โปรทัวร์ใน 5 นาที: ยุงเกลส์ชนะ Liege-Bastogne-Liege

อีกหนึ่งสนามคลาสสิค, อีกหนึ่งชัยชนะของ Quickstep Floors กับแชมป์รายการคลาสสิคระดับ Monument ที่ท้าทายที่สุดในปีนี้ใน Liege-Bastogne-Liege เมื่อ บ็อบ ยุงเกลส์ นักปั่นชาวลักเซมเบิร์กวัย 25 ปีของทีม ออกหนีเดี่ยวตั้งแต่ 19 กิโลเมตรสุดท้ายบนเนินชันคัดตัว ชิงเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกก่อนอันดับสองถึง 37 วินาที คว้าชัยชนะลำดับที่ 27 ของทีมประจำฤดูกาลนี้

รูปเกมใน Liege วันนี้ต่างไปจากปีอื่นๆ ในช่วงสุดท้ายของการแข่งขันที่ปกตินักปั่นตัวเต็งมักเข้าสู่เนินชันสุดท้ายด้วยกันแล้วสปรินต์แข่งกันจากกลุ่มเล็ก แต่ Quickstep เล่นแผนอื่น หลังจากเบรคอเวย์โดนรวบจับจนหมดที่ราว 23 กิโลเมตรสุดท้าย ทีมส่งฟิลลิป จิลแบร์ อดีตแชมป์ออกชิงหนีคู่แข่ง แต่ถึงจะเป็นการโจมตีที่ไม่สำเร็จ ยุงเกลส์ก็สานต่องานของจิลแบร์ กระแทกกลุ่มหนีออกไปคนเดียวที่ราว 19 กิโลเมตรสุดท้าย ขณะเดียวกันด้านหลังก็เกิดการโจมตีจากตัวเต็งหลายคน ตัดทอนกลุ่มเปโลตองจนเหลือผู้ท้าชิงไม่กี่คน

Lotto-Soudal เป็นทีมที่รุกหนักเป็นพิเศษ ส่งทิม เวลเลนส์ โจมตีกลุ่มเพื่อไล่จับยุงเกลส์ถึงสี่ครั้ง แต่ทุกครั้งเขาก็โดนทีมคู่แข่งไล่ทัน ไม่ว่าจะเป็นแชมป์เก่าแดน มาร์ติน (UAE), เซอร์จิโอ้ เฮนาว (Sky), อเลฮานโดร วาวเวอเด้ (Movistar) แต่ถึงจะชิงทำระยะออกไปกันได้บ้าง จูเลียน อลาฟิลลิป อีกหนึ่งตัวเต็งของ Quickstep ก็ไล่คุมเกมดึงจับทุกคนเข้ากลุ่ม เปิดโอกาสให้ยุงเกลส์ทำเวลาหนีห่างออกไปเรื่อยๆ จนนำได้ร่วมห้าสิบวินาที

สิบกิโลเมตรสุดท้าย เยลล์ แวนเนนเดิร์ท วัย 33 ปีจาก Lotto-Soudal ออกชิงหนีกลุ่มบนเนิน Cote du Sanint-Nicolas ความยาว  1.2 กิโลเมตรแต่ความชันร่วม 10% เป็นการโจมตีเดียวหลังจากยุงเกลส์ที่ชิงหนีเปโลตองออกมาได้ และลดระยะห่างระหว่างเขากับยุงเกลส์เหลือไม่ถึงสามสิบวินาที ไม่นานจากนั้น โรมัน บาเดต์ (AG2R) และไมเคิล วูดส์ (EF Education First Drapac) ออกไล่ตามแวนเนนเดิร์ท ที่แรงตกลงเรื่อยๆ และเกมเริ่มชัดขึ้นว่ายุงเกลส์จะไม่มีทางถูกจับในคืนนี้ เพราะถึงสองกิโลเมตรสุดท้าย เขายังมีเวลานำแวนเนนเดิร์ทกว่า 30 วินาที

ยุงเกลส์เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก เก็บชัยชนะระดับ Monument ให้ชาวลักเซมเบิร์กเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีหลังจากที่แอนดี้ ชเล็คเคยได้แชมป์รายการนี้ วูดส์ สปรินต์นำบาเดต์เข้าเส้นชัยเป็นอันดับสอง แวนเนนเดิร์ทแรงตกในช่วงสองร้อยเมตรสุดท้าย ไม่ติดโพเดี้ยม และอลาฟิลลิปจาก Quickstep สปรินต์ตัดกลุ่มไล่เข้ามาเป็นอันดับสี่ อดีตแชมป์และตัวเต็งเบอร์หนึ่งของวันนี้ อเลฮานโดร วาวเวอเด้ ทำได้เพียงอันดับ 13 เข้าเป็นคนสุดท้ายของกลุ่มไล่

DT Comment: เป็นอีกหนึ่งสนามที่ Quickstep เดินเกมได้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ตั้งแต่จังหวะส่งจิบแบร์ออกตัดแรงกลุ่ม, ส่งยุงเกลส์ต่อเกม และใช้อลาฟิลลิปคอยคุมสถานการณ์ด้านหลังยุงเกลส์ไม่ให้มีใครหนีออกไปจับเขาได้ เป็นเกมที่คู่แข่งแก้ได้ยากถ้าขาดความร่วมมือกัน ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ อย่างที่เราเห็นทีมคู่แข่งสลับกันโจมตี พยายามชิงหนีกันเอง ซึ่งช่วยให้นักปั่นที่ปั่นสไตล์ Time Trial ได้ดีอย่างยุงเกลส์ได้เปรียบในสถานการณ์แบบนี้ ที่เขาคงความเร็วสูงไว้ได้ตลอด ไม่ต้องคอยเร่งๆ จอดๆ เหมือนในเกมของกลุ่มไล่ด้านหลัง

และเป็นที่น่าเสียดายสำหรับวาวเวอเด้ที่ทำตามฝัน หวังคว้าแชมป์ Liege ให้ได้เป็นสมัยที่ 5 เทียบเท่าเอ็ดดี้ เมิร์กซ์ ไม่สำเร็จ แต่เจ้าตัวก็กล่าวชื่นชมกับแผนการที่ไร้ที่ติของ Quickstep ในภายหลัง

https://www.instagram.com/p/Bh4UfuGl5Rb/

อันดับสอง ไมเคิล วูดส์ นักปั่นชาวแคเนเดียนก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน จากที่เคยได้อันดับ 7 ใน Vuelta a Espana เมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ยกระดับมาติดโพเดี้ยมในสนามคลาสสิคระดับ Monument เช่นเดียวกับโรมัน บาเดต์ (AG2R) ที่ปีนี้ทำผลงานในสนามแข่งวันเดียวได้เยี่ยมยอด เป็นพิเศษ​ ติดทั้งอันดับสองใน Strade Bianche และอันดับสามในรายการนี้

จบสนามนี้แล้วก็ถือว่าสิ้นสุดช่วงการแข่งขัน Spring Classics อย่างสมบบูรณ์แบบครับ เดือนหน้าเราจะมีสนามใหญ่เป็นแกรนด์ทัวร์รายการแรกของปี Giro d’Italia ที่จะเริ่มแข่งขันวันที่ 4 พฤษภาคมนี้แล้ว 

วิดีโอไอไลท์

ผลการแข่งขัน

แอนนา แวน เดอ เบรจเจน ชนะ Liege-Bastogne-Liege Femme

ในฝั่ง Liege-Bastogne-Liege หญิง ทีม Boels-Dolmans ยังคงผูกขาดชัยชนะสนามอาร์เดนส์ทุกรายการ ตั้งแต่ Amstel Gold, Fleche Wallonne และล่าสุด Liege-Bastogne-Liege ด้วยฝีเท้าของนักปั่น MVP ของทีม แอนนา แวน เดอ เบรจเจน กวาดชัยชนะสามรายการรวด

Liege หญิงเส้นทางรวม เพียง 136 กิโลเมตร สั้นกว่ารายการชาย 120 กิโลเมตร แต่ก็รวมเอาเนินชันสำคัญๆ ไว้ในเส้นทางทุกจุด ตัวเต็งหลายคนพยายามชิงหนีทำเกมก่อนทีม Boles-Dolmans โดยเฉพาะบนเนินชันครั้งสุดท้าย Cot de la Roche aux Faucons ที่อมานดา สปราตต์จาก Mitchelton-Scott ชิงหนีได้ก่อน ทอนกลุ่มหลังจนเหลือคนไล่ราวๆ สิบคน 

อมันดาทำเวลาห่างได้ราว 45 วินาทีกับระยะทาง 10 กิโลเมตรสุดท้าย แต่ถูกเร่งกระชั้นไล่โดยแอชลีย์ มูแมน (Cervelo Bigla) และแวน เดอ เบรจเจน (Boels-Dolmans) จนไล่ทันที่ห้ากิโลเมตรสุดท้าย ทั้งสามคนหนีกลุ่มไปด้วยกัน แต่แวน เดอ เบรจเจนเปิดเกมกระแทกออกที่กิโลเมตรสุดท้าย เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ป้องกันแชมป์ปี 2017 ได้สำเร็จ 

ผลการแข่งขัน

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!