะเป็นอัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (Trek-Segafredo), ริชีย์ พอร์ท (BMC), ไซมอน เยทส์ (Orica-Scott), และโรเมน บาค์เดต์ (AG2R) บาเดต์นั้นล้มกลางกลุ่มและต้องพยายามไล่ตามกลับเข้าเปโลตอง แต่ด้วยการตามเกาะรถเซอร์วิสของทีมทำให้เขาถูกเชิญออกจากการแข่งขันหลังจบสเตจในที่สุด ส่วนกลุ่มไล่นั้นจับกลุ่มเบรคอเวย์ไม่ทัน เข้าเส้นชัยตามหลังร่วมนาทีเต็ม

ช่วงใกล้เส้นชัยบนเนินสุดท้าย จูเลียน อลาฟิลลิป กระแทกกลุ่มเบรคอเวย์หนีกะชิงแชมป์สเตจ มีแค่เดอแมร์ (FDJ) ที่ออกไล่ตาม แต่เมื่อไล่ตามประกบติดโอกาสแชมป์ของอลาฟิลลิปตกลงอย่างรวดเร็วเมื่อเดอแมค์เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสปรินเตอร์ขาแรงคนหนึ่งของเปโลตอง อลาฟิลลิปเปิดสปรินต์ก่อน แต่ก็พ่ายให้กับเดอแมค์ไปตามคาด

คนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากกลุ่มเบรคอเวย์ชุดนี้เป็นอันดับ 6 และ 9 ของวัน นั่นคือแดน มาร์ติน (Quickstep) และเซอร์จิโอ้ เฮนาว (Sky) ที่เป็นนักไต่เขาและตัวเต็ง GC ที่ทำเวลาได้ดีที่สุด ซึ่งเวลานำคู่แข่งของทั้งคู่ตอนนี้มีมากพอที่อาจจะชนะรายการได้เลย

เช่นนั้นแล้วอันดับ GC ตอนนี้ (เฉพาะนักปั่น GC) จะอยู่ประมาณนี้ครับ

  1. Alaphilippe
  2. Martin, at 0:15
  3. Henao, at 0:15
  4. Porte, at 0:53
    5. Bardet, at 0:53 
  5. Zakarin, at 0:53
  6. Contador, at 1:10
  7. Izagirre, at 1:10
  8. Yates, at 1:10
  9. Kruijswijk, at 2:34

Paris-Nice คือสนามอะไร ทำไมต้องติดตาม?

Paris-Nice หรือรู้จักกันในอีกชื่อว่า “Race to the Sun” เป็นหนึ่งในสเตจเรซในฝรั่วเศส (สนามแข่งหลายวัน) ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ด้วยอายุการแข่งขันถึง 74 ปีแล้ว และเป็นรายการสเตจเรซระดับ WorldTour ที่เป็นสนามสำคัญของนักปั่นหลายๆ คนครับ เป็นรายการที่ใช้ดูฟอร์มตัวเต็ง Giro d’Italia และ Tour de France แต่การชนะรายการนี้ก็มีเกียรติสูงมากเช่นกัน หลายคนที่ชนะรายการนี้มักจะทำผลงานได้ดีมาก หรือได้แชมป์ Tour de France ในปีเดียวกัน

เราเรียกรายการนี้ว่า mini-Tour de France เพราะจัดโดยผู้จัดเดียวกัน และมีรูปแบบการแข่งขันหลากหลาย ทั้งทางราบ ทางภูเขา และสเตจ Time Trial จับเวลา

Paris-Nice จะจัดในช่วงปลายฤดูหนาว ทำให้เกมการแข่งขันค่อนข้างจะมีสเน่ห์ตรงที่สภาพอากาศไม่เป็นใจเท่าไร นักปั่นจำพวกตัวเต็งสนามคลาสสิคก็เลยชอบมาลงแข่งด้วย (นอกเหนือจากตัวเต็ง GC) เพื่อใช้สร้างฟอร์มลงแข่งรายการคลาสสิคที่เริ่มกันเดือนมีนา-เมษายน

ดาราคับสนาม

รายการนี้ถูกยึดโดยทีม Sky มาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ยึดแชมป์รายการตั้งแต่ปี 2012 จนถึงปี 2016 ยกเว้นปี 2015 ที่คาร์ลอส เบทันเคอร์ (AG2R) ได้แชมป์คั่นไปหนึ่งปีครับ ตัวเต็ง GC ที่มาลงแข่งปีนี้มีหลายคนทีเดียว ริชีย์ พอร์ท (BMC) แชมป์สองสมัย, อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (Trek-Segafredo), โรเมน บาค์เดต์ (AG2R), เซอร์จิโอ้ เฮนาว, เวาท์ โพลส์ (Sky), ไซมอน เยทส์ (Orica-Scott), แดน มาร์ติน (Quickstep Floors)

สเตจสำคัญจะอยู่ที่สเตจ 4 Team Time Trial ระยะทาง 14.5 กิโลเมตร โดยเฉพาะสเตจ 5 6 7 8 ที่เป็นทางภูเขาสูงชันครับ

สปรินเตอร์ก็เยอะ

ไกรเปิล (Lotto-Soudal), อานอค์ด เดอแมร์ (FDJ), คิทเทล (Quickstep Floors), อเล็กซานเดอร์ คริสทอฟ (Katusha-Alpecin), ไมเคิล แมธธิวส์ (Sunweb), เนเซอร์ บูฮานี (Cofidis) ไบรอัน โคคอร์ (Direct Energie) และดีแลน โกรเวนเกน (LottoNL-Jumbo) คือสปรินเตอร์ที่ลงสนามนี้ครับ ขาดตัวสำคัญแค่คาเวนดิช (Dimension Data) และคาเล็บ ยวน (Orica-Scott) ก็ครบองค์ แต่ก็น่าจะได้เกมสปรินต์สนุกๆ ในช่วงสเตจ 1-3 ซึ่งเป็นทางราบครับ

ถ่ายทอดสดวันไหน?

5-12 มีนาคม เวลา 21:30-23:00 เช็คลิงก์สตรีมมิ่งได้ที่ duckingtiger.com/live

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *